SMC จัดงานOpen House 2023เผยความสำเร็จในการผลักดันอุตฯ ไทยก้าวสู่ 4.0 พร้อมเผยผลสำรวจระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ของไทยปี 2566


ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน หรือ Sustainable Manufacturing Center (SMC) ภายใต้เมืองนวัตกรรมระบบอัตโนมัติหุ่นยนต์และ- อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (ARIPOLIS) ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) หน่วยงานภายใต้สังกัดสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ พันธมิตรภาคอุตสาหกรรม จัดกิจกรรม เปิดบ้านศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน: SMC OPEN HOUSE 2023 ภายใต้แนวคิด “การผลิตแบบยั่งยืน เส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่โลกสีเขียว”  โดยรายงานผลสำรวจระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ของไทย ปี 2566  เป็นครั้งแรก พร้อมอัปเดตผลงานความก้าวหน้าการดำเนินงาน และบริการที่ผ่านมา รวมทั้งแผนงาน/กิจกรรมของ SMC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567  และการบรรยายพิเศษจาตัวอย่างความสำเร็จในปรับตัวสู่ Industry 4.0 จากภาคเอกชน    ณ สำนักงานใหญ่ EECi จังหวัดระยอง

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)

โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)  สวทช. เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน ผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย

ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) กล่าวว่า เป้าหมายหลักของศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน ต้องการผลักดันอุตสาหกรรมไทยก้าวเข้าสู่ Industry 4.0 โดยส่งเสริมและพัฒนาให้กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมสามารถนําเทคโนโลยีสารสนเทศ และนวัตกรรมมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตของโรงงาน

ในปีนี้ การเปิดบ้านศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน: SMC Open House 2023 ได้จัดงาน “ภายใต้แนวคิด “การผลิตแบบยั่งยืน เส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่โลกสีเขียว” ในรูปแบบ Low-Carbon Emission Event ที่มุ่งลดปริมาณ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงจากระดับปัจจุบัน นับเป็นกิจกรรมแรกๆ ที่เป็นการผนึกกำลังของหน่วยงานรัฐ ร่วมกับพันธมิตรอุตสาหกรรมเพื่อสร้างแนวทางและตัวอย่างในการจัดงานที่ยั่งยืน

สำหรับการดำเนินงานในปี 2566 ของ SMC มีจำนวนโรงงาน ผู้ประกอบการ ที่ได้รับถ่ายทอดเพื่อยกระดับ อุตสาหกรรมให้ใช้เทคโนโลยี ARI (Automation Robotic and Intelligent System) นำไปใช้สะสมจำนวน 178 หน่วยงาน โดยผ่านบริการด้านต่างๆ ของศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน เช่น การที่ได้รับบริการประเมินความ พร้อมโรงงานด้วย Thailand i4 index การให้คำปรึกษา เพื่อขอรับการสนับสนุนด้าน สิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และบริการให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคของ SMC จำนวนทั้งสิ้น 153 ราย การให้บริการฝึกอบรมถ่ายทอด เทคโนโลยีเพื่อยกระดับความพร้อมของ SMC จำนวนรวม 1,479 คน อีกทั้งสร้างผลกระทบทางสังคมและ การหมุนทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า เกิด Impact 5,262.24 ล้านบาท ผลักดันให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรม มากกว่า 120 ล้านบาท

ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2567 SMC มุ่งเป้าการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยืดหยุ่น มุ่งสู่ Industry 5.0 ผ่านกลไก 3-4-5  ได้แก่    3 มิติของการพัฒนาสู่ความยั่งยืน  มุ่งเป้าความยั่งยืนทางสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม

4 หัวข้อหลักในการวิจัยพัฒนาและให้บริการ  ประกอบด้วย 1) การวัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมตามแนวทาง Thailand i4.0 Index ซึ่งปีนี้จะเพิ่มเครื่องมือให้โรงงานประเมินตนเองเบื้องต้นได้   2) การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในโรงงาน SMC จะเปิดบริการเครื่องมือช่วยพัฒนา Edge IoT และ Machine Learning โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม รวมถึงเริ่มนำ ChatGPT สัญชาติไทยมาให้บริการร่วมกับหุ่นยนต์บริการ   3) การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก SMC พร้อมให้บริการศูนย์ทดสอบมอเตอร์ไฟฟ้าแห่งเดียวในประเทศที่สามารถทดสอบมอเตอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดสูงสุด 380 kW ได้ตามมาตรฐานนานาชาติ เช่น ISO-21782 และ UNECE-R85 และร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับใช้เป็นระบบคำนวณและทวนสอบ เพื่อให้สามารถรองรับภายใต้ข้อกำหนดของมาตรการการปรับภาษีคาร์บอนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (CBAM) และ 4) การพัฒนายกระดับศักยภาพของบุคลากรในภาคการผลิต ผ่านโครงการ SMC Academy และ EEC Model Type B

5 สิทธิประโยชน์สุดพิเศษ ที่เตรียมให้กับสมาชิก SMC ในปี 2567 ประกอบด้วย 1) รับการประเมิน Thailand i4.0 Index ฟรีโดยผู้เชี่ยวชาญของ SMC 2) การใช้งานเครือข่าย 5G Private Network, AIS Paragon Platform และ AIS 5G Manufacturing Platform สนับสนุนโดย AIS 3) เครื่องมือสร้างอุปกรณ์ AIoT Edge Computing พร้อมที่ปรึกษาการพัฒนาและติดตั้ง สนับสนุนโดย Smart Sense 4) เครื่องมือ IoT ตรวจวัดและวิเคราะห์ข้อมูลพลังงานเชิงลึก สนับสนุนโดย INET และ 5) การประเมินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเบื้องต้นของโรงงาน สนับสนุนโดย บีไอจี

ด้านดร. รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการกลุ่มแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 เผยผลการสำรวจ ระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยประจำปี 2566 ว่าดัชนี้ชี้วัด Thailand i4.0 Index  ทำการสำรวจบริษัทในภาคการผลิตจำนวน 150 บริษัท พบว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมของประเทศอยู่ในระดับ 2.8 (เต็ม 6) โดยการสำรวจเน้นใน 3 อุตสาหกรรมหลักของประเทศคือ ยานยนต์และชิ้นส่วน (53 ราย ค่าเฉลี่ย 2.71) อาหารและเครื่องดื่ม (39 ราย ค่าเฉลี่ย 2.77) ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (21 ราย ค่าเฉลี่ย 2.83) และ ที่เหลือเป็นอุตสาหกรรมอื่นๆ ในมิติของขนาดกิจการ ผู้ประกอบการขนาดเล็กมีค่าเฉลี่ยระดับอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.38 ผู้ประกอบการขนาดกลางมีค่าเฉลี่ยระดับอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.45 ผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีค่าเฉลี่ยระดับ อุตสาหกรรมอยู่ที่ 3.07 การตรวจวัดระดับนี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการทราบสถานะปัจจุบันของตนแล้ว ยังทำให้ทราบว่า ตนอยู่ห่างจากค่าเฉลี่ยหรือผู้นำในอุตสาหกรรมเดียวกันอยู่เพียงใด อีกทั้งยังช่วยแนะนำจุด ที่ควรเริ่มต้นปรับปรุง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)  ได้ออกมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยใช้ผลการประเมิน Thailand i4.0 Index เป็นเกณฑ์การพิจารณา ผู้ประกอบการสามารถนำเงินลงทุน 100% ไปหักจากภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเวลา 3 ปี

สำหรับบันได 4 ขั้น ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ขั้นแรกคือ การประเมินความพร้อมด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ที่ www.nstda.or.th/i4platform/checkup เพื่อให้ทราบว่าเบื้องต้นอุตสาหกรรมของตนอยู่ในระดับใด ขั้นที่สอง คือการประเมินความพร้อมในการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมรับคำแนะนำในการยกระดับโรงงาน โดยผู้ประกอบการและพนักงานอาจเข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้และทักษะด้านอุตสาหกรรม 4.0 ด้วย ขั้นที่สาม คือการรับคำแนะนำในการยกระดับอุตสาหกรรมทั้งด้านเทคโนโลยี เงินทุน และสิทธิประโยชน์ และอาจนำแผนงานมาทดสอบจำลองสถานการณ์ (Simulation) ด้วย Testbed อาทิ เครื่องจักร สายการผลิต และระบบดิจิทัลที่มีให้บริการ ก่อนลงทุนปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และกระบวนการผลิตภายในโรงงานจริง เพื่อลดการสูญเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย  และขั้นสุดท้ายคือการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม นำไปสู่การเพิ่มความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิต ลดต้นทุน ลดข้อเสีย และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ทั้งนี้ ได้เปิดระบบให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าทำการประเมิน Thailand i4.0 Index ได้ด้วยตนเองได้แล้ววันนี้ ผ่านเว็บไซต์ www.nstda.or.th/i4platform และเข้าไปยัง i4.0 Checkup ซึ่งเป็นระบบ Online Self-Assessment โดยผู้ประกอบการสามารถป้อนข้อมูลและรับผลการประเมิน ได้ทันที ส่วนผู้ประกอบการที่ต้องการรับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก สามารถสมัครเป็นสมาชิกของศูนย์ SMC เพื่อรับการประเมินได้ฟรี


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save