จัสโค เตรียมเปิด Co-working Space แห่งที่ 5 @สีลมเอจ ตอบรับการทำงานแบบ Hybrid ที่เพิ่มสูงขึ้น


ภาพจำลอง จัสโค สาขา สีลมเอจ บริเวณ Hot Desking และ Collaboration Space

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 15 มิถุนายน 2565 : จัสโค ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นระดับพรีเมียมในเอเชียแปซิฟิก เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ล่าสุดได้เตรียมเปิด Co-working Space สาขาที่ 5 ในไทย ณ อาคารสีลมเอจในเดือนกันยายนนี้ ตอบรับความต้องการขององค์กรธุรกิจต่างๆ ที่กำลังมองหาพื้นที่การทำงานแบบไฮบริด ที่ยืดหยุ่น หลังสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลาย

มร. คง วัน ลง ผู้ก่อตั้งร่วมและซีซีโอ จัสโค กล่าวว่า ในปัจจุบัน รูปแบบการทำงานแบบไฮบริดไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป สิ่งนี้ได้กลายมาเป็นแนวทางใหม่สำหรับการทำงานในปัจจุบันและอนาคต โดยทุกวันนี้ หลายธุรกิจที่สัญญาเช่ากำลังจะหมดลง เริ่มหันมาพิจารณาพื้นที่การทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า เพื่อวางแผนทางการเงินที่คล่องตัวขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดจากจำนวนสมาชิกของจัสโคในแต่ละสาขาที่มีสูงถึง 80% ทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีสมาชิกเข้าใช้บริการเต็มเกือบทุกสาขา เช่น สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการมากกว่า 95%   ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าสายเทคโนโลยีและสตาร์ทอัป  

ในปีนี้จัสโคได้เปิดสาขาใหม่ในเอเชียแปซิฟิก ทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 2 สาขา สิงคโปร์  1 สาขา และกรุงเทพฯ ประเทศไทย 1 สาขา  ทำให้ปัจจุบันจัสโคมีสาขามากกว่า 45 แห่งใน 10 เมือง 8 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค  และมีสมาชิกกว่า 1 แสนคน

“ในมุมมองธุรกิจ การขยายสาขาไปทั่วโลก จะช่วยให้เราสามารถมอบพื้นที่การให้บริการได้ดียิ่งขึ้น และครอบคลุมมากขึ้น ทั้งนี้ มีสมาชิกของจัสโคจำนวนไม่น้อยที่มีการดำเนินงานในระดับภูมิภาค การเป็นสมาชิกของจัสโคเพียงแห่งเดียว ก็สามารถเข้าใช้บริการสาขาที่มีมากกว่า 45 แห่งของเราได้ทั้งหมด พร้อมโต๊ะทำงานที่พร้อมรองรับสมาชิกได้มากกว่า 30,000 รายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” คง วัน ลง กล่าว

วิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป ประเทศไทย และอินโดนีเซีย จัสโค
วิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป ประเทศไทย และอินโดนีเซีย จัสโค

วิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ ผู้จัดการทั่วไป ประเทศไทย และอินโดนีเซีย จัสโค กล่าวว่า แม้ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก ซึ่งยาวนานกว่า 2 ปี แต่ฐานลูกค้าของจัสโคในประเทศไทยกลับเติบโตสูงขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับต้นปี 2563 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ให้บริการสมาชิกมากกว่า 6,000 รายในประเทศไทย จากเดิม 4,000 ราย  

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ความต้องการใช้พื้นที่ของลูกค้าด้านไอที  ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 %  ล่าสุดจัสโคจึงได้เตรียมเปิด Co-working Space สาขาที่ 5 ณ อาคารสีลมเอจในเดือนกันยายนนี้   

โดยจัสโค สีลมเอจ ตั้งอยู่ใจกลางย่านเศรษฐกิจบนหัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 สะดวกสบายด้วยทางเชื่อมไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน (MRT) และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) พร้อมกันนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ร้านค้า และร้านอาหารที่เตรียมเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ชูจุดเด่นด้วยพื้นที่ทำงานที่มองเห็นทัศนียภาพของสวนลุมพินี โอเอซิสสีเขียวใจกลางเมือง 

จัสโค สาขาสีลมเอจมีพื้นที่ 4,400 ตรม. ทั้งหมด 4 ชั้นจากทั้งหมด 12 ชั้น แบ่งเป็นพื้นที่ทำงานที่เป็นออฟฟิศส่วนตัว และห้องสวีทขนาดใหญ่สำหรับองค์กร ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานพื้นที่แบบผสมผสานหรือไฮบริด รวมไปถึงการแบ่งทีมทำงาน และนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน ด้วยความยืดหยุ่นอย่างสุดสูง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งแก่ผู้เช่าพื้นที่ในอาคารเอง และผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกของจัสโค ซึ่งสามารถรองรับได้กว่า 900 ที่นั่ง

มร. คง วัน ลง กล่าวเสริมว่า  จัสโค สีลมเอจ ถือเป็น Co-working Space แห่งใหม่ล่าสุดของจัสโคที่มาพร้อมประสบการณ์ด้านดิจิทัล เช่น การเปิดประตูออฟฟิศด้วยระบบ Wireless การจองพื้นที่ทำงาน ห้องประชุม และพื้นที่จัดงานและบริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันอย่างรวดเร็ว ให้บริการสตูดิโอสำหรับไลฟ์สตรีมมิ่งและพอดคาสต์ ทั้งสำหรับสมาชิกและบุคคลทั่วไปเป็นสาขาแรกในไทย และมีแอปฯ ที่เป็นเสมือนกุญแจให้สมาชิกสามารถเข้าใช้บริการจัสโคได้ทั้ง  5 แห่ง เพื่อตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่แบบไฮบริด
“เราเชื่อว่าด้วยจุดแข็งของจัสโค ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่น ราคาที่เข้าถึงได้ ทีมงานที่พร้อมให้บริการ ไปจนถึงทำเลที่เหมาะสม ทำให้เราสามารถเติบโตไปพร้อมกับสมาชิกของเราได้ในระยะยาว และสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง” วิมลนิตย์ กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save