โรลส์-รอยซ์ เผยความสำเร็จในการทดสอบการนำเชื้อเพลิงอากาศยานเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) มาใช้กับเครื่องยนต์อากาศยานสำหรับพลเรือนทุกชนิดที่กำลังผลิตอยู่ในขณะนี้ โดยสามารถใช้ SAF ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการบรรลุเป้าหมายตามที่ได้ประกาศไว้เมื่อปี 2564 โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
เครื่องยนต์ในการใช้ SAF แบบ 100 เปอร์เซ็นต์เครื่องยนต์ BR710 สำหรับเครื่องบินขนาดเล็กได้ผ่านการทดสอบภาคพื้นในประเทศแคนาดา นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์อื่น ๆ ที่ได้รับการทดสอบภายใต้โครงการนี้ ได้แก่ Trent 700, Trent 800, Trent 900, Trent 1000, Trent XWB-84, Trent XWB-97, Trent 7000, BR725, Pearl 700, Pearl 15 และ Pearl 10X
การทดสอบนี้มีการดำเนินการทั้งด้านภาคพื้นและการทดสอบด้วยการบินที่หลากหลายเพื่อจำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามการให้บริการจริง และการทดสอบทั้งหมดได้ยืนยันว่าการใช้ SAF แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
ทูฟาน เออร์กินบิลลิค (Tufan Erginbilgic) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรลส์-รอยซ์ กล่าวว่า การเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์รายแรกที่ได้ออกมายืนยันต่อสาธารณะว่าเครื่องยนต์ทุกชนิดที่ยังคงมีการผลิตอยู่ของเรา ทั้งกับเครื่องบินระยะไกลและเครื่องบินขนาดเล็กสามารถใช้งาน SAF แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ได้นั้นไม่เพียงแค่เป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งโรลส์-รอยซ์เท่านั้น แต่ยังเป็นความ ความสำเร็จของทั้งอุตสาหกรรมการบินอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะเป็นบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ภายในปี 2593 ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันกับลูกค้าของเรา”
ไซมอน เบอร์ (Simon Burr) ผู้อำนวยการกลุ่มด้านวิศวกรรม เทคโนโลยีและความปลอดภัยโรลส์-รอยซ์ กล่าวว่า นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการบิน เราหวังว่าความสำเร็จจากการทดสอบเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นทางเทคนิคสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแนวทางการลงทุนในการผลิต SAF 100 เปอร์เซ็นต์ ให้เดินหน้าต่อไป
มาร์ก ฮาร์เพอร์ (Mark Harper) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า เส้นทางสู่การบินที่ลดการปล่อยคาร์บอนนั้น ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมจากประเทศอังกฤษที่ได้รับการสนับสนุนโดยภาครัฐของสหราชอาณาจักร นั่นหมายความว่า ในอนาคตผู้โดยสารสามารถที่จะเดินทางได้อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“การแถลงในวันนี้แสดงให้เห็นว่า โรลส์-รอยซ์ และสหราชอาณาจักร เป็นผู้นำด้านการลดการปล่อยคาร์บอนในการขนส่งทางอากาศ และทำให้เราก้าวไปสู่เป้าหมายการเดินทางด้วยเครื่องบินที่มีก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์เพิ่มมากขึ้นอีกขั้น” มาร์ก ฮาร์เพอร์ กล่าว
นอกจากจะพิสูจน์ว่าเครื่องยนต์ที่กำลังผลิตอยู่ทุกชนิดนั้นสามารถใช้งานได้ โรลส์-รอยซ์ ยังได้ให้ความมั่นใจว่าเครื่องยนต์อัลตราแฟน (UltraFan) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ และกำลังทดสอบอยู่นั้น มีความสามารถในการใช้งานได้กับ SAF เช่นเดียวกัน โดยในการทดสอบครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้ได้ดำเนินการโดยใช้ SAF 100 เปอร์เซ็นต์
การใช้ SAF ของโรลส์-รอยซ์ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนนี้เครื่องยนต์ Trent 1000 จะถูกนำมาใช้กับเครื่องบิน Boeing 787 Dreamliner ของสายการบินเวอร์จินแอตแลนติก (Virgin Atlantic) บนเที่ยวบิน 100 ซึ่งเป็นเที่ยวบินแรกของโลกที่ใช้ SAF 100 เปอร์เซ็นต์ บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก สายการบินเวอร์จินแอตแลนติกได้รับการสนับสนุนโดยกระทรวงคมนาคม และร่วมกับโบอิ้ง, University of Sheffield, Imperial College London และ Rocky Mountain Institute และในเที่ยวบินขากลับจะใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบปกติ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเครื่องบินสามารถใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบใดก็ได้ โดยไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนด้านวิศวกรรมใด ๆ
เชื้อเพลิงอากาศยานเพื่อความยั่งยืนนั้นมีศักยภาพอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของการบิน โดยจะเป็นตัวเลือกที่สามารถใช้ทดแทนเชื้อเพลิงแบบปกติได้
เมื่อพิจารณาถึงวงจรของ SAF สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้ประมาณการว่าวงจรสุทธิของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของ SAF ที่ไม่ได้ผสมนั้นจะต่ำกว่าเชื้อเพลิงปกติถึง 80 เปอร์เซ็นต์
โรลส์-รอยซ์ ประมาณการว่าเพื่อจะให้บรรลุเป้าหมายการบินที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 การใช้เครื่องยนต์แก็สเทอร์ไบน์ประสิทธิภาพสูงรุ่นล่าสุดร่วมกับ SAF 100 เปอร์เซ็นต์ จะมีส่วนร่วมในการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้
องค์กรระดับนานาชาติที่เป็นผู้กำหนดมาตรฐานของเชื้อเพลิงเครื่องบินขนาดเล็ก หรือ ASTM International นั้น ปัจจุบันอนุญาตให้มีการใช้งาน SAF สูงสุดได้ 50 เปอร์เซ็นต์และผสมกับเชื้อเพลิงอากาศยานแบบปกติอีก 50 เปอร์เซ็นต์ เครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ สำหรับเครื่องบินพลเรือนทุกชนิดที่กำลังมีการผลิตอยู่ในปัจจุบันได้รับการรับรองให้ใช้งานในสัดส่วนการผสม SAF 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งการทดสอบ SAF 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้จะช่วยนำไปสู่การให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ที่ใช้ SAF 100 เปอร์เซ็นต์ได้