สจล. จัดงาน “ KMITL INNOVATION EXPO 2024” ภายใต้แนวคิด SustainED โชว์นวัตกรรมจากการเรียนรู้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์อุตฯ ทุกมิติ


 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงานนวัตกรรมและผลงานวิจัย  “ KMITL INNOVATION EXPO 2024”  ภายใต้แนวคิด SustainED ซึ่งจัดเป็นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยนำเสนอนวัตกรรมและผลงานวิจัยของ สจล. และงานวิจัยที่ร่วมวิจัยกับภาคเอกชนที่เป็นผู้ร่วมสนับสนุนการวิจัย ร่วม 1,127 ผลงานวิจัย นำมาจัดแสดงภายในงาน แบ่งเป็น 6 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย 1. BCG (Agriculture & Food) 2. Industry 4.0 3.Health& Wellness 4.Digital & AI 5.Smart city และ 6.Creative Economy ซึ่งได้รวมผลงานวิจัยมาไว้ในงานเดียว ทั้งนวัตกรรมจากการเรียนรู้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตอบโจทย์ อุตสาหกรรมในทุกมิติ ทั้งด้านการขนส่ง ยานยนต์ในอนาคต พลังงานสะอาด เกษตรออแกนิกส์ อุตสาหกรรมอาหารปลอดภัย นวัตกรรมสังคม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์   ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า งาน “ KMITL INNOVATION EXPO 2024” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด SustainED ซึ่งจัดเป็นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยนำผลงานนวัตกรรมและงานวิจัยที่ สจล. คิดค้นได้เอง รวมทั้งผลงานนวัตกรรมและงานวิจัยที่ สจล.ร่วมคิดค้นกับภาคเอกชนที่เป็นผู้ร่วมสนับสนุนจำนวน 1,127 มาจัดแสดง แบ่งเป็นจัดแสดงในหอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) 193 ผลงาน จัดแสดงที่ KMITL Lifelong Learning Center (KLLC) จำนวน 489 ผลงาน และจัดแสดงในรูปแพลตฟอร์มVirtual Expo 425 ผลงาน  ซึ่งผลงานวิจัยนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ และผลงานสร้างสรรค์ ที่จะสามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์แข่งขันได้ในเวทีโลก นำไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมช่วยเหลือสังคม เน้นนวัตกรรมที่สร้างความยั่งยืนและมีการศึกษาที่นิสิตนักศึกษา อาจารย์ สจล. มีส่วนร่วมต่อยอดได้ในเชิงพาณิชย์ ทั้งยังมุ่งเน้นการเชื่อมโยงความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม และผู้ใช้ที่สามารถเข้ามาร่วมชมผลงานของนักศึกษาทั้งสถาบัน

โดยทางสถาบันฯ ได้ร่วมกับทุกคณะ ทุกวิทยาลัย และวิทยาเขต ทุกหน่วยงานภายในสถาบันและหน่วยงานภายนอทำให้เกิดกิจกรรมต่างๆเช่น ช่วง วิกฤต COVID-19 ที่ทางสถาบันฯ ช่วยคิดค้นนวัตกรรมการตรวจ COVID-19 ชุดป้องกัน เครื่องมือปลอดเชื้อและหน้ากากอนามัย เป็นต้น

สำหรับไฮไลท์ของงานอยู่ที่ผลงานวิจัยใน 6 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย 1. BCG (Agriculture & Food) ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์เพื่อความยั่งยืนและความอยู่รอดส่งขายต่างประเทศไม่ถูกกีดกันผลผลิตทางการเกษตรในอนาคต มีทั้งหมด 233 ผลงาน เช่น ผลงานวิจัยนํ้าส้มสายชูหมักจากมะม่วงมหาชนก อาหารผงแบบ Freeze Dry สแน็คแผ่นโภชนาการสูงจากปลีกล้วยและปุ๋ยอินทรีย์ 2. Industry 4.0 จำนวน 146 ผลงาน เช่น การเคลือบฟิล์มเซรามิคใสเพื่อป้องกันการหมองของเครื่องเงินและIoT Edge Computing สําหรับวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสู่โรงงานอัจฉริยะ 3. Health & Wellness จำนวน 196 ผลงาน เช่น กลุ่ม MEDICAL DEVICE ได้แก่ KMITL Oxygen High Flow  กล้องและAI ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้นและระบบสเปรย์อิมัลชันน้ำมันหอมระเหยจากพืชเพื่อการลดฝุ่น PM 2.5  4. Digital & AI จำนวน 244 ผลงาน เช่น กลุ่ม Future Mobility อากาศยานไร้คนขับอีวีทัล (eVTOL) รถไฟไทยทํา รถสามล้อไฟฟ้า ERA-ATOM และ Be Boat เรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 5. Smart City จำนวน 156 ผลงาน เช่น กลุ่ม New Energy นวัตกรรมแบตเตอรี่กราฟีนและการแปลงก้างปลาเป็นถ่านกัมมันต์เจือไนโตรเจนเพื่อประยุกต์ใช้สําหรับตัวเก็บประจุยิ่งยวด Cละ 6. Creative Economy จำนวน 152 ผลงาน เช่นสื่อสิ่งพิมพ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสําหรับเยาวชน การพัฒนากลยุทธ์การผลิตสื่อและโครงการออกแบบพัฒนาเก้าอี้ล้อเลื่อนสําหรับแข่งขันกีฬาด้านความเร็วเพื่อพัฒนาศักยภาพของคนพิการ

“การจัดงาน  “KMITL INNOVATION EXPO 2024” ครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกเวทีหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แลกเปลี่ยนความรู้ และการนําเสนอผลงาน วิเคราะห์สังเคราะห์ และฝึกทักษะการสื่อสาร รวมทั้งมีความกระตือรือร้นในการทําโครงงานนวัตกรรมและชิ้นงานในทุกระดับชั้นปี รวมถึงการส่งเสริมให้นักศึกษาทุกชั้นปีได้มีโอกาสเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ และลงมือทํา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างนวัตกรรมในอนาคต นำงานวิจัยที่แต่ละปีคิดค้นวิจัยหลายพันชิ้นงานสู่การผลิตเป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆแล้วนำเสนอหาผู้ร่วมสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐที่มีเงินทุนร่วมสนับสนุนทำให้เกิดนวัตกรรมของคนไทยขยายต่อยอดสู่มหาวิทยาลัยต่างๆที่ร่วมทำงานวิจัยด้วยกัน เพื่อสร้างทักษะ ศักยภาพของนักศึกษาของ สจล.และสถาบันการศึกษาต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆในยุคดิจิทัล หากเลือกทำวิจัยที่ไม่ก่อให้เกิดผลผลิตภัณฑ์ที่ตลาดต้องการจะเสียโอกาสเสียเงินทุนและเสียเวลาการแข่งขันกับต่างประเทศ” รศ.ดร.คมสัน กล่าว

ทั้งนี้ สจล. ได้ปรับการเรียนการสอนเสริมความรู้ด้านดิจิทัล แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการศึกษางานวิจัยในประเทศและต่างประเทศที่ควรรู้และนำไปใช้ให้นิสิตมีความรู้เพิ่มมากขึ้นเพื่อผลักดันให้สอดรับแนวคิดและการดำเนินนโยบายการบริหาร สจล. ก้าวสู่มหาวิทยาลัยดิจิทัลภายใน 1-2 ปีจากนี้ พร้อมทั้งผลักดันผลงานวิจัยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ และหวังว่าจะเกิดการต่อยอดนําไปใช้ในทุกภาคส่วนให้เกิดความยั่งยืนตามแนวคิดในการจัดงาน นอกจากเกิดความยั่งยืนแล้วต้องก่อให้เกิดประโยชน์องค์รวมในประเทศ ใช้วัสดุภายในประเทศทำให้ต้นทุนการผลิตราคาลดลงโดยเฉพาะเรื่องพลังงาน การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมรองรับการใช้ชีวิตของสังคมผู้สูงวัยในอนาคตของประเทศไทย

 

รศ.ดร.คมสัน กล่าวถึงการบ่มเพาะหลักสูตรในการสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมและนิสิต สจล.ว่า  ในระหว่างที่เรียนตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 นักศึกษาจะได้เริ่มทําโปรเจกต์ การบ่มเพาะตลอดทั้ง 4 ปี ที่ศึกษาอยู่ นักศึกษาจะมีทักษะ ความสามารถพร้อมทํางานได้จริงไม่ใช่เฉพาะความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ สจล. มีความรู้โดดเด่นในหลายๆสาขา เช่น เรื่องไฟฟ้าความเร็วสูง ยานยนต์ไฟฟ้า EV การก่อสร้างและการดำเนินธุรกิจโรงงานสีเขียวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น  ยังมีการผลักดันคณะการเกษตรที่จะนำองค์ความรู้ของคณะวิศวกรรมศาสตร์มาช่วยในเรื่องการสร้างสมาร์ทฟาร์มที่ใช้เทคโนโลยีตั้งแต่การปลูกจนถึงกระบวนการจำหน่ายอย่างเป็นระบบเรียกได้ว่าเป็นการบูรณาการต่อยอดองค์ความรู้ทักษะ 2 คณะเข้าด้วยกันอีกด้วย

นอกจากนี้ สจล.ยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมและยกระดับหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความก้าวหน้ามุ่งสู่เป็นมหาวิทยาลัยระดับแถวหน้าในภูมิภาคอาเซียนโดย สจล.มีหลักสูตรที่เข้มข้น แต่มีความยืดหยุ่นและเรียนจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจริง จับต้องได้ สอนให้วิเคราะห์เป็นอย่างมีระบบ โดยนักศึกษาสามารถเลือกศึกษาเพิ่มเติมในสิ่งที่ตัวเองสนใจได้ไม่ใช่แค่ในสาขาคณะที่ตัวเองเลือกอีกต่อไป อาจจะมีการผสมผสานการเรียนการสอนเสริมลงไปในหลักสูตรในอนาคต เพื่อให้มีการพัฒนาทักษะรอบด้าน ทั้งหลักสูตรระยะสั้น ระยะยาว ก้าวทันองค์ความรู้และโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในทุกๆวัน และยังเป็นหลักสูตรที่บุคคลทั่วไปในทุกช่วงวัยสามารถเข้ามาเรียนได้ที่สํานักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL Lifelong Learning Center) และ KMITL Master Class เช่น หลักสูตร ELON KIDS หรือจะเป็นหลักสูตร Law for Entrepreneurs กฎหมายสําหรับผู้ประกอบการ Robotics and AI หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์  ซึ่งสจล. ได้คํานึงถึงคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทของสังคม ภาคอุตสาหกรรม และยังเป็นพื้นที่ให้นักศึกษาได้สร้างสรรค์ผลงาน นวัตกรรม อันจะนำไปสู่เป้าหมายการเป็น The World Master of Innovation ตามวิสัยทัศน์ของ สจล.

ด้านศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า การจัดงานต่อเนื่องในปีที่ 2 นี้สะท้อนให้เห็นถึงตัวตน สจล. ที่มีความสามารถทั้งเรื่องการเรียนการสอน ผลงานวิจัยนวัตกรรมและความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภายใน สจล.และภายนอก สจล. ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผลงานนวัตกรรมและงายวิจัยต่างๆ ให้เกิดเป็นผลงานที่สามารถใช้ได้จริง สร้างมูลค่า สร้างแรบันดาลใจต่อยอดผลงานวิจัยเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างผลงานวิจัยใหม่ๆขึ้นมาตอบโจทย์ แก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจและประชาชนให้เกิดความยั่งยืนรักษาโลกให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นภายใต้กรอบการศึกษาใน 6 คลัสเตอร์และจะต่อยอดไปสู่คลัสเตอร์ใหม่ๆในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนา ในหลายๆ หัวข้อ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเป็นการอัปเดทเทรนด์ของนวัตกรรม และงานวิจัยจากคณะต่างๆ เช่น คณะวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมวัสดุ วิทยาลัยนวัตกรรมชั้นสูง คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี คณะศิลปะศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร คณะอุตสาหกรรมอาหาร คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและคณะบริหารธุรกิจ เป็นต้น อาทิ เทคโนโลยีอวกาศกับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติริมชายฝั่งประเทศไทย, ERIA Digital Innovation and Sustainable Economy Centre (E-DISC) and some researches for digitalization in ASEAN and EAST Asia แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาท้องถิ่นด้วยแนวทางการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ กลยุทธ์นวัตกรรมที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมไทย (Sustainable innovation strategies in Thai industry) เป็นต้น


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save