KOSEN KMUTT ก้าวสู่ปีที่ 3 มุ่งเปิด “หลักสูตรวิศวกรรมชีวภาพ” จากฐานคิด Monozukuri สู่ทักษะวิศวกร


จากเป้าหมาย “ผลิตวิศวกรนักปฏิบัติ นักเทคโนโลยี และนวัตกร รองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)” เกิดเป็นความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)  และสถาบัน KOSEN ประเทศญี่ปุ่น  ในการนำเทคนิคการสอนของประเทศญี่ปุ่นมาต่อยอดเป็นหลักสูตรสาขาวิศวกรรมแนวใหม่ ภายใต้โครงการ  KOSEN KMUTT (โคเซ็น มจธ.) เพื่อคัดเลือกเด็กระดับมัธยมศึกษาปีที่3 ที่เข้าร่วม “โครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค” 

ทั้งนี้ผู้ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการที่ผู้เรียนจะได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ ม.4 จนถึงระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 ในสาขาวิศวกรรม รวมถึงยังมีสิทธิ์ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก ทำให้การเปิดรับสมัครผู้เรียนในหลักสูตร Automation Engineering ภายใต้โครงการ KOSEN KMUTT ได้รับความสนใจจากเยาวชนระดับหัวกะทิที่มีความสนใจทางสายวิศวกรรมเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้โอกาสกับเด็กนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อในสายวิศวกรรม ในสาขาวิศวกรเฉพาะทาง ซึ่งเป็นที่มีความต้องการสูงของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต โครงการ KOSEN KMUTT จึงเปิดหลักสูตรเพิ่มขึ้นอีก 1 หลักสูตร คือหลักสูตรวิศวกรรมชีวภาพ (Bio Engineering ) ในปีการศึกษา 2565 โดยจะมีการสอบคัดเลือกรอบแรกประมาณต้นเดือนมกราคม 2565

ดร.ก้องกาญจน์ วชิรพนัง ผู้อำนวยการสำนักงานห้องเรียนวิศว์-วิทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ซึ่งรับผิดชอบโครงการ KOSEN KMUTT กล่าวว่า จากการทำงานร่วมกับสถาบัน KOSEN ของญี่ปุ่น และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่ ทำให้พบว่านอกจากวิศวกรรมอัตโนมัติ หรือ  Automation Engineering  ที่เป็นงานด้านวิศวกรรมซึ่งเกี่ยวกับการจัดการให้กระบวนการต่างๆ สามารถดำเนินไปโดยอัตโนมัติและประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด จะเป็นสายอาชีพด้านวิศวกรรมที่มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการสูงในอนาคตแล้ว ขณะที่ วิศวกรรมชีวภาพ หรือ  Bio Engineering   ก็เป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่น่าจะมีความต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในระดับสูงเช่นกัน

“ในช่วง 2 ปี ที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ  COVID-19  ทำให้ มจธ. เห็นถึงศักยภาพกับความความพร้อมของสองอุตสาหกรรมไทยที่มีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต ก็คือ  ‘อุตสาหกรรมอาหาร’ หรือ Food for the Future ทั้งในแง่ของ Functional Food และอาหารเฉพาะกลุ่ม  กับ ‘Bio pharmaceutical’  ทั้งด้านเภสัชภัณฑ์และการผลิตวัคซีน แต่สิ่งที่ต้องทำไปพร้อมกัน คือการสร้างวิศวกรด้านวิศวกรรมชีวภาพไว้รองรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ดร.ก้องกาญจน์ กล่าว

แม้ปลายทางของเด็กภายใต้หลักสูตรนี้ จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอาหารและยา  แต่หลักสูตรนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างฐานความรู้ด้านวิศวกรรมควบคู่ไปกับกับการเรียนด้านชีววิทยา และศาสตร์ด้านเคมี  โดยนำเนื้อหาทั้ง 3 ด้าน มาปรุงเป็นหลักสูตรแบบ KOSEN ผสานแนวทางการฝึกแบบโมโนซูการิ  (Monozukuri) ซึ่งเป็นคำญี่ปุ่น “Mono” หมายถึง สิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ กับ “Zukuri” หมายถึง การผลิต การสร้างสรรค์ ที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างวิศวกรที่มีทักษะระดับสูง

“สิ่งที่เราปลูกฝังให้เขาตลอดระยะเวลา 5 ปีของหลักสูตรนี้ คือ หนึ่ง การมีฐานด้านการคิดคำนวณที่ดี  สอ งมีความคิดสร้างสรรค์ เพราะเราจะมีการให้โจทย์ที่ท้าทายความคิดของเขาตลอดเวลา  สาม มีทักษะในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง  สี่ เป็นทั้งนักคิดและนักปฏิบัติ ที่สามารถแปลงความคิดสร้างสรรค์ไปสู่การลงมือทำให้เกิดผลได้จริง และสุดท้ายคือ Responsibility หรือ มีความรับผิดชอบต่องานและต่อสังคม ทั้งหมดนี้จะทำให้เขาสามารถสร้างผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของมนุษย์และคนในสังคมได้อย่างแท้จริง” ดร.ก้องกาญจน์ กล่าว

 

KOSEN KMUTT ต่างจากหลักสูตรทั่วไปอย่างไร

สิ่งที่ KOSEN KMUTT ต่างจากหลักสูตรทั่วไป คือการทำให้เด็กทุกคนได้รู้ตั้งแต่แรกว่า ปลายทางหรือจุดหมายของเขาคืออะไร โดยสิ่งที่เด็กจะต้องทำตลอด 5 ปีของการเรียนรู้ที่นี่ คือ การหาแนวทางของตนเองที่จะเดินไปสู่ฝันของเขาด้วยตนเอง

“หลักสูตรของเราต่อยอดแนวคิดการเรียนรู้แบบ Active Based Learning  เด็กจะได้เรียนแบบเห็นภาพจริง ลงมือทดลอง และสร้างสรรค์จริง  โดยครูจะทำหน้าที่เป็นโค้ช และเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก เราจะเน้นที่พัฒนาการของแต่ละคน รวมถึงการมีผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมจาก KOSEN ญี่ปุ่น มาช่วยประสานกับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เพื่อให้เด็กได้เข้าไปฝึกงานจริงๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรมร่วมสอนและดูแลอย่างใกล้ชิด” ดร.ก้องกาญจน์ กล่าว

ดร.ก้องกาญจน์ กล่าวถึงการถ่ายโอน “โครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค” จากกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นกระทรวงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า นอกจากกระทรวง อว. จะมีสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานในสังกัด ที่มีการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่องแล้ว อว.ยังมีประสบการณ์ในการทำงานภายใต้โครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ หรือ วมว. ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นผลดีต่อการดำเนินโครงการ KOSEN KMUTT อย่างแน่นอน


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save