กรุงเทพฯ – 14 สิงหาคม 2563 : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เผยภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี พ.ศ. 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,292 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดโอนที่ทำได้ 3,088 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 707 ล้านบาท มั่นใจภาพรวมทั้งปีพ.ศ. 2563 บริษัทฯ จะเติบโตตามเป้าหมายรายได้รวม 16,000 ล้านบาท และมียอดโอน 14,000 ล้านบาท
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ.2563 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,292 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดโอนที่ทำได้ 3,088 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 707 ล้านบาท แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในช่วงครึ่งปีแรกของปีพ.ศ 2563 แต่ด้วยจุดแข็งของบริษัทฯ ที่ปลูกฝังแนวคิดแบบ Disruptor Mindset ให้แก่พนักงานทุกคน พยายามคิดให้มากกว่า คิดให้ละเอียดกว่า และคิดให้แปลกใหม่กว่า หรือ Think Beyond ทำให้บริษัทฯจึงยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วสามารถก้าวผ่านทุกสถานการณ์ มีกลยุทธ์ มีโซลูชั่นใหม่ๆ ตอบโจทย์ตลาดเชิงรุก ขณะเดียวกันเรายังควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 2 ยังคงเติบโตโดดเด่นและส่งผลให้บริษัทฯ ก้าวสู่ 1 ใน 3 ผู้นำ หรือ “TOP3” ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย
สำหรับแนวโน้มครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 บริษัทฯมั่นใจการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้ ที่ยอดโอน 14,000 ล้านบาท และรายได้รวม 16,000 ล้านบาท โดยจะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ ทั้งโครงการบ้านจัดสรร และโครงการ Non-JV พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งหลังของปี พ.ศ.เพิ่มอีก 10 โครงการ และยังมีโครงการ JV ที่จะสร้างเสร็จใหม่ พร้อมทยอยโอนอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช (KnightsBridge Prime Onnut) ซึ่งจะเริ่มทยอยโอนในไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ.2563 และโครงการไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน (KnightsBridge Space Ratchayothin) ซึ่งจะเริ่มทยอยโอนในไตรมาสที่ 4 ของปีพ.ศ.2563 มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 17,100 ล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มโครงการ JV มียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) รออยู่แล้วถึงกว่า 90%
พีระพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของกลยุทธ์ในการทำงาน บริษัทฯ จะเดินหน้ากลยุทธ์ Origin Next Normal ต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจสมาร์ทคอนโด, การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่เข้ามาใช้ในโครงการที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ทั้งด้าน Reaching Solution และ Living Solution รวมทั้งจะมีการเปิดตัวบ้านจัดสรร 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ เบลกราเวีย (BELGRAVIA) เพื่อเจาะตลาดระดับลักชัวรี่ และไบรตัน (BRIGHTON) เพื่อเจาะตลาด Gen Y-Z ขยายเซ็กเมนท์ใหม่ๆ ขณะเดียวกัน มีโครงการรอเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังอีกกว่า 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 16,700 ล้านบาท และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร