กรุงเทพฯ – 21 มีนาคม 2566 : realme (เรียลมี) แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตรวดเร็ว จัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่น ทั้ง realme C55 ที่โดดเด่นด้วยการอัปเกรด 4 ฟีเจอร์หลักเพียงรุ่นเดียวในตลาดสมาร์ทโฟน Entry-level จนได้รับฉายา “A Champion of The Segment” และ realme 10T 5G รุ่นต่อยอดในตระกูล Number Series ที่ครองใจหนุ่มสาวมาแล้วทั่วโลก มาพร้อมซีพียูใหม่ที่ทำงานได้ลื่นไหลเต็มประสิทธิภาพระดับแฟล็กชิป พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 5G เพื่อตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม
realme C55 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดหลังจากเรียลมีได้ประกาศกลยุทธ์การอัปเกรดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นเพื่อสร้างสรรค์สุดยอดผลิตภัณฑ์ “แชมป์สมาร์ทโฟนของเซกเมนต์ที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้” ซึ่งมอบฟีเจอร์ประสิทธิภาพสูงทั้งในด้านกล้องถ่ายภาพ หน่วยความจำ ระบบชาร์จไฟ และดีไซน์ตัวเครื่อง
นครินทร์ สาสนกุลวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ฺ realme ประเทศไทย กล่าวว่า รุ่นC55 มาพร้อมกล้องถ่ายภาพความละเอียด 64 ล้านพิกเซลเป็นรุ่นแรกของเซกเมนต์ พร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซลและเลนส์ขาวดำอีก 2 ล้านพิกเซล ทั้งยังเป็นรุ่นแรกในตระกูล C Series ที่ใช้เซ็นเซอร์กล้องขนาดใหญ่ถึง 1/2 นิ้ว โดยเป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่นแฟล็กชิปอย่าง GT Master Edition กับขนาดพิกเซลที่ใหญ่ถึง 0.7μm โดย C55 เพิ่มขนาดเซ็นเซอร์ถึง 54% ส่งผลถึงการเพิ่มความคมชัดและรายละเอียดภาพถึง 53.8%
realme C55 ยังมาพร้อมหน่วยความจำขนาดใหญ่มอบพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB และยังสามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 1TB ผสานกับ DRE Technology ที่สามารถเพิ่ม RAM ได้เป็น 8+8GB หรือรวมเป็น 16GB เพื่อมอบประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่ลื่นไหล
พร้อมกันนีั้ได้ใส่เทคโนโลยีระบบชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh จาก 0-100% ในเวลาเพียง 63 นาที ผู้ใช้งานจึงไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานระหว่างวัน
ในส่วนของดีไซน์ฝาหลัง C55 มอบความสวยงามด้วยดีไซน์แบบ Sunshower ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากองค์ประกอบต่าง ๆ ในธรรมชาติ และมอบประกายอันระยิบระยับของอนุภาคแสงกว่า 500,000 จุด นำเสนอ 2 โทนสีที่หรูหราเกินราคาทั้ง Sunshower และ Rainy Night เพื่อมอบความงดงามที่แตกต่างตามสไตล์แต่ละคน พร้อมออกแบบรูปทรงตัวเครื่องที่สวยเพรียวบางเพียง 7.89 มม.
realme C55 ใช้ชิปเซ็ต Helio G88 บนสถาปัตยกรรม octa-core ระดับ 12nm และการ์ดจอ Mali-G52 มอบความเร็วถึง 2.0GHz การันตีความแรงเกินราคาด้วยคะแนน Antutu benchmark ที่ 273,364 และrealme C55 ยังเป็น Android สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมฟีเจอร์ “Mini Capsule” ลูกเล่นอันชาญฉลาดในการแสดงผลหน้าจอครอบทับบริเวณที่เป็นเลนส์กล้องหน้า เพื่อแสดงผลฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์และเพิ่มความสนุกสนานแก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนตระกูล 10 Series ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวมากยิ่งขึ้น จึงพัฒนารุ่นต่อยอด realme 10T 5G เพื่อตอบโจทย์ในด้านความคุ้มค่าเป็นสำคัญ โดยยังคงมอบประสิทธิภาพใกล้เคียงกับรุ่นท็อปไม่เปลี่ยนแปลง
realme 10T 5G ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 810 5G ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลังที่สุด ด้วยการผสานการทำงานขั้นสูงของแกนประมวลผล Arm Cortex-A76 เข้ากับสถาปัตยกรรม octa-core ระดับ 6nm เพื่อเพิ่มความเร็วซีพียูรวมให้สูงถึง 2.4GHz พร้อมการประหยัดพลังงานที่มากกว่า นอกจากนี้ ยังใช้การ์ดจอ Arm Mali-G57 MC2 ที่ความเร็ว 950MHz เพื่อรองรับอัตรา Refresh rate หน้าจอที่ 90Hz
และยังมาพร้อมจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth Display ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080×2408 FHD+ และ Sampling rate สูงถึง 180Hz (ในขณะที่สมาร์ตโฟนระดับราคาเดียวกันจะมี Refresh rate เพียง 60Hz) และเต็มตากับการแสดงผลเฉดสีกว่า 16.7 ล้านสี
เรียลมีใส่เทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion ที่เพิ่ม RAM เป็น 8+8GB รวม 16GB ซึ่งเพียงพอต่อการเปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกันในแบบ Multi-tasking มอบหน่วยความจำ 256GB และเพิ่มเมโมรี่การ์ดได้สูงสุดถึง 1TB ผสานขุมพลังแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh จึงการันตีการใช้งานที่ต่อเนื่อง ลื่นไหลและยาวนาน และอีกหนึ่งจุดเด่นของ realme 10T 5G คือสล็อตใส่ซิมการ์ดแบบ Dual 5G รอบรับอินเตอร์เน็ต 5G ได้ทั้งสองซิม ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการบริหารการใช้งานและการเชื่อมต่อที่รวดเร็วโดยไม่ต้องเลือกสลับซิม
ไฮไลท์สำคัญคือเทคโนโลยีกล้อง Advanced 50MP Triple Camera ที่มีเลนส์หลักความละเอียดถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Portrait และ Macro ที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพของวันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
realme 10T 5G ยังจัดเต็มกับดีไซน์ฝาหลังที่ล้อไปกับรุ่น Pro และ Pro+ ด้วยการออกแบบสไตล์ HyperSpeed โดยมีลำแสงพุ่งออกมาจากโมดุลกล้อง ซึ่งมอบทั้งความสวยงามและสร้างจุดโฟกัสสายตาได้อย่างน่าทึ่ง พร้อมตัวเครื่องที่บางเพียง 8.1 มม. น้ำหนัก 187 กรัมเท่านั้น นำเสนอ 2 โทนสีคือ Dash Blue และ Electric Black
realme C55 วางจำหน่ายด้วยกัน 2 สีคือ สี Sunshower และสี Rainy Night รุ่นความจุ 6+128GB ราคา 5,999 บาทและรุ่นความจุ 8+256GB ราคา 7,299 บาท โดยวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 31 มีนาคมผ่านช่องทาง realme brand shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สำหรับช่องทางออนไลน์ สามารถเป็นเจ้าของ realme C55 ได้ก่อนใคร โดย เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะช่องทาง Lazada ที่เดียว พร้อมราคาสุดพิเศษเฉพาะวันที่ 27 มีนาคม – 1 เมษายน ศกนี้
ส่วนrealme 10T 5G วางจำหน่าย 2 รุ่นความจุ โดยในรุ่นความจุ 4+128GB มาในราคา 6,999 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้กับช่องทางโอเปอร์เรเตอร์ 3 ช่องทาง ได้แก่ AIS, True และ DTAC ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,890 บาท รับไปเลยทันที realme Gift Box มูลค่า 1,199 บาท, E-VIP Card ประกันจอแตกนานสูงสุด 1 ปีมูลค่า 1,999 บาท และ realme Care Service และรุ่นความจุ 8+256GB ราคา 8,999 บาท สามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยจัดจำหน่ายวันแรกในวันที่ 8 เมษายน ศกนี้ สามารถเป็นเจ้าของได้ก่อนใครผ่านช่องทาง Shopee และ Lazada โดยสามารถสั่งซื้อ realme 10T 5G เฉพาะรุ่นความ 8+256GB ได้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ศกนี้เป็นต้นไป พร้อมรับทันทีเครื่องทำความชื้น Humidifier และแก้วน้ำ Tall Tumbler