หุ่นยนต์โคบอทพร้อมหนุนเพิ่มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตของไทย ด้วยห่วงโซ่แห่งคุณค่า


ประเทศไทย – 29 สิงหาคม 2566  : แม้ตัวเลขการจ้างงานจะมีมากกว่า 6 ล้านตำแหน่งและมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยคิดเป็นสัดส่วนถึง 34% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ประจักษ์ชัดในขณะนี้ก็คือ ภาคการผลิตของไทยกำลังอยู่ในช่วงขาลง จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมพบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ของประเทศลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ในเดือนมิถุนายน 2566 โดยลดลง 5.24% เมื่อเทียบกับปี 2565

 

ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้กระทรวงอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า MPI ของประเทศจะลดลงตลอดทั้งปี 2566 ซึ่งตรงกันข้ามกับอัตราการเติบโต 0-1% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ การที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญส่งผลให้กระทรวงการคลังได้ปรับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจลงเหลือ 3.5% จากเดิม 3.6% และเนื่องจากการผลิตถือเป็นภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน

 

แม้ว่านโยบายและความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะถูกลดทอนลง  แต่ยังมีแนวทางแก้ไขอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยบรรดาผู้ผลิตเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาปรับใช้ภายในองค์กร

 

ระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิต

อุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยแรงงานที่มีทักษะเป็นหลัก ซึ่งข้อเสียของแรงงานที่มีทักษะคือต้นทุนแรงงานที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งซึ่งกำลังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจจากการผลิตที่มีต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีอัตราการรู้หนังสือในระดับสูง โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ประมาณ100,000 คนต่อปี และเมื่อข้อมูลประชากรเกิดการเปลี่ยนแปลง พนักงานรุ่นใหม่จึงเลือกที่จะมองหางานที่ให้ผลตอบแทนทางจิตใจมากกว่าเดิม

 

เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ระบบอัตโนมัติจึงถูกมองว่าเป็นโซลูชันสำหรับการผลิตที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) รวมถึงอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารด้วย คำว่า “ระบบอัตโนมัติ” (Automation) ครอบคลุมถึงหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน (โคบอท) ซึ่งเป็นระบบแขนหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่มาพร้อมมือจับขนาดใหญ่

 

จะเห็นได้ว่าโคบอทได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก และคาดว่าจะมีการใช้งานในสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากประโยชน์ที่มากมาย ซึ่งรวมถึงการลดต้นทุนการผลิตในขณะที่สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้แม้ว่าพื้นที่การผลิตจะมีขนาดเล็กก็ตาม  การนำโคบอทเข้ามาใช้งานทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราการเติบโตต่อปีที่ 32 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี 2566 ถึง 2573 และเมื่อเปรียบเทียบกับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจะพบว่า โคบอทมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ใช้พื้นที่น้อยกว่า และใช้พลังงานน้อยกว่า

 

โคบอทตั้งโปรแกรมและปรับใช้งานใหม่

รองรับการทำงานได้หลากหลาย

ประการแรก โคบอทนำเสนอโซลูชันที่ยืดหยุ่นซึ่งเหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อใช้โคบอท ผู้ผลิตจะได้รับ         โซลูชันอัตโนมัติที่สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการของตลาด ทำให้ได้โซลูชันแบบครบวงจรที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของภาคการผลิตได้อย่างแท้จริง ธนกฤต ธานีรัตน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอท กล่าวว่า หากจำเป็น โคบอทตัวเดียวก็สามารถตั้งโปรแกรมและปรับใช้งานใหม่เพื่อรองรับการทำงานได้อย่างหลากหลาย ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา จึงสามารถเปลี่ยนลักษณะการทำงานได้โดยไม่รบกวนพื้นที่หรือสถานีงานที่มีอยู่เดิม โคบอทสามารถทำงานได้ทุกอย่างตั้งแต่การปั๊มโลหะและการทดสอบ ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพและการทำงานร่วมกับเครื่องจักร โคบอทยังสามารถช่วยในการจัดการวัสดุที่มีน้ำหนักมากและมีจำนวนหลายชิ้นส่วนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานที่มีอยู่เดิมแต่อย่างใด

นอกจากนี้ โคบอทยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการเพิ่มศักยภาพของแรงงานมนุษย์ด้วย โดยปกติแล้ว ผู้ปฏิบัติงานต้องสลับสับเปลี่ยนความรับผิดชอบในการทำงานอยู่เสมอ และต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่างานทั้งหมด

ตั้งแต่งานธรรมดาไปจนถึงงานที่ซับซ้อนและในบางครั้งก็เป็นอันตราย เช่น การขนย้ายของหนักในการจัดเรียงบนพาเลทและความร้อนสูงในการเชื่อม หรือการสัมผัสกับสารเคมีอันตรายจะได้รับการตอบสนอง

 

การนำโคบอทเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระงานดังกล่าว ถือเป็นการช่วยให้มนุษย์สามารถทำงานที่ธรรมดา อันตราย และซ้ำซากให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

 

“ในโรงงานผลิต โคบอทถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับแรงงานมนุษย์อย่างเรา โคบอทช่วยให้เรามีเวลาไปดูแลรับผิดชอบงานที่มีความซับซ้อนและต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในการทำงานที่มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ยังได้มอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับคนงานเพิ่มมากขึ้นด้วย” สิ่งนี้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดของระบบอัตโนมัติที่นำมาใช้ในการทำงานร่วมกัน เนื่องจากการทำงานที่ซ้ำซากจำเจนั้นหาคนมาทำยากขึ้นทุกขณะ”  ธนกฤต กล่าว

 

ในทางกลับกันการนำโคบอทมาใช้งานนั้นสามารถเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานได้อย่างมาก ช่วยลดการทำงานที่น่าเบื่อและอันตราย อีกทั้งยังช่วยให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่าและมีความหมายมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ยากที่จะทำให้สำเร็จเนื่องจากภาระงานที่ค้างคาอยู่เป็นจำนวนมาก การได้รับความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้นย่อมส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิตที่จะต้องมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน

 

“ประโยชน์หลักอีกประการของโคบอท คือความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โคบอทสามารถกำจัดข้อผิดพลาดของมนุษย์ในขณะที่รับประกันความสม่ำเสมอและความแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถจัดการกับกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ ดังนั้นจึงสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นภายใต้ต้นทุนที่ต่ำลงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต่างต้องการ ด้วยความช่วยเหลือจากโคบอท บรรดาผู้ผลิตจะสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้และดำเนินการผลิตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ”  ธนกฤต กล่าว

 

บริษัท เบนช์มาร์ค (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลว่าส่วนงานการประกอบอัตโนมัติและการทดสอบสายการผลิตด้วย      โคบอทสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพผลผลิต ความพึงพอใจของลูกค้า และเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นอนาคตได้อย่างชัดเจน โดยบริษัทได้ติดตั้งโคบอท UR5 4 ตัวและ UR10e 2 ตัวในสายการผลิต ซึ่งโคบอทเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้ถึง 25%

 

อนาคตภาคการผลิตของประเทศไทย

โคบอทมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงภาคการผลิตของประเทศไทยด้วยความสามารถในการปรับปรุงผลผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และความพึงพอใจของพนักงาน เมื่อมีการนำโคบอทมาใช้งานเพิ่มมากขึ้น ประเทศไทยจะสามารถวางตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้นำด้านการผลิตขั้นสูงและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น

 

“การใช้โคบอทไม่ได้เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคนทำงาน โคบอทช่วยให้มนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การคิดเชิงวิพากษ์ และทักษะการแก้ปัญหา อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตด้วยความแม่นยำของหุ่นยนต์”  ธนกฤต กล่าว

 

ความสามารถที่ยืดหยุ่นของโคบอทในการทำงานร่วมกับแรงงานมนุษย์ การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มผลผลิต ทำให้โคบอทเป็นสินทรัพย์ที่ภาคการผลิตของไทยไม่ควรมองข้าม


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save