จากซ้ายไปขวา โอซามุ โอโนะ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาค ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคและอินเดีย/มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด Rachmad Handoko กรรมการ/อินโดนีเซีย เพาเวอร์ และ Darmawan Prasodjo และประธานกรรมการ/PLN
โตเกียว : บริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) และ PT PLN Indonesia Power ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PT ผู้ให้บริการไฟฟ้าของรัฐบาลอินโดนีเซีย PLN (Persero) ได้ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ในการเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้ระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงร่วมแบบมีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำในโรงไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของ อินโดนีเซีย เพาเวอร์ (Indonesia Power) โดยโครงการศึกษาทั้งสามโครงการจะดำเนินการร่วมกัน พร้อมได้รับการสนับสนุนจากมิตซูบิชิ พาวเวอร์ ซี่งเป็นแบรนด์ด้านโซลูชันพลังงานของบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาโซลูชันเพื่อขับเคลื่อนแผนการลดการก่อคาร์บอนในระบบพลังงานในประเทศอินโดนีเซีย
โดยโครงการศึกษาแรกจะพิจารณาความเป็นไปได้ด้านเทคนิคและในเชิงเศรษฐศาสตร์ของระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงร่วมจนถึงระดับที่ใช้ชีวมวล 100% ในโรงไฟฟ้าถ่านหิน Suralaya (CFPP) โดยโครงการศึกษานี้จะพิจารณาในแง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของชีวมวล ทั้งด้านการจัดการ จัดเก็บ ขนส่ง และการดัดแปลงหม้อไอน้ำ
โครงการศึกษาที่สอง จะใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน Suralaya (CFPP) เป็นโรงไฟฟ้าอ้างอิงเช่นกัน โดยจะศึกษาแนวทางการใช้ระบบ การเผาไหม้เชื้อเพลิงร่วมกับแอมโมเนียที่ผลิตจากโรงงานแอมโมเนียที่มีอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันสิ่งที่ต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษคือ โอกาสในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานสำหรับแอมโมเนียสีน้ำเงินที่มีฐานการผลิตและการขนส่งจากโรงงานแอมโมเนีย และมีเทคโนโลยีการเผาไหม้เชื้อเพลิงร่วมกับแอมโมเนียที่จะใช้ในหม้อไอน้ำที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ส่วนโครงการศึกษาที่สามเป็นการประเมินความเป็นไปได้ด้านเทคนิคและด้านเศรษฐศาสตร์ในการใช้ระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงร่วมกับไฮโดรเจนในกังหันก๊าซรุ่น M701F ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกับกังหันก๊าซ Tanjung Priok (GTCC) ที่มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด ได้ก่อสร้างหน่วยที่ 2 ของโรงไฟฟ้าดังกล่าวเสร็จสิ้น เมื่อปี 2562 ภายใต้แผนของ PLN เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าขนาด 880 MW ในโครงการ Jawa-2
การบันทึกความร่วมมือนี้ได้มีการลงนามระหว่างงาน Energy Transition Day ที่จัดขึ้นโดย PLN Group ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ภายในงานยังมีการหารือพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับแผนงานริเริ่มและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อที่จะให้ประเทศอินโดนีเซียสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายการหยุดการปล่อยมลพิษในปี พ.ศ.2603 ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มอุตสาหกรรม ตัวแทนจากภาครัฐ และผู้นำทางธุรกิจรวมกันกว่า 250 คน
โอซามุ โอโนะ รองประธานอาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและอินเดียของ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่บริษัทฯ และมิตซูบิชิ พาวเวอร์มีส่วนช่วยพัฒนาโครงข่ายด้านพลังงานของประเทศอินโดนีเซีย และยังมีบทบาทสำคัญในโครงการด้านพลังงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งข้อตกลงครั้งใหม่นี้ร่วมกับอินโดนีเซีย เพาเวอร์ ไม่เพียงแต่จะยกระดับเสถียรภาพและประสิทธิภาพให้กับโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมรวมทั้งโรงไฟฟ้า Tanjung Priok ที่เรามีส่วนในการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังเป็นการพิจารณาทางเลือกใหม่ๆ ที่จำเป็นเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายที่เรามีพร้อมทั้งตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานของประเทศที่อยู่ในระดับวิกฤต”
ด้านเอ็ดวิน นุกราฮา พัทรา ประธาน PT PLN Indonesia Power กล่าวว่า เรามีความยินดีอย่างมากที่ได้กระชับความสัมพันธ์ร่วมกับบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด เพื่อให้มีการเปิดรับพลังงานหมุนเวียนและเชื้อเพลิงสะอาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานอย่างยั่งยืนในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งข้อตกลงใหม่นี้เป็นการตอกย้ำถึงพันธกิจของเราในการสนับสนุนการพัฒนาในการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคพลังงานของประเทศอย่างยั่งยืน
ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้และแผนงานริเริ่มอื่น ๆ บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด พร้อมการสนับสนุนจากมิตซูบิชิ พาวเวอร์ จะมีส่วนช่วย ให้อินโดนีเซียสามารถทำตามเป้าหมายในการหยุดการปล่อยมลพิษภายในปี 2603