LINE เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คาดปีนี้มีผู้ใช้งาน Digital Banking ผ่าน LINE 1 พันล้าน Transaction


กรุงเทพฯ  – 29 กรกฎาคม 2564 : LINE ประเทศไทย เผยทิศทาง LINE for Business ปี 2021-2022 มุ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก  ชูประเทศไทยมีประชากรใช้ Digital Banking Service อันดับ 1 ของโลก คาดภายในปีนี้มีผู้ใช้งาน Digital Banking ผ่าน LINE 1 พันล้าน Transaction  พร้อมเดินหน้าให้ความรู้พร้อมพัฒนาต่อเนื่องเครื่องมือธุรกิจบนแพลตฟอร์ม เพื่อเร่งการเติบโตและแข่งขันของเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนหลังวิกฤต

นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา LINE ได้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงคนและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ภายใต้ภารกิจ Closing the Distance และพัฒนาจนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานการใช้ชีวิตดิจิทัลให้คนไทย ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ระดับบุคคลเท่านั้น LINE ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ดิจิทัลได้ด้วยความง่ายและการเข้าถึงของการใช้งานด้วยคนไทยในทุกเพศ ทุกวัย และเมื่อเกิดวิกฤต COVID-19 ขึ้น ยิ่งได้เห็นการปรับตัวของคนไทยเข้าสู่ดิจิทัลอย่างเต็มตัวผ่านการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม LINE เพิ่มมากขึ้นในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของ LINE ในการเป็นเครื่องมือทรงพลังที่จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน

ขณะที่ผู้คนในภูมิภาคตะวันตก ถ้าติดต่อสื่อสารจะโทรศัพท์  ญี่ปุ่นใช้ LINE ในชีวิตส่วนตัวมากกว่า    แต่คนไทยใช้ LINE ทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงาน  ทุกคนใช้ชีวิตบน  LINE  ด้วยเหตุนี้ LINE พยายามพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อผลักดันให้คนไทยใช้งานมากขึ้น

นรสิทธิ์ กล่าวว่า LINE ให้บริการลูกค้าธุรกิจ และ SME ภายใต้แบรนด์ LINE for Business ผ่านโซลูชั่นหลักคือ LINE Official Account (LINE OA) ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นและเครื่องมือมากมายที่สามารถต่อยอดเพื่อตอบโจทย์แต่ละกลุ่มธุรกิจบนโลกออนไลน์ พร้อมการเปิด API ให้ทุกกลุ่มธุรกิจสามารถเชื่อมต่อ LINE กับบริการของตนเองได้โดยง่าย

ในประเทศไทย กลุ่มธุรกิจที่ LINE ได้เข้าไปมีบทบาทในการขับเคลื่อนสู่ดิจิทัลอย่างเห็นได้ชัดเป็นกลุ่มแรกๆ คือกลุ่มธุรกิจการเงิน จนปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการใช้งาน Digital Banking มากที่สุดในโลก (อ้างอิง: Digital 2021 Report โดย We are Social & Hootsuite) โดย LINE พบยอดเติบโตของการใช้งาน Digital Banking ผ่าน LINE API ตั้งแต่ปีพ.ศ.2562 มาจนถึงต้นปีพ.ศ.2564 ในรายเดือน (Monthly API Message) เพิ่มขึ้นถึง 80% โดยการให้บริการ Digital Banking Service แทนที่การให้ข้อมูลของ Banking Service เพียงอย่างเดียวเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากขึ้นถึง 2.8 เท่าในช่วงเวลาดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของกลุ่มธุรกิจการเงินและธนาคารในไทยในการใช้ LINE OA จากช่องทางการสื่อสารเป็นการให้บริการ Digital Banking และสร้างความคุ้นชินและเตรียมพร้อมให้ผู้บริโภคทั้งประเทศ สู่การบริการ Digital Banking อย่างเต็มรูปแบบในปัจจุบัน

“ผู้บริโภคใช้งาน Digital Banking Service ผ่าน LINE สูง 36% แทนที่จะรับข่าวสาร เช่น  KBANK มีบริการให้เปลี่ยนวงเงินได้ผ่าน LINE     KRUNGTHAI  ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก  เปิดให้เช็คยอดเงินในบัญชี   ต่อมาได้กลายเป็นบริการพื้นฐานของทุกๆ ธนาคาร   ส่วน  KRUNGSRI จะมีบริการ Advance สามารถซื้อกองทุน  ด้าน SCB  เป็นธนาคารรายแรกๆที่ร่วมกับเรา  และ TORKORSOR  นิยมใช้งาน ผ่าน LINE คือ ตรวจผลสลาก” นรสิทธิ์ กล่าว

จากการสำรวจ ประเทศไทยมีประชากรใช้ Digital Banking Service อันดับ 1 ของโลก คาดว่าภายในปีนี้จะมีคนไทยมาใช้ Digital Banking Service ผ่าน LINE ประมาณ 1  พันล้าน Transaction

ในขณะเดียวกัน วิกฤต COVID-19 ได้กลายเป็นปัจจัยเร่งให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลากหลายกลุ่มธุรกิจประสบความลำบาก และบางธุรกิจเห็นโอกาส ได้ปรับตัวก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล หนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ คือ กลุ่มธุรกิจสินค้าหรูหรา Luxury ในประเทศไทยโดยในช่วงปีพ.ศ.2562 – 2564 ที่ผ่านมา มีแบรนด์สินค้าหรูหันมาเปิดใช้งาน LINE OA เป็นช่องทางในการเข้าถึงฐานลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นโดยรวมถึง 60% โดยแบรนด์หรูที่เปิดใช้งาน LINE OA มากที่สุดคือ กลุ่มเครื่องสำอางหรู เป็นสัดส่วน 54% ของสินค้าหรูทั้งหมด  ต่อมาคือแฟชั่นหรูในอัตราส่วน 35% และยานยนต์หรูมีการเปิดใช้งาน LINE OA สัดส่วน 11%

ทั้งนี้ ยังพบว่า แบรนด์กลุ่มแฟชั่นหรู แม้จะมีจำนวนผู้ติดตามโดยเฉลี่ยต่ำที่สุดเทียบกับแบรนด์กลุ่มเครื่องสำอางและยานยนต์หรู แต่กลับมียอดการพูดคุย สนทนาแบบหนึ่งต่อหนึ่งผ่าน LINE OA สูงที่สุดสูงถึง 5 พันข้อความในหนึ่งวัน มากกว่าแบรนด์กลุ่มแฟชั่นหรูถึง 60% ชี้ให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยน จากการบริการแบบตัวต่อตัว ในห้าง เป็นการบริการ สนทนาออนไลน์แบบตัวต่อตัว หรือ Chat Commerce แทน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะหลากหลายแบรนด์ดังชั้นนำระดับโลกในโลกตะวันตก สู่บริบทของการทำธุรกิจออนไลน์แบบโลกตะวันออก ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการทำการตลาดของแบรนด์หรูชั้นนำระดับโลกเหล่านี้

นรสิทธิ์ กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา  LINE มีบทบาทในการเป็นแพลตฟอร์มช่วยสร้างความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจดิจิทัลเพื่อเข้าถึงคนไทย ทั้งกลุ่มธุรกิจการเงิน และ สินค้าหรูหรา (Luxury) ในปีพ.ศ.2564-2565 LINE มุ่งที่จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในส่วนกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย มีจำนวนมากกว่า 3 ล้านรายทั่วประเทศ ด้วยส่วนแบ่งใน GDP มากถึง 45%

ผลการสำรวจจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เผยถึง กลุ่มธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในช่วงวิกฤต COVID-19 คือ ธุรกิจอาหาร ซึ่งส่งผลต่อ GDP ลดลงถึง 37% รองลงมาคือ ธุรกิจขนส่ง และค้าปลีก ในอัตราส่วนที่ลดลง 21% และ 3.7% ตามลำดับ

อย่างไรก้ตาม ท่ามกลางวิกฤตนี้ LINE พบว่า อัตราการเติบโตของ LINE OA โดยธุรกิจกลุ่มร้านอาหารมีอัตราการเปิดใช้งาน LINE OA เพิ่มขึ้น (YoY) สูงสุดสุงถึง 212% รองลงมาคือธุรกิจกลุ่มค้าปลีกที่ 191% ด้วยเหตุนี้ LINE ประเทศไทยจึงมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มและเครื่องมือเพื่อขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจไทยเหล่านี้โดยเฉพาะ เพื่อยกระดับการใช้งาน LINE จากแค่เครื่องมือในการสื่อสาร เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ เพื่อที่จะสามารถแข่งขันในโลกยุคหลัง COVID-19 ต่อไป

กลุ่มธุรกิจอาหาร LINE ประเทศไทย ออกแบบ MyRestuarant เครื่องมือช่วยเสริมประสิทธิภาพ LINE OA สำหรับธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยโดยเฉพาะ ในการจัดการหน้าร้าน ไปถึงการจัดการหลังร้าน การวิเคราะห์ข้อมูลจากอาหารที่สั่ง และ การเชื่อมถึงการจัดส่งกับบริการ LINE Man โดยตรง

กลุ่มธุรกิจค้าปลีก LINE ประเทศไทย ออกแบบ MyShop เครื่องมือที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ LINE OA ด้านการขายของ ที่ใช้งายที่สุดเทียบเคียงกับการใช้ LINE ด้วยระบบหน้าร้านออนไลน์ ระบบจัดการสินค้าคงคลัง รองรับการซื้อสินค้าผ่านการพูดคุย หรือ Chat Commerce แบบเต็มรูปแบบ ระบบการชำระเงินเชื่อมต่อกับ Rabbit LINE Pay ระบบการเชื้อเชิญลูกค้ากับ LINE POINT ระบบการโฆษณากับ LINE ADS PLATFORM ระบบขนส่งสินค้ากับทุกบริษัท โดยเฉพาะ ไปรษณีย์ไทย โดยในปีที่ผ่านมา มีร้านค้าเปิดใช้งาน MyShop เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่า มีร้านค้าที่แอคทีฟเพิ่มขึ้นถึง 257% (เปรียบเทียบการเติบโต YoY เดือนเม.ย. ปีพ.ศ.2563 – 2564) และมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GMV) อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท

นอกจากภาคธุรกิจแล้ว กลุ่มองค์กรที่สำคัญที่สุดต่อการขับเคลื่อนประเทศไทย คือ กลุ่มบริการสาธารณะต่างๆ ด้วยศักยภาพของแพลตฟอร์ม LINE ที่เข้าถึงคนไทยกว่า 49 ล้านคน LINE OA จึงกลายเป็นตัวกลางสำคัญสำหรับกลุ่มบริการสาธารณะ และองค์กรภาครัฐมากมาย ในการอัพเดทข้อมูล ให้ความรู้ และให้บริการให้ด้านต่างๆ แก่ประชาชนคนไทย อาทิ โรงพยาบาล สาธารณูปโภค น้ำ ไฟ การบริหารส่วนจังหวัด อำเภอ ชุมชนต่างๆ รวมถึงหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤต COVID-19  เช่น การนัดหมายโรงพยาบาล การแจ้งและรับชำระค่าไฟ ค่าน้ำ การรับข้อมูลข่าวสารสำคัญของชุมชน โดยไม่ต้องเดินทางมายังสถานที่ให้บริการ เป็นต้น ซึ่ง LINE เล็งเห็นว่าบริการสาธารณะต่างๆ เหล่านี้ แม้จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อภาคเศรษฐกิจ แต่ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญต่อประเทศไทยที่ควรผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนสู่โลกดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อองค์รวมของประเทศด้วยเช่นกัน

สำหรับบริการด้านสาธารณสุขไทย LINE  จะให้บริการตามที่โรงพยาบาลแต่ละแห่งต้องการ ปัจจุบันจึงยังไม่ได้มีโซลูชันที่ให้บริการทุกโรงพยาบาลใช้  เพื่อคนไทยสามารถใช้งานดีขึ้น ขณะที่ญี่ปุ่นมีโซลูชันด้านสาธารณสุขนานแล้ว  อย่างไรก็ตาม  วิศวกรของ LINE กำลังทำรวบรวมข้อมูล ซึ่งทำงานกับโรงพยาบาลเอกชนไทย และเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพื่อนำมาเผยแพร่ให้หน่วยงานภาครัฐและโรงพยาบาลภาครัฐได้ใช้ประโยชน์

ในปีพ.ศ.2565  หลายฝ่ายคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ    COVID-19 จะคลี่คลายลง  อยากให้ไทยสามารถ Recover จากสถานการณ์ COVID-19  โดยปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน  ด้วยศักยภาพคนไทยมีมาก สามารถปรับใช้เทคโนโลยีได้ง่าย    เรามีวิศวกรไทย 100% พัฒนาโซลูชันที่คนไทยต้องการเป็นบริการที่มีเฉพาะในไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อยอดธุรกิจให้พร้อมกับการแข่งขันบนบริบทใหม่ที่จะมาถึง” นรสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save