กรุงเทพฯ — 7 มิถุนายน 2564 : ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) ประกาศแนวทางใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเร่งการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล หรือดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ขณะที่ลูกค้าโยกย้ายทรัพยากรไปสู่ระบบคลาวด์มากขึ้น
ปัจจุบัน โลกมีการเชื่อมต่อถึงกันอย่างกว้างขวางและทั่วถึง โดยพึ่งพาระบบคลาวด์มากขึ้น และทีมงานฝ่ายไอทีก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ทั่วไป โดยรองรับการเข้าถึงทุกที่ทุกเวลา ด้วยเหตุนี้ องค์กรธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนสู่การดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็ว การใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพ และการควบคุมการใช้แอปพลิเคชัน รวมถึงผู้ใช้ และบุคลากรฝ่าไอทีที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ซิสโก้ได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อผนวกรวมเทคโนโลยีคลาวด์เข้าไว้ในทุกแง่มุมของธุรกิจ มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการกำหนดกลยุทธ์ด้านคลาวด์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยความมั่นใจสูงสุด ซึ่งครอบคลุม 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ความต่อเนื่องในการดำเนินงาน, ข้อมูลเชิงลึก, ความปลอดภัย, การเชื่อมต่อ และการปฏิบัติงาน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซิสโก้ได้จัดงานเวอร์ช่วลอีเว้นท์ ‘Future Cloud’ เพื่อแสดงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีคลาวด์ที่ครอบคลุมหลายๆ ด้าน ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถเชื่อมต่อ คุ้มครอง และนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่ไร้รอยต่อโดยอัติโนมัติในโลกของไฮบริดคลาวด์ปัจจุบัน
ทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า หลังการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 คลาวด์ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจในหลายแง่มุม โดยเฉพาะในการขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน ขณะที่แอปพลิเคชันได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ เพื่อช่วยให้ธุรกิจจัดการแอปพลิเคชันหลายร้อยรายการในสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่หลากหลาย ซิสโก้ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนความพร้อม และรองรับการเติบโตของไฮบริดคลาวด์ โดยนำเสนอโซลูชันสำหรับตรวจสอบและโซลูชั่นสำหรับเน็ตเวิร์คอัจฉริยะที่ครอบคลุมมากที่สุดในอุตสาหกรรม รองรับการทำงานบนแอป อินเทอร์เน็ต และคลาวด์
“เรามั่นใจว่าลูกค้าของเราจะสามารถเชื่อมต่อ รักษาความปลอดภัย และทำงานบนระบบออโตเมชั่นเพื่อเร่งความคล่องตัว และความยืดหยุ่นด้านดิจิทัลได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการในโลกที่ผู้คนเน้นการทำงานบนคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-first World)” กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน กล่าว
สำหรับนวัตกรรมไฮบริดคลาวด์ที่เปิดตัวในวันนี้มี 3 ประเภท คือ การจัดการไฮบริดคลาวด์ การตรวจสอบและข้อมูลเชิงลึก และบริการด้านประสบการณ์ลูกค้า (CX) สำหรับคลาวด์ สำหรับการจัดการไฮบริดคลาวด์ ประกอบด้วย 1. Cisco UCS® X-Series ระบบประมวลผล Unified Computing System (UCS) ของซิสโก้ถูกใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ของลูกค้ากว่า 50,000 รายทั่วโลก โดยระบบ UCS X-Series บูรณาการเข้ากับ Cisco Intersight อย่างสมบูรณ์ นับเป็นระบบรุ่นแรกที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการใช้งานแบบไฮบริดโดยครอบคุลมระบบคลาวด์ที่หลากหลาย ระบบรุ่นนี้ผสานรวมข้อดีของระบบแร็คและเบลดเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยเทคโนโลยี UCS X-Fabric ที่ทันสมัย สามารถจัดการเวิร์กโหลดที่หลากหลายในปัจจุบัน ทั้งยังพร้อมรองรับนวัตกรรมในอนาคต ทั้งในส่วนของโปรเซสเซอร์ การ์ดเร่งความเร็ว และการเชื่อมต่อระบบประมวลผลที่จะเผยโฉมให้เห็นในช่วงทศวรรษหน้า
2.Intersight Cloud Orchestrator จัดหาเฟรมเวิร์กของระบบอัตโนมัติที่ใช้งานง่ายและอาศัยการเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อย (Low-code) ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ทีมงานฝ่ายปฏิบัติการด้านไอทีสามารถผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานและเวิร์กโหลดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ 3.Intersight Workload Engine แพลตฟอร์มที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสำหรับเวิร์กโหลดแบบคลาวด์เนทีฟที่ทันสมัย สร้างขึ้นจาก Kubernetes แบบโอเพ่นซอร์ส และ Kernel-based Virtual Machine (KVM) โดยใช้เทคโนโลยี Virtualization แบบคอนเทนเนอร์เนทีฟ Intersight Workload Engine เป็นระบบปฏิบัติการของซิสโก้สำหรับ Hyperflex รองรับการจัดการ SaaS ที่สอดคล้องกัน 4.Cisco Service Mesh Manager ส่วนต่อขยายใหม่สำหรับ Intersight Kubernetes Service โดยให้การตรวจสอบเชิงลึกและการจัดการที่สะดวกมากขึ้น พร้อมการรักษาความปลอดภัยตามนโยบายที่กำหนด และมีการทำเวอร์ชวลไลเซชั่นสำหรับโครงสร้างบริการบนคลัสเตอร์ของ K8 ทั้งที่ติดตั้งภายในองค์กรและในระบบคลาวด์ และ 5.Cisco Cloud ACI พร้อมใช้งานบน AWS, Azure และ Google Cloud โดยจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีพ.ศ.2564 นโยบายร่วมและโมเดลการทำงานของ Cloud ACI จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดการระบบไฮบริดคลาวด์และมัลติคลาวด์
การตรวจสอบและข้อมูลเชิงลึก ได้แก่ 1.การบูรณาการ ThousandEyes ซึ่งเป็นระบบงานอัจฉริยะด้านคลาวด์และอินเทอร์เน็ต เข้าไว้ในสวิตช์ Cisco Catalyst 8000 Edge Series สำหรับ SD-WAN และสวิตช์ Cisco Nexus 9000 สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะของเครือข่ายและประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน
2.Nexus Dashboard Orchestrator ทำหน้าที่เป็นระบบควบคุมส่วนกลางสำหรับการกำหนดและจัดการนโยบายร่วม โดยครอบคลุมไซต์ ACI ภายในองค์กร และบริการ AWS และ Microsoft Azure ในพื้นที่ต่างๆ พร้อมแผนการขยายไปสู่ Google Cloud ในปลายปีนี้ และ 3. Intersight Cloud Orchestrator จัดหาเฟรมเวิร์กของระบบอัตโนมัติที่ใช้งานง่ายและอาศัยการเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อย (Low-code) ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ทีมงานฝ่ายปฏิบัติการด้านไอทีสามารถผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานและเวิร์กโหลดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ
ด้านบริการด้านประสบการณ์ลูกค้า (CX) สำหรับคลาวด์ ได้แก่ CX Business Critical Services for Cloud เป็นบริการให้คำปรึกษา พร้อมความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ติดตั้ง คุ้มครอง และปรับแต่งระบบสำหรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ได้แก่
1.CX Intersight Workload Optimizer Services ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรของแอพพลิเคชั่นในระบบคลาวด์ 2.บริการ CX
Advanced Services สำหรับ ThousandEyes และ SD-WAN มอบประสบการณ์ด้านแอปพลิเคชั่นที่ดีที่สุดสำหรับโซลูชั่น
คลาวด์ ด้วยการออกแบบและบูรณาการระบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ช่วยลดความซับซ้อนของโครงการและเพิ่มความรวดเร็วในการ
ปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน และ 3.Custom Quick Start Solutions ให้บริการสำหรับระบบอัตโนมัติแบบครบวงจรและ Infrastructure-as-a-Code (IaaC)
ทวีศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากซิสโก้เป็นอันดับ 1 ด้าน Network แล้ว ยังเป็นอันดับ 1 ด้านความปลอดภัยด้วย ช่วยให้ลูกค้า Insight ได้ดีขึ้น มีคู่ค้าที่ Active 900 รายในไทย รองรับทั้ง SME และ Enterprise เพื่อช่วยสร้าง Cloud Strategy ให้แก่ลูกค้า
กนกฤทธิ์ มิ่งบุญเจิดสุข ผู้จัดการด้านวิศวกรรมระบบของซิสโก้ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การทำให้ลูกค้าเห็น Visibility คือ เห็นการทำงานของลูกค้าตั้งแต่ end to end เช่น ตัวอย่างโปรช้อปปิ้งวันที่ 6:6 ที่ลาซาด้า ทำให้ทราบถึงประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าในการช้อปปิ้งตั้งแต่เริ่มต้นว่าติดขัดในช่วงไหนบ้างอาจจะติดขัดตั้งแต่ผู้ให้บริการเครือข่าย หรืออาจจะเป็นฝั่ง Server ของลาซาด้า โดยใช้ ThousandEyes และ SD-WAN มาตอบโจทย์การใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดย 72% ต้องการเห็นลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดี และ 86% ต้องการเห็นแอปพลิเคชันใช้งานได้ดีตามปกติ
ในแง่ของธุรกิจ กรณี โปรช้อปปิ้งวันที่ 6:6 ของลาซาด้า หาก Payment Gateway มีปัญหาเพียง 1 นาที Transaction จะสูญเสียมหาศาล ซิสโก้มี APPDYNAMICS ที่สามารถวิเคราะห์ได้ว่ามูลค่าของธุรกิจที่หายไปเท่าใด
ทวีศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ซิสโก้มีลูกค้าในไทยมากมายหลายราย เช่น INET และธนาคารเกือบทุกแห่งในไทย บางรายใช้ Software -Defined Network บน NEXUS ทำให้สามารถ Operate ได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายด้าน Operate