กรุงเทพฯ- 5 กรกฎาคม 2565 : แคนนอน ตอบสนองความต้องการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเมืองไทย เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทซีรีส์ใหม่ “PIXMA BUSINESS INKJET – GX Series” พร้อมกัน 3 รุ่น ได้แก่ PIXMA GX5070, PIXMA GX6070 และ PIXMA GX7070 เสริมประสิทธิภาพให้บริษัทขนาดเล็กด้วยโซลูชันการพิมพ์ที่คุ้มค่า ขจัดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งค่าหมึกและค่าไฟด้วยฟังก์ชั่นงานพิมพ์ที่ครอบคลุม ทั้งการพิมพ์สีและขาวดำปริมาณมากด้วยความเร็วสูง ช่วยให้ SME เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานไปพร้อมการควบคุมต้นทุน เพิ่มผลกำไรและเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง
เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการ – กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่สถานการณ์แพร่ระบาดCOVID-19 เริ่มคลี่คลายและเศรษฐกิจกำลังกำลังฟื้นตัว ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องพยายามรัดเข็มขัดเพื่อให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างราบรื่น และหนึ่งในหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและเติบโตของบริษัทก็คือ ‘การควบคุมค่าใช้จ่าย’ ในช่วงที่รายได้ยังไม่มีความแน่นอนเช่นทุกวันนี้
แคนนอน จึงได้ออกแคมเปญ ‘Canon Printer Simple…Just Like That’ เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มได้ค้นพบโซลูชั่นการพิมพ์ที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด โดยได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์ PIXMA BUSINESS INKJET – GX Series รุ่นใหม่ ซึ่งมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจ SME เป็นหลัก โดยเน้นเรื่องความประหยัดคุ้มค่าและฟังก์ชั่นการพิมพ์ที่ครบจบในเครื่องเดียวโดยไม่ต้องซื้อเครื่องพิมพ์เฉพาะด้านเพิ่ม ช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในเมืองไทยได้อย่างคุ้มค่า
Canon PIXMA GX Series ชูคุณสมบัติเด่นมากมายที่ช่วยลดต้นทุนทั้งด้านค่าใช้จ่าย แรงงาน และเวลา เพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างความเติบโตแก่ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก
เมื่อเลือกพิมพ์งานในโหมด Economy สามารถพิมพ์งานได้เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า หรือคิดเป็นเอกสารสีกว่า 21,000 แผ่น และขาวดำ 9,000 แผ่น ทั้งยังกินไฟต่ำ รองรับงานพิมพ์ได้หลากหลายทั้งการพิมพ์เอกสารขนาด A4 ทั่วไปและจดหมายแบบต่าง ๆ คุ้มค่าต่อการลงทุน พร้อมช่องใส่กระดาษขนาดใหญ่ที่จุได้มากกว่า ประหยัดแรงงานและเวลาในการเติม เพิ่มประสิทธิภาพการพิมพ์งานปริมาณมากได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ยังใช้แทงก์หมึกขนาดใหญ่จึงไม่ต้องเติมบ่อย เพียงใส่เข้าล็อกง่าย ๆ ก็พร้อมงานได้ทันที ผลการทดสอบของแคนนอนพบว่าบริษัทขนาดเล็กที่พิมพ์งานเพียงเดือนละประมาณ 1,000 แผ่น ภายในระยะเวลา 5 ปี จะเติมหมึกสีดำเพียง 10 ครั้ง และหมึกสี สีละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งจะสามารถพิมพ์เอกสารรวมได้กว่า 6,000 แผ่น พร้อมความง่ายที่ให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชุดฟองน้ำซับหมึก (Ink Maintenance Cartridge) ได้เองอย่างง่าย ๆ จึงไม่เสียเวลาในการส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการเหมือนในอดีต ทำให้สามารถพิมพ์งานได้ต่อเนื่องและรวดเร็วกว่า
ด้วยประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 90% ในโหมด Stand by พร้อมระบบเปิด-ปิดเครื่องอัตโนมัติ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน และด้วยกระบวนการพิมพ์ที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่น จึงมีความปลอดภัยแม้นำไปใช้งานในพื้นที่ควบคุม เช่น สถานพยาบาล สถานศึกษา หรือแม้แต่ในห้องสำนักงานขนาดเล็ก อีกทั้งการใช้แทงก์หมึกขนาดใหญ่ ยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้อีกทางหนึ่ง
“การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้งานให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าต่อการลงทุนสูงสุด รวมถึงการพิมพ์เอกสารต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของสำนักงานแทบทุกแห่ง แคนนอนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมธุรกิจทุกระดับให้สามารถยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน ผ่านพ้นทุกช่วงเวลาอันท้าทาย และก้าวสู่สู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน” เนตรนรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย