นูทานิคซ์ เผยปี 2022 โฟกัส Hybrid Multicloud – Data – End User เจาะ 3 กลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการทำ Digital Transformation


นูทานิคซ์ เผยเทรนด์ไฮบริด มัลติคลาวด์มีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยมี Digital Transformation เป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้เทคโนโลยีไฮบริด มัลติคลาวด์มากขึ้น พร้อมเดินหน้าปี  2022 มุ่งเน้นในตลาด 3 ส่วน คือ   1. โครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ และการบริหารจัดการมัลติคลาวด์  2. Data และ 3. End User Service โดยเจาะ 3 กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักที่ต้องการทำ Digital Transformation  ได้แก่   กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน  (Financial Service Industry)  2. ภาครัฐ และ 3.อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing)    พร้อมทั้งส่งเสริมให้ INET   ซึ่งเป็น Local Cloud Provider  รายใหญ่ที่สุดในไทย ต่อยอดการให้บริการคลาวด์และมีบทบาทด้าน Digital Transformation  สำหรับองค์กรในไทย

ทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์  ผู้นำด้านไฮบริด-มัลติคลาวด์คอมพิวติ้ง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ จำนวนลูกค้าในตลาดโลกและประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สิ่งที่นูทานิคซ์ ให้ความสำคัญคือ ประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้า  ทำให้บริษัทฯ ได้คะแนนสนับสนุนลูกค้า 90%  เป็นเวลา 8 ปี      ในอนาคต สภาพแวดล้อมด้าน IT จะเป็นไฮบริด มัลติคลาวด์มากขึ้น  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ต้นทุน และความปลอดภัย

พร้อมกันนี้ Digital Transformation ยังมีส่วนเร่งให้เกิดการใช้เทคโนโลยีไฮบริด มัลติคลาวด์มากขึ้น โดยภาคการเงิน ค้าปลีก   และภาครัฐได้นำ Digital Transformation มาเชื่อมโยงมากขึ้น  มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)  เข้ามาช่วยด้าน Cyber Security  เพื่อตรวจสอบและ Monitoring เพื่อจัดทำ Capacity Planning   ทั้งนี้นูทานิคซ์มีโซลูชันที่นำเทคโนโลยี AI  มาช่วย โดยพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มี AI ในตัว   เพื่อช่วยลดต้นทุน และทำให้เกิดความปลอดภัย

ทวิพงศ์ กล่าวว่า ในปี  2022 นูทานิคซ์มุ่งเน้นในตลาด 3 ส่วน คือ   1. โครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ และการบริหารจัดการมัลติคลาวด์ ซึ่งเป็นพื้นฐานให้องค์กรมั่นใจว่ามีเครื่องมือเชื่อมโยงเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานให้ลูกค้า   เช่น Red Hat และ Palo alto  2. Data และ 3. End User Service ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปฏิบัติงานจากที่ไหนก็ได้อย่างปลอดภัย     ยกตัวอย่าง ในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา โตโยต้าในญี่ปุ่นให้พนักงานและวิศวกรจำนวน 13,000 คน  ทำงานจากที่บ้านอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ Nutanix Enterprise Cloud Platform  ตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับซอฟต์แวร์การออกแบบ CAE/CAE  สำหรับรถยนต์

สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของนูทานิคซ์ ในปี 2022 ประกอบด้วย 1 กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน  (Financial Service Industry)  2. ภาครัฐ และ 3.อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing)  ซึ่งมีความต้องการในการทำ Digital Transformation   โดยนูทานิคซ์ จะนำโซลูชันที่มีเข้าไปในเส้นทางการทำ Digital Transformation    มัลติคลาวด์  และ Data Consolidatation  พร้อมทั้งส่งเสริมให้พันธมิตรอย่างบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET   ซึ่งเป็น Local Cloud Provider  รายใหญ่ที่สุดในไทย ให้สามารถต่อยอดการให้บริการคลาวด์และมีบทบาทด้าน Digital Transformation  สำหรับองค์กรในไทย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save