บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) สตาร์ทอัปแพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร (Seller Management Platform) รายแรกของประเทศไทยได้รับเงินทุนสนับสนุนระดับ Series A จำนวน 55 ล้านบาท จาก บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวท จำกัด บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด และนักลงทุนอิสระ เพื่อนำไปพัฒนาแพลตฟอร์มสร้างระบบนิเวศด้านการขายจัดการทุกออเดอร์จากทุกแพลตฟอร์มมาไว้ในที่เดียว ดูแลธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจรทั้งจัดการออเดอร์ จัดการสต๊อก จัดการขนส่ง จัดการระบบรับชำระเงิน รวมถึงระบบจัดการบัญชี พร้อมให้ธุรกิจเติบโตแบบมืออาชีพแก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
สวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) กล่าวว่า ZORT เป็นเทคสตาร์ทอัป ดำเนินธุรกิจมากว่า 6 ปี ภายใต้แนวคิด Customer Centric จุดเด่นการสร้างระบบนิเวศด้านการขายจัดการ ทุกออเดอร์ จากทุกแพลตฟอร์มมาไว้ในที่เดียว ครบวงจรทั้งจัดการออเดอร์ จัดการสต๊อก จัดการขนส่ง จัดการระบบรับชำระเงิน รวมถึงระบบจัดการบัญชี สามารถทราบถึงต้นทุนจากการขาย วิเคราะห์แนวโน้มกำไร เรียกดูข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับสถิติการขาย เช่น รายการสินค้าที่ขายได้ดีล่าสุด เป็นต้น โดยเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ลูกค้าเข้าถึงบริการที่ตอบโจทย์ที่สุด ใช้ง่ายที่สุด และใช้จ่ายน้อยที่สุด ด้วยค่าบริการที่เข้าถึงง่าย เริ่มต้นเพียงเดือนละ 99 บาท ซึ่งบริการทั้งหมดเพื่อแก้ไขจุดอ่อนทางธุรกิจของการขายของออนไลน์ และออฟไลน์ โดยเฉพาะการเปิดร้านค้าผ่านหลายแพลตฟอร์ม เช่น Lazada, Shopee, JD central, Facebook หรือ Line เป็นต้น ซึ่งไม่สามารถบริหารจัดการออเดอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงฟีเจอร์ส่งเสริมการขายจำนวนมาก ที่พัฒนาจากความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Data Analysis) เพื่อต่อยอดพัฒนาการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการวิเคราะห์แนวโน้มกำไร เรียกดูข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับสถิติการขายของเจ้าของร้าน เช่น รายการสินค้าที่สร้างยอดขายได้ดี และรายการสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน ZORT ได้ให้บริการร้านค้ากว่า 3,000 ร้านค้า โดยปี พ.ศ.2565 ตั้งเป้าหมายจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ร้านค้า ครอบคลุมร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม และขยายการให้บริการไปสู่ระดับอาเซียน รวมถึงตั้งเป้าหมาย 3 ปี จะสามารถขยายฐานลูกค้าไปถึง 18,000 ร้านค้า ซึ่งจากการเก็บสถิติที่ผ่านมาพบว่า หลังจากที่ใช้ระบบแล้ว ลูกค้ามีการเติบโตของยอดขายโดยเฉลี่ย 300% แสดงให้เห็นว่าระบบการจัดการร้านค้าออเดอร์ และสต๊อกออนไลน์มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า
สำหรับเงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวท จำกัด และ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด และนักลงทุนอิสระ ในการเพิ่มทุนระดับ Series A จำนวน 55 ล้านบาทนั้นทาง ZORT จะนำเงินลงทุนไปพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆบริการลูกค้าในประเทศและขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอาเซียนภายในปี พ.ศ.2565 นี้ รวมถึงการขยายสู่ตลาดประเทศในอาเซียน เช่น ประเทศลาว เวียดนามและฟิลิปปินส์ เป็นต้น
แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวท จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรอีก 2 บริษัท คือ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด และโคบี้ บุญบรรเจิดศรี นักธุรกิจและนักลงทุนอิสระเข้าระดมทุน Series A จำนวนเงินลงทุน 55 ล้านบาท ในบริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) ซึ่งผ่านเข้ารอบจากการคัดเลือกของกรุงศรี ฟินโนเวท และเป็นสตาร์ทอัปรายแรกที่กองทุน Finnoventure Fund เลือกลงทุน นอกจากกรุงศรี ฟินโนเวท จะลงทุนในฐานะ CVC (Corporate Venture Capital) ที่มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัปที่มีศักยภาพ เพื่อต่อยอดความร่วมมือในการนำเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของสตาร์ทอัปมาช่วยพัฒนาโซลูชันให้กับกลุ่มลูกค้า SME ของกรุงศรี พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการเงินและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับร้านค้าออนไลน์ที่ใช้บริการแพลตฟอร์มของ ZORT แล้วขณะเดียวกันบริษัทฯ พร้อมที่จะผลักดัน ZORT ให้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถขึ้นแท่นเป็นสตาร์ทอัประดับ Angle และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในอีก 3-5 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายในการเข้าร่วมระดมทุนในครั้งนี้
“จากศักยภาพของ ZORT ที่บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าที่ยังมีอีกมากในอนาคตทั้งในประเทศไทยและในอาเซียน ซึ่งบริษัทฯ จะเป็นผู้ช่วยนำพา ZORT เข้าไปขยายตลาดในอาเซียน หลังจากที่บริษัทฯ ได้พา Flash Express ไปขยายตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ และลาว มาก่อนหน้านี้แล้ว” กรรมการผู้จัดการ กรุงศรี ฟินโนเวต กล่าว
ปัจจุบัน กรุงศรี ฟินโนเวท มีการลงทุนในสตาร์ทอัปทั้งหมด 15 ราย รวมเงินที่ลงทุนไปแล้วราว 2,000 ล้านบาท จากทั้งหมดที่เตรียมไว้ 3,000 ล้านบาท โดยมี 2 สตาร์ทอัปที่ประสบความสำเร็จก้าวขึ้นแท่นระดับยูนิคอร์น 2 สตาร์ทอัป ได้แก่ GRAB ซึ่งได้เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ แล้ว และ Flash Express ที่เพิ่งขึ้นเป็นยูนิคอร์นในปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา
ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่า ZORT ถือเป็นอีกแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่ม Ecosystem ให้กับร้านค้าออนไลน์ทำงานด้านบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทย โดยการเข้าร่วมทุนของ Buzzebees ในฐานะผู้นำด้าน CRM & Loyalty Program ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดร่วมกันกับ ZORT เพื่อให้ร้านค้าออนไลน์ได้รับประโยชน์สูงสุดบน Ecosystem ที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะต่อยอดในส่วนของการบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM Solutions) ทำให้ร้านค้าออนไลน์มีฐานข้อมูลลูกค้าเป็นของตนเอง และทราบถึงพฤติกรรมของลูกค้าผ่านฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นบริการของ Buzzebees เช่น บน Line OA ทำให้สามารถสร้างแคมเปญได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเภท อีกทั้งยังสามารถนำสินค้ามาลงขายบนแพลตฟอร์มพันธมิตรของ Buzzebees ซึ่งมีกว่า 300 แพลตฟอร์ม นับเป็นการเพิ่มช่องทางการขายให้กับร้านค้า ขณะเดียวกัน Buzzebees ก็มีเน็ตเวิร์กเพิ่มขึ้น จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะช่วยสร้างยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ได้ครอบคลุมมากขึ้น
โคบี้ บุญบรรเจิดศรี นักธุรกิจและนักลงทุน กล่าวว่า การลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัปที่เป็น Early Stage ถือว่ามีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากส่วนใหญ่นักธุรกิจสตาร์ทอัปจะคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆที่ช่วยแก้ปัญหาการทำธุรกิจในรูปแบบเดิม ๆได้ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนธุรกิจให้กับกลุ่ม SME ในด้านอีคอมเมิร์ซถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอย่างน่าสนใจ เพราะในอนาคตอีคอมเมิร์ซจะกลายเป็นภาคธุรกิจที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับโลก