สจล. จับมือ CKML และ 4 มหาวิทยาลัยชั้นนำเปิดโอกาสให้นศ.เรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์ข้ามมหาวิทยาลัย


สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จับมือมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL) และ4 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมจัดตั้ง “สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์” เพื่อเปิดให้นักศึกษาเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล คอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ได้เรียนรู้และฝึกประสบการณ์แบบข้ามมหาวิทยาลัยได้ รองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ดีเดย์เปิดการเรียนการสอนปีการศึกษา พ.ศ.2565

ศ. ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มีความสำคัญและจำเป็นในการเรียนการสอนในยุคดิจิทัลอย่างมาก เนื่องมาจากในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ทั่วโลกได้มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้อย่างแพร่หลายทำให้เกิดการแข่งขันทางเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสของประเทศไทยในการแข่งขันในเวทีโลก ในการผลิตบุคลากร สร้างเครื่องมือและหลักสูตรใหม่ๆด้าน AI สัญชาติไทย เพื่อลดช่องว่างในการแข่งขันระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่พัฒนาแล้วให้ลดลง ทาง อว.จึงได้มีแนวนโยบายในการส่งเสริมองค์ความรู้ด้าน AI มาอย่างต่อเนื่อง 

“สำหรับความร่วมมือกันจัดตั้ง สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ ของทั้ง 6 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการผลิตกำลังคนของระบบอุดมศึกษาในอนาคต ช่วยพัฒนากำลังคนด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศให้มีศักยภาพตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมให้ทันเวลากับการใช้งาน ตามความต้องการ และการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเกิดขึ้นภายใต้นโยบายการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษาทั่วไป และมั่นใจว่าคณาจารย์ บุคลากร หลักสูตรและพันธมิตรในภาคเอกชนจะพร้อมสร้างรูปแบบและวิธีการจัดหลักสูตรใหม่ๆด้าน AI และด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จและพร้อมขยายสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆของประเทศไทยต่อไป” ศ. ดร.ศุภชัย กล่าว

CMKL พร้อมจัดตั้งสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ รองรับบุคลากร AI

รศ. ดร.สุพันธุ์ ตั้งจิตกุศลมั่น อธิการบดีมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL) กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนบัณฑิตด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและคอมพิวเตอร์ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม จากรายงานแนวโน้มความต้องการบุคลากรในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคตของ สอวช. พบว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์จะมีความต้องการบุคลากรเป็นจำนวนสูงถึง 34,505  ตำแหน่ง ขณะที่รายงานสารสนเทศด้านการศึกษาในสาขาเทคโนโลยีดิจิทัลและคอมพิวเตอร์ของประเทศไทยปี พ.ศ.2560-2564 พบว่านักศึกษามีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปีการศึกษา พ.ศ. 2564 พบจำนวนนักศึกษาใหม่ 17,485 คนและลดลงกว่าปี 2560 ถึงกว่า 7.6% หรือประมาณ 18,902 คน ซึ่งสถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความขาดแคลนบุคลากรรองรับความต้องการในภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลจำนวนมาก 

“การจัดตั้งสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ในครั้งนี้ หวังอย่างยิ่งว่าจะช่วยลดอุปสรรคด้านการเรียนรู้ด้วยพัฒนาหลักสูตรแบบเน้นสมรรถนะของผู้เรียน ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงผ่านความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย โดยกระตุ้นให้นักศึกษามีความสนใจเข้าศึกษาต่อสาขาเทคโนโลยีดิจิทัล คอมพิวเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์มากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถผลิตบุคลากรให้เพียงพอความต้องการของประเทศได้ เบื้องต้นตั้งเป้าจะผลิตนิสิตนักศึกษาด้าน AI ให้ได้ปีการศึกษาละ 15-30 คน” รศ. ดร.สุพันธุ์ กล่าว

6 มหาวิทยาลัยชั้นนำเห็นพ้องจัดตั้งสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์

รศ. ดร.อนุวัฒน์ จางวนิชเลิศ รักษาการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สำหรับการร่วมมือกันจัดตั้งสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่ตรงกันระหว่างผู้บริหารทั้ง 6 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อแบ่งปันทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพในการบริหารหลักสูตรด้านวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัย เพื่อร่วมกันจัดการศึกษาที่แตกต่างโดยอาศัยหลักการแซนด์บ็อกซ์ (SANDBOX) พลิกรูปแบบการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาไทย ซึ่งจะเริ่มปีการศึกษา พ.ศ.2565 นำร่องการเรียนการสอน เช่น เปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียนรายวิชาข้ามสถาบัน สามารถใช้หน่วยกิตของรายวิชาที่ลงทะเบียนเรียนข้ามสถาบันระหว่างสถาบันที่มีความร่วมมือให้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยกิตในหลักสูตรของสถาบันที่นักศึกษาสังกัดได้ นำรายวิชาที่มีการลงทะเบียนเรียนข้ามสถาบันไปอยู่ในระบบคลังหน่วยกิตและเก็บสะสมได้ตามข้อกำหนดของแต่ละสถาบัน รวมทั้งส่งเสริมประสบการณ์ทางวิชาการและสังคมแก่นักศึกษา เป็นต้น 

ในอนาคตพร้อมขยายสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆและภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วมบ่มเพาะการเรียนการสอนด้าน AI ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

บทบาทเทคโนโลยี AI กับการพัฒนาประเทศ

ศิรินุช ศรารัชต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI เข้ามามีบทบาทกับชีวิตคนเรามากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งการเรียนการสอน การทำธุรกิจสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆให้เติบโตแข่งขันได้และการพัฒนาประเทศในยุคดิจิทัลให้ทัดเทียมนานาประเทศ ดังนั้นหากประเทศไทยยังไม่มีการปูพื้นฐานหลักสูตรการเรียนการสอน AI รองรับจะยิ่งทำให้การพัฒนาบุคลากรออกมาสู่ตลาดแรงงานไม่สอดรับกับตลาดงานอย่างแท้จริง 

การนำ AI มาประยุกต์ในหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นทำได้หลากหลายวิธีและวิธีที่รวดเร็วและได้ผลคือควรนำองค์ความรู้จากภาคการศึกษาที่มีผสมผสานกับภาคเอกชนที่แต่ละบริษัทมีการคิดค้นสร้าง AI ขึ้นมาใช้งานแล้วจะช่วยให้หลักสูตรเร่งด่วนหรือหลักสูตรพิเศษต่างๆต่อยอดองค์ความรู้ที่มีเพื่อตอบโจทย์การทำงานจริงในภาคเอกชนเมื่อจบการศึกษาออกมาจะสามารถนำมาใช้ทำงานได้เลย เช่น การประยุกต์ใช้ AI ด้านโลจิสติกส์ เช่น ใช้ AI จดจำสินค้าจากรูปภาพ พร้อมย้ายสินค้าในคลังสินค้า ให้โดยอัตโนมัติ ใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์ล่วงหน้า การใช้ AI ในการค้นหาเส้นทางการจัดส่งที่เร็วที่สุดช่วยลดอัตราการสูญเสียน้ำมันที่มีราคาสูงได้ วิเคราะห์ความผันผวนของปริมาณการจัดส่งสินค้าทั่วโลก การคาดเดาพฤติกรรมเพื่อวางแผนจัดส่งสินค้าล่วงหน้าและการสั่งสินค่าช่องทางออนไลน์ทุกรูปแบบ เป็นต้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา การนำ AI มาใช่ในทุกๆธุรกิจช่วยลดค่าใช้จ่าย ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อและช่วยลดการแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนได้ในระดับที่ดีเช่นกันและควรมีการการจัดเก็บองค์ความรู้ AI ในBig Data เป็นหมวดหมู่รวมทั้งการคิดค้นแพลตฟอร์มใหม่ๆรองรับข้อมูลการใช้งานในอนาคตเพราะจะช่วยให้ AI สามารถทำงานได้เต็มตามศักยภาพได้ 

ส่วนการสนับสนุนสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์นั้น ทางบริษัทฯ พร้อมส่งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและนำแพลตฟอร์มที่มีมาร่วมสนับสนุนในทุกๆ การเรียนการสอนอย่างเต็มที่

AIS พร้อมนำองค์ความรู้สนับสนุนการเรียนการสอน เพื่อผลิตนักศึกษารองรับตลาด AI

วิสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด( เอไอเอส) กล่าวว่า เอไอเอสมุ่งนำศักยภาพ เครือข่ายอัจฉริยะ AIS 5G ร่วมพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยในทุกมิติ ซึ่งจากศักยภาพของโครงข่าย AIS 5G ทค่มีจุดเด่นเรื่องความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้การรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ มีความละเอียดสูง และมี AI ที่พร้อมพัฒนาการใช้งานทุกๆ แพลตฟอร์มให้การใช้งานของประชาชนคนไทยมีความสะดวกรวดเร็ว มีคุณภาพตอบโจทย์การใช้งานเพื่อผลักดันให้การพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้ง AI ทุกรูปแบบทั่วถึงมากที่สุด 

การจัดตั้งสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์นั้น ทางเอไอเอสพร้อมนำผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้ที่มีมาร่วมสนับสนุนการเรียนการสอนในทุกๆรูปแบบเพื่อให้สามารถผลิตนิสิตนักศึกษารองรับตลาด AI และอื่นๆในอนาคตเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save