บีโอไอหนุนเบนซ์เปิดโรงงานประกอบEV และ BEV รายแรกในไทย เดินหน้ารุกตลาด EV เต็มรูปแบบ


บีโอไอมั่นใจอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแข็งแกร่ง พร้อมเป็นฐานการผลิตหลักของภูมิภาค หลังค่ายรถยนต์ระดับโลกเดินหน้าลงทุนไทย ขอรับการส่งเสริมแล้ว 14 ราย พร้อมชูกลยุทธ์ 3 ด้าน เดินหน้าผลักดันอุตสาหกรรม EVอย่างต่อเนื่อง สร้างความเข้มแข็งซัพพลายเชน พัฒนาระบบนิเวศรองรับการสร้างฐานอุตสาหกรรมยั่งยืนระยะยาว ล่าสุดนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมกิจการ “เมอร์เซเดสเบนซ์” ผู้ผลิตแบรนด์รถชั้นนำจากเยอรมนี พร้อมพันธมิตรสำคัญ  บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด และ ผู้ประกอบรถยนต์ และบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผลิตแบตเตอรี่ EVครบวงจร

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ (กลาง) เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากมีการจ้างงานถึงกว่า 8 แสนคน มีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในซัพพลายเชนกว่า 3,000 บริษัท มีมูลค่าส่งออกกว่า 9 แสนล้านบาท เป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศไทย ดังนั้น การเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ในครั้งนี้ จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญและมีความหมายอย่างมากต่อการสร้างความยั่งยืนของฐานการผลิตยานยนต์ในไทย โดย EV จะเป็นหัวจักรใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว และยังช่วยลดปัญหามลพิษจากภาคการขนส่ง ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย

 

บีโอไอมุ่งเน้น 3 กลยุทธ์สำคัญ

ผลักดันไทยเป็นฐานการผลิต ส่งออก EVระดับโลก

การสร้างฐานอุตสาหกรรมEV ถือเป็นนโยบายระดับประเทศที่หลายหน่วยงานมาร่วมกันผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นบีโอไอ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน โดยไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่ออกมาตรการแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมผู้ผลิตและการสร้างตลาดในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ตลาดEVในประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีบริษัทรถยนต์และชิ้นส่วนให้ความสนใจลงทุนตั้งฐานการผลิตเป็นจำนวนมาก  โดยปัจจุบันมีนักลงทุนรายสำคัญขอรับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) แล้วจำนวน 14 ราย และยังคงมีแนวโน้มความสนใจจากบริษัทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

“แม้ว่าประเทศไทยจะประสบความสำเร็จด้วยดีในการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงเริ่มต้น แต่ระยะต่อไปจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น ประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีมาตรการสนับสนุน EV  อย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางการส่งเสริม EVของบีโอไอในระยะต่อไป จะมุ่งเน้น 3 กลยุทธ์สำคัญ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกอีวีระดับโลกให้ได้ ได้แก่ 1) เดินหน้าดึงบริษัทตั้งฐานผลิตEVอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนผู้ประกอบการรายเดิมให้เปลี่ยนผ่านมาสู่ EV และดึงบริษัทรายใหม่ๆ เข้ามาลงทุนเพิ่มเติม  2) สร้างความเข้มแข็งให้ซัพพลายเชนในประเทศ โดยเฉพาะการผลิตแบตเตอรี่และชิ้นส่วนสำคัญของ EV รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพของ SMEs ไทยที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนใหม่ของEVด้วย และ 3. ส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศของEV โดยเฉพาะในด้านสถานีชาร์จไฟฟ้า การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง การปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ให้เอื้อต่อธุรกิจEV การจัดทำมาตรฐาน รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งของศูนย์ทดสอบ ศูนย์วิจัยและพัฒนา เพื่อรองรับการสร้างฐานอุตสาหกรรมอีวีที่ยั่งยืนในระยะยาว” นฤตม์ กล่าว

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้บริหารระดับสูงของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก (Regional Overseas Meeting) ที่กรุงเทพฯ โดยเลขาธิการบีโอไอ ได้รับเชิญให้เป็นผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ มาร่วมพบปะและนำเสนอมาตรการของภาครัฐในที่ประชุมด้วย

“บีโอไอ ได้นำเสนอผู้บริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์จากทั่วโลก ให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซัพพลายเชนที่ครบวงจร ศักยภาพการเติบโตของตลาดในประเทศ และมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ  โดยทางผู้บริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ให้ความสนใจซักถามหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนด้านสถานีชาร์จไฟฟ้า ความพร้อมของระบบจัดหาพลังงานหมุนเวียนสำหรับภาคธุรกิจ ความต่อเนื่องของมาตรการสนับสนุน (EV3) และการใช้ประโยชน์จาก FTA ต่างๆ เพื่อให้ไทยเป็นฐานการส่งออก EVไปทั่วโลก” นฤตม์ กล่าว

ล่าสุดบีโอไอ ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมกิจการของ บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง
(
ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำ พร้อมด้วย บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด และบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของบริษัท ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เดินหน้าลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรายแรก และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Batterry Electric Vehicles: BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (Plug-In Hybrid Electric Vehicles: PHEV) พร้อมกันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เลือกให้บริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ป้อนให้แก่รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 7 โรงงานผลิตแบตเตอรี่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วโลกอีกด้วย

ด้านมาร์ค เบอร์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บีโอไอ คือหน่วยงานสำคัญที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยทั้งในด้านของการส่งเสริมการลงทุนในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ รวมถึงการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีการร่วมมือกับทางบีโอไออย่างต่อเนื่อง และได้รับการส่งเสริมการลงทุนในส่วนของโครงการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตรอย่าง บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด และบริษัท ธนุบรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

“เราได้ผลิตรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดและเริ่มประกอบแบตเตอรี่ตั้งแต่ปี 2562 และในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เริ่มต้นขึ้นไลน์การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง EQS 500 4MATIC AMG Premium ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ประกอบในประเทศไทย รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ติดตั้งในรถรุ่นดังกล่าว ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับลักชัวรี่แบรนด์รายแรกที่มีการผลิตและประกอบแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทย”  มาร์ค กล่าว

EQS 500 4MATIC AMG Premium ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ประกอบในไทย

วีระชัย เชาวน์ชาญกิจ กรรมการบริหาร บริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TESM)  ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถ Plug-in Hybrid และรถยนต์ BEV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์  กล่าวว่า บริษัท ฯ ก่อตั้งขึ้นวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2560 ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ภายใต้เครือธนบุรีพานิช และบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย และเป็นผู้ประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จากโรงงานประกอบรถยนต์สู่ตลาดภายในประเทศไทยมากกว่า 100,000 คัน โดยความผูกพันของธนบุรีฯ กับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มีมาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี และด้วยความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท เมอร์เซเดส เบนซ์ ในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จด้วยดีตลอดมา บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด จึงตัดสินใจจัดตั้งบริษัท ธนบุรี เอนเนอร์ยี่ สตรอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และนโยบายผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

ประกอบเซลล์โมดูล

ปัจจุบันTESM  ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถ Plug-in Hybrid และรถยนต์ BEV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมีผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ที่มีขนาดกำลังไฟฟ้า 13.8 kWh, 19.3 kWh, 21.4 kWh และ 108.4 kWh แบตเตอรี่ที่ผลิตได้ใช้สำหรับการประกอบรถยนต์ในประเทศเป็นหลัก ในปี 2563 บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ให้ส่งออกแบตเตอรี่ที่บริษัทฯ ผลิตขึ้น กลับไปยังบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนีอีกด้วย โดยบริษัทฯ ดำเนินการในเขตปลอดอากรตามหลักเกณฑ์ของกรมศุลกากร และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

ขั้นตอนApply Heatpaste ฉีดสารระบายความร้อนแบตเตอรี่ บริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

เมื่อเร็วๆ นี้ บีโอไอเตรียมเดินสายโรดโชว์ ชักจูงการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ณ ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2566 เพื่อดึงนักลงทุนรายใหญ่มายังประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเกิดการลงทุนในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่จากเกาหลีใต้ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save