กรุงเทพฯ – ประเทศไทย : การ์ทเนอร์เผยรายงานตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซี พบว่าภาพรวมยอดขายพีซีทั่วโลกไตรมาสแรกปีพ.ศ.2563 จำนวน 51.6 ล้านยูนิต ลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีพ.ศ.2562 จากผลการวิจัยของการ์ทเนอร์ยังพบว่ายอดขายของตลาดพีซีทั่วโลกประสบวิกฤตลดลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 หลังเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ไตรมาส ก่อนหน้านี้
มิคาโกะ คิตากาวะ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า การระบาดของไวรัสคือปัจจัยเดียวที่มีผลกระทบต่อการทรุดตัวของตลาดพีซีมากที่สุด ทำให้ทั้งอุปสงค์และอุปทานของตลาดพีซีหยุดชะงัก หลังจากประเทศจีนเริ่มต้นมาตรการล็อคดาวน์เมื่อปลายเดือนมกราคม ปริมาณการผลิตพีซีก็ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ และได้กลายเป็นความท้าทายด้านการขนส่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อการล็อคดาวน์พื้นที่เพื่อป้องกัน COVID-19 แพร่กระจายนั้นขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ได้เกิดความต้องการพีซีในรูปแบบใหม่อย่างฉับพลัน ทั้งเพื่อรองรับการทำงานระยะไกลและเรียนผ่านระบบออนไลน์ ที่ผู้ผลิตพีซีคาดไม่ถึงมาก่อน
“ผลประกอบการของผู้ผลิตพีซีไตรมาสนี้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้จ่ายด้านพีซีมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ประกอบกับการสิ้นสุดในการอัพเกรดสูงสุดที่วินโดวส์ 10 ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องโยกงบประมาณด้านไอทีจากพีซี ไปใช้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เราจะเริ่มเห็นผู้ประกอบการและผู้บริโภคยืดอายุการใช้งานพีซีให้ยาวนานมากขึ้นเนื่องจากพวกเขามุ่งเน้นที่ไปการเก็บรักษาเงินสด” คิตากาวะ กล่าว
แม้จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ผลิตพีซี 3 อันดับแรกก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นจาก 60% ในไตรมาสแรกปีพ.ศ.2562 เป็น 65.6% ในไตรมาสแรกของปีพ.ศ.2563 (ดูตารางที่ 1)
ตารางที่ 1 การคาดการณ์ยอดขายต่อยูนิตเบื้องต้นของผู้ขายพีซีทั่วโลกไตรมาสที่ 1 ปี 2020 (หน่วยเป็นพันยูนิต)
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้รวมพีซีแบบตั้งโต๊ะ, โน้ตบุ๊คพีซี และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คระดับพรีเมียมขนาดพกพา เช่น (ไมโครซอฟท์ เซอร์เฟซ) แต่ไม่รวมโครมบุ๊คและไอแพด ข้อมูลทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของการประมาณการเบื้องต้น การประมาณการขั้นสุดท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลง สถิติจะขึ้นอยู่กับการจัดส่งสินค้าทางช่องทาง ตัวเลขต้องไม่เกินจำนวนที่แสดงเนื่องจากการปัดเศษ
ที่มา: การ์ทเนอร์ (เมษายน 2563)
แม้ว่า เลอโนโว ครองตำแหน่งที่ 1 ในตลาดพีซีทั่วโลก แต่มียอดขายสินค้าลดลง 3.2% ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ.2563 และ 22.6% เทียบปีต่อปีในเอเชียแปซิฟิก
ในไตรมาสแรก เอชพี อิงค์ มีความท้าทายจากยอดขายพีซีที่ลดลง 12.1% หลังจากเติบโตติดต่อกัน 3 ไตรมาส โดยบันทึกยอดขายสินค้าลดลงเป็นตัวเลขสองหลักในทุกภูมิภาคที่สำคัญ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ยากที่สุดในการตีตลาดพีซีแบบตั้งโต๊ะในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น
แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เดลล์ เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มียอดขายเติบโตเมื่อเทียบปีต่อปี เพิ่มขึ้น 2.2% โดยในไตรมาสแรกของปีพ.ศ.2563 เดลล์มียอดขายเติบโตขึ้นทุกภูมิภาค ยกเว้นในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกาที่ยังมีความต้องการพีซีของเดลล์คงที่ตลอดจนถึงเดือนมีนาคม และในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2563 ยังถือเป็นไตรมาสที่ 9 ติดต่อกันที่เดลล์มียอดขายเติบโต
ภาพรวมยอดขายในระดับภูมิภาค
ยอดขายพีซีในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกันสืบเนื่องมาจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของ COVID-19 จากภาครัฐ ไวรัสสร้างผลกระทบอย่างชัดเจนในตลาดอเมริกาช่วงไตรมาสแรกปี 2020 โดยตลาดพีซีของอเมริกามีอัตราเติบโตเล็กน้อยเพียง 0.8% อย่างไรก็ตาม ยอดขายพีซีหล่นฮวบถึง 30.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
เดลล์ และ เอชพี อิงค์ สลับตำแหน่งกันในเรื่องของยอดขายพีซีในตลาดอเมริกา โดยเดลล์ครองส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่า 31% (ดูตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 การคาดการณ์ยอดขายต่อยูนิตเบื้องต้นของผู้ขายพีซีในสหรัฐฯไตรมาสที่ 1 ปี 2020
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้รวมพีซีแบบตั้งโต๊ะ, โน้ตบุ๊คพีซี และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คระดับพรีเมียมขนาดพกพา เช่น (ไมโครซอฟท์ เซอร์เฟซ) แต่ไม่รวมโครมบุ๊คและไอแพด ข้อมูลทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของการประมาณการเบื้องต้น การประมาณการขั้นสุดท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลง สถิติจะขึ้นอยู่กับการจัดส่งสินค้าทางช่องทาง ตัวเลขต้องไม่เกินจำนวนที่แสดงเนื่องจากการปัดเศษ ที่มา: การ์ทเนอร์ (เมษายน 2020)
ตั้งแต่การ์ทเนอร์เริ่มเก็บข้อมูลตลาดพีซี ปีนี้เอเชียแปซิฟิกมีตัวเลขการลดลงต่ำที่สุดที่ 27.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่การเกิด COVID-19 ในประเทศจีนที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญของการลดลงนี้ อันเนื่องมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรธุรกิจ ภาครัฐ และผู้บริโภคถูกระงับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ การส่งมอบพีซีในประเทศจีนตกลงมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เดสก์ท็อปพีซีที่เป็นสินค้าหลักของกลุ่มลูกค้าภาครัฐและภาคการศึกษาต้องพบกับตัวเลขที่ต่ำลงมากที่สุดเกือบ 40% โดยโมบายล์พีซี เช่น โน้ตบุ๊คลดลงน้อยกว่า 20% อันเนื่องมาจากความต้องการของฝั่งพนักงานและนักเรียนที่มีความจำเป็นต้องใช้งานเพื่อทำงานหรือเรียนจากบ้าน
ยอดขายพีซียุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ลดลง 7% เหลือ 16.8 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี ในไตรมาสแรกการซื้อพีซีทั้งจากตลาดธุรกิจและตลาดคอนซูมเมอร์ลดลงอย่างฮวบฮาบ อันเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มข้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ของหลายประเทศในภูมิภาคนี้