ปัจจุบันองค์กรธุรกิจทุกประเภทและทุกขนาดต่างหันมาใช้พื้นที่ใน “โคเวิร์กกิ้งสเปซ” กันมากขึ้นเพื่อจะให้ได้สำนักงานมีสภาพแวดล้อมของการทำงานในอุดมคติและเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของพนักงานได้ดีกว่า ที่สำคัญ โคเวิร์กกิ้งสเปซ สามารถช่วยประหยัดงบประมาณในการทำธุรกิจอีกด้วย จึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถรองรับความต้องการเข้ากับยุคสมัยและมีประสิทธิภาพด้านการใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าแทนการเช่าพื้นที่สำนักงานรูปแบบเดิม WeWork (วีเวิร์ก ผู้ให้บริการพื้นที่โคเวิร์กกิ้งสเปซซึ่งมีสาขาให้บริการในย่านใจกลางกรุงเทพฯ และกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของการให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซในประเทศไทย
สำหรับพื้นที่โคเวิร์กกิ้งสเปซที่ WeWork ให้บริการนั้นเป็นที่นิยมในแวดวงนักธุรกิจระดับมืออาชีพหลากหลายภาคส่วน ซึ่งหลายคนอาจจะกำลังคิดว่า กลุ่มที่มาใช้บริการคงเป็นแค่นักธุรกิจหน้าใหม่หรือเป็นสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วพบว่า บริษัท 2 ใน 3 ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วโลกและติดโผรายชื่อบริษัทชั้นนำของโลก 50 แห่งจากนิตยสาร Fortune เป็นสมาชิกกับ WeWork
ทูโรฮาส ที ฟูวาด กรรมการผู้จัดการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี WeWork กล่าวว่า องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และเล็กต่างมองหาความคุ้มค่า ความยืดหยุ่นและโซลูชั่นของการขยายสำนักงาน ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้สร้างแรงจูงใจและช่วยให้พนักงานเกิดการสร้างสรรค์ผลงาน สำหรับสตาร์ทอัพนั้น โคเวิร์กกิ้งสเปซนับได้ว่าเป็น สถานที่ทำงานที่มีความคุ้มค่าโดยสามารถอยู่ในทำเลศักยภาพ ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ก็สามารถมีสำนักงานที่มีความยืดหยุ่นรองรับการขยายตัวและการเติบโตตามความต้องการขององค์กร ในส่วนของประเทศไทยนั้น WeWork มีสมาชิกที่เป็นบริษัทสตาร์ทอัพไปจนถึงภาคธุรกิจหลากหลายมาใช้บริการ
อย่างไรก็ดี เหตุผลที่บริษัทต่างๆ หันมาเลือกใช้พื้นที่ของโคเวิร์กกิ้งสเปซ มากกว่าการเช่าพื้นที่สำนักงานแบบเดิมนั้น มี 4 ประเด็นสำคัญดังนี้
1.ประหยัดต้นทุน
โดยทั่วไปแล้วก่อนที่บริษัทจะย้ายเข้าสำนักงาน จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการวางมัดจำซึ่งในบางทีเท่ากับค่าเช่า 3-4 เดือน ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง หรือไม่ก็ต้องทำสัญญาผูกมัดที่ยาวนานไม่มีความยืดหยุ่น โคเวิร์กกิ้งสเปซจึงเป็นทางออกที่มีความคุ้มค่าสำหรับการทำธุรกิจทุกประเภท ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างสำนักงานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยที่ไม่มีการผูกมัดในสัญญาให้กลายเป็นภาระผูกพันที่ยุ่งยากหรือต้องวางเงินมัดจำก้อนโต สำหรับโคเวิร์กกิ้งสเปซของ WeWork มอบข้อเสนอในการสมัครเป็นสมาชิกระยะสั้นซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป
2.ชุมชนและสภาพแวดล้อมที่ดี
ชุมชน หรือ คอมมิวนิตี้ คือส่วนสำคัญของการทำงานในพื้นที่แบบโคเวิร์กกิ้งสเปซ ซึ่ง WeWork มอบโอกาสให้สมาชิกได้พบปะและอาจจะได้ร่วมงานกับนักธุรกิจมืออาชีพที่มีความคิดคล้ายกัน การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดีมีเอกลักษณ์มักนำไปสู่โอกาสและความร่วมมือในการทำธุรกิจใหม่ๆ นอกจากนี้กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในชุมชนยังสร้างโอกาสในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจและทักษะใหม่ๆ โดยธรรมชาติแล้วพื้นที่การทำงานแบบโคเวิร์กกิ้งสเปซจะเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานมากกว่าการทำงานในพื้นที่แคบๆ หรือทำงานที่บ้าน
3.ความสะดวกสบาย
ส่วนใหญ่แล้วโคเวิร์กกิ้งสเปซจะตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางได้สะดวก สำหรับ WeWork ล้วนแล้วแต่อยู่ในทำเลทองที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณรวมทั้งยังช่วยดึงดูดทั้งลูกค้าและพนักงาน นอกจากนี้โคเวิร์กกิ้งสเปซยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน พื้นที่ส่วนกลาง ห้องประชุม ห้องฝึกอบรมและห้องสัมมนา สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้เป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากเป็นการเช่าพื้นที่บริษัทในรูปแบบเดิมๆ สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนมหาศาล
4.ความยืดหยุ่น
โคเวิร์กกิ้งสเปซเป็นพื้นที่ที่มอบความยืดหยุ่นได้ตามขนาดที่องค์กรต้องการซึ่งจะใช้งานเมื่อใดก็ย่อมได้ ทั้งนี้หากเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจหรือเริ่มต้นทำงานฟรีแลนซ์ โคเวิร์กกิ้งสเปซที่ WeWork มีออฟชั่นหลากหลาย อาทิ โต๊ะทำงานส่วนกลาง หรือโต๊ะทำงานส่วนตัว และหากธุรกิจไปได้ดีก็สามารถขยับขยายขนาดพื้นที่ตามที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเครียดกับค่าใช้จ่ายในการย้ายอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ หรือการหาพื้นที่เช่าแห่งใหม่
นอกจากนี้ WeWork ในกรุงเทพฯ อนุญาตให้สมาชิกสามารถเข้าออกได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การทำงานของแต่ละบริษัทมีความยืดหยุ่นสูงสุด