อิมแพ็ค เมืองทองธานี : แอนดริทซ์ (ANDRITZ) เปิดตัว 3 นวัตกรรมใหม่สำหรับตลาดอาหารสัตว์ในงาน VICTAM Asia 2022 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานีระหว่างวันที่ 7-9 กันยายนนี้ โดยเทคโนโลยีระดับสูงของบริษัทฯ ช่วยให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดของเสีย และรักษาคุณภาพของอาหารสัตว์
Michel Pereira ผู้จัดการฝ่าย Global Application สำหรับผลิตภัณฑ์การผลิตอาหารสัตว์และพลังงานชีวภาพ (Feed and Biofuels) ANDRITZ กล่าวว่า ANDRITZ Group เป็นผู้นำตลาดระดับโลกด้านธุรกิจเยื่อกระดาษและกระดาษ ในปี 2022 ตั้งเป้ามีรายได้ 300 ล้านยูโร ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมา 50% มีพนักงานประมาณ 27,000 คน ขณะที่ ANDRITZ Feed & Biofuel เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกด้านโซลูชันกระบวนการ เทคโนโลยี และบริการสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ อาหารสัตว์น้ำ อาหารสัตว์เลี้ยง และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ เทคโนโลยีและบริการมุ่งเน้นไปที่การใช้วัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้านธุรกิจ Feed บริษัทฯ มีประสบการณ์ด้านผลิตภัณฑ์การผลิตอาหารสัตว์ (Feed) มากกว่า 186 ปี และเป็นบริษัทที่ผลิตผลิตภัณฑ์การผลิตอาหารสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของโลก โดยผลิตทั้งอาหารสัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมวและเต่า เป็นต้น ในปี 2021 มีรายได้ 8,000 ล้านยูโร ส่วนพลังงานชีวภาพ (Biofuel) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ธุรกิจ Biomass ใช้เศษไม้อัดเป็นเม็ดแล้วนำมาเผาเพื่อใช้เป็นพลังงาน และ Waste โดยนำเศษขยะพลาสติกมาอัดเป็นเม็ดแล้วนำเผาเพื่อใช้เป็นพลังงาน
ปัจจุบันภาพรวมตลาดอาหารสัตว์โลกมีมูลค่าแสนล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ได้บริษัทฯ ได้จัดตั้งสำนักงานผู้แทนในไทยที่ถนนอโศก กรุงเทพฯ รองรับความต้องการของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
KP Angamuthu ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ANDRITZ กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ตัดสินใจดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยธุรกิจของ ANDRITZ ในภูมิภาคอเชียแปซิฟิคเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2020 มูลค่า 43 ล้านยูโร ปี 2021 มูลค่า 46 ล้านยูโร และคาดว่าในปี 2022 มีมูลค่า 61 ล้านยูโร คิดเป็นการเติบโตของธุรกิจปีต่อปีที่ 15% ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีพนักงานทั้งหมด 91 คน ส่วนใหญ่อยู่ที่อินเดีย 71 คน ซึ่งทำตั้งแต่ Green Field นำเสนอโรงงาน อุปกรณ์เครื่องจักร บริการ และโซลูชันดิจิทัลที่หลากหลายสำหรับหลากหลายอุตสาหกรรมและตลาดปลายทาง ปัจจุบันมีโครงการกว่า 100 โครงการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
สำหรับนวัตกรรมใหม่ของANDRITZ Feed & Biofuel ที่จัดแสดงในงาน VICTAM Asia 2022 ประกอบด้วย 1.เครื่องผลิตอาหารผงตัวใหม่สำหรับสัตว์น้ำ (Microfeed System) เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ถึง 20-50 % ตอบโจทย์ความต้องการอาหารผงสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำในตลาดภูมิภาคนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย Microfeed System ประกอบด้วยแม่พิมพ์ที่แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งสามารถทนต่อแรงกดที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากขนาดของรูที่เล็กลง ทำให้โครงสร้างแข็งแรงขึ้น มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ใหญ่ขึ้นและพื้นผิวเปิดที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงฐานแม่พิมพ์อัจฉริยะเพื่อทำให้มีการกระจายอาหารผงที่เท่ากันไปทั่วทั้งตัวแม่พิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ความสามารถเหล่านี้รวมกันช่วยให้ลูกค้าสามารถผลิตอาหารผงได้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นมากกว่าแม่พิมพ์ที่ใช้ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังช่วยเพิ่มคุณภาพอาหารผงแบบจมน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า 2 มม.ได้อีกด้วยและยังทำให้เครื่องจักรสามารถเพิ่มระดับเวลาการทำงานได้สูงขึ้น (Uptimes Level) และเมื่อทำงานร่วมกับ Expansion Control System (ECS) จะช่วยลดการอุดตันของรูลงได้อย่างมาก
เครื่องนี้ยังแสดงถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม ด้วยการติดตั้งบนเครื่องอัดรีด (Extruder Upgrade System) ที่มีชุดระบายอากาศให้โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบเครื่องอัดรีดเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับอาหารสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่า 2 มม. ทำให้ Micro Feed System ได้รับรางวัล AFTaN อีกทั้งยังให้ความยืดหยุ่นเพิ่มเติมในการจัดการวัตถุดิบที่หลากหลายมากขึ้นในการผลิตอาหารสัตว์น้ำแบบจมได้อย่างแม่นยำและสามารถควบคุมได้มากขึ้นผ่านการปรับเปลี่ยนได้ในทันที ทำให้ได้คุณภาพและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ได้จำหน่ายเครื่องนี้ไปแล้ว 12 เครื่องก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน
2. อุปกรณ์ 3-Roll Assembly สำหรับเครื่อง Paladin 2000 ซึ่งเป็นเครื่องอัดเม็ดอาหารสัตว์ระบบปรับลูกกลิ้งอัตโนมัติที่ให้ระยะห่างระหว่างแม่พิมพ์และลูกกลิ้ง (the die and the rolls) ที่ปรับได้ เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมสมบูรณ์แบบสำหรับการผลิตอาหารสัตว์สูตรต่าง ๆ ในเครื่องอัดเม็ดสำหรับผลิตอาหารสัตว์เครื่องเดียวกัน โดยไม่ต้องวัดหาค่าเฉลี่ยระยะห่างระหว่างสูตรต่าง ๆ เหมือนเดิม ขณะเดียวกันทำให้คุณภาพอาหารสัตว์อัดเม็ด ความจุ และการใช้พลังงานทั้งหมดดีขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดการการปนเปื้อนของน้ำมันไฮดรอลิกที่อาจหลุดเข้าไปในอาหาร 100% เนื่องจากย้ายตำแหน่งส่วนที่มีน้ำมันไฮดรอลิกไปอยู่ด้านหลัง
และ 3. Metris Vibe เซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนและอุณหภูมิแบบไร้สายที่สามารถตรวจสอบสถานะสุขภาพของอุปกรณ์เชิงกลของทุกผู้ผลิตได้ สามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยและใช้ต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำลงผ่านการบำรุงรักษาที่ลดลง เนื่องจากช่วยเพิ่มความสามารถในการคาดการณ์ถึงสภาพการทำงานของอุปกรณ์เครื่องจักร ทำให้เครื่องจักรมีอายุใช้งานยาวนานเพิ่มขึ้น เพิ่มความน่าเชื่อถือในการผลิตที่สูงขึ้น และความปลอดภัยที่ดีขึ้น โดยลดการหยุดชะงักการผลิตที่ไม่ได้วางแผนไว้ให้น้อยที่สุด ดังนั้นจึงเพิ่มความพร้อมใช้งานและให้ข้อได้เปรียบด้านเวลาทำงานที่ทำได้สูงสุด
Metris Vibe มีเวอร์ชั่นที่เชื่อมต่อกับสมาร์ฺทโฟน และ Bluetooth Gateway เพื่อแจ้งเตือน มี Smart Diagnosis ที่คอยแจ้งว่าชิ้นส่วนไหนเสียหายให้รีบซ่อมแซม เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนการผลิตให้หยุดการทำงานน้อยที่สุด และทำงานได้อย่างต่อเนื่องมากที่สุด ขณะนี้มีใช้งานแล้วในโรงานผลิตอาหารสัตว์ที่เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญของ ANDRITZ Feed & Biofuel จะนำเสนอข้อมูลเสริมเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกกับลูกค้า ในวันที่ 9 กันยายน ที่ Build my Feed Mill โดย Faisal Baig รองประธานฝ่ายบริการหลังการขาย (Aftermarket) จะมาให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Metris Vibe ขณะที่ Anders Lydom ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สำหรับอาหารสัตว์จะแนะนำรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ 3 ลูกกลิ้งที่ปรับตัวได้โดยอัตโนมัติ