บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีและการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ร่วมกับ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทย พร้อมด้วย บริษัท วินโนนี่ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่ (Swap Station) ที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทย บริษัท กิลาทส์ (KILATS) จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้าต่ำจากประเทศสิงคโปร์ และบริษัท มูซาชิ เซมิทสึ อินดัสทรี จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบ พัฒนา และผลิตชุดเฟืองท้าย ร่วมเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ STROM MONKEY MNK-250L2 และ STROM BULL BL-1000L ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดขึ้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ ผู้บริหารจากทางบริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า STORM ร่วมกับพันธมิตร ได้ร่วมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้คนไทยที่บูธ M1 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ Challenger Hall อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ STROM MONKEY MNK-250L2 ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมมากว่า 3 ปี จนได้มาเป็นรถที่ตอบสนองต่อการใช้งานไรเดอร์ดีที่สุดของ STROM ในขณะนี้และ STROM BULL BL-1000L สุดยอดรถจักยานยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ตทางเรียบ ที่ให้พละกำลังมหาศาลจากมอเตอร์กำลัง 10 KW คันแรกของไทย ในรูปทรงสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา โดยร่วมมือกับทางพันธมิตรทางธุรกิจ3 พาร์ทเนอร์จาก ไทย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ร่วมกันคิดค้นจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของคนไทย ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ปีละ 20,000 คัน โดยมีความพร้อมในการผลิตและส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ทันที ในส่วนของการขยายฐานการตลาดและสร้างการรับรู้การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัทฯ ขณะนี้มี 2 ประเทศ คืออินโดนีเซียและประเทศเวียดนาม ส่วนในอนาคตต้องทำการประเมินตลาดและศึกษาการทำตลาดในประเทศในอาเซียนอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้านก่อนขยายตลาดจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทฯ คาดว่าในปี พ.ศ.2566 จะมียอดขายจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับ 3 ของตลาด หรือคาดว่าจะมีมาร์เก็ตแชร์คิดเป็น 20% ของตลาดซึ่งมูลค่าตลาดรวมของตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าประมาณการณ์ว่าในปี พ.ศ.2566 จะอยู่ที่ประมาณ 20,000 คัน
พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV ECO SYSTEM) สำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบว่าแบ่งออกเป็น 2 แนวคิด คือ การใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน 72V ที่พัฒนาบนหลักการของ STROM และ เทคโนโลยีแรงดันไฟฟ้าต่ำ 48V สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอื่นๆ จึงร่วมกับพันธมิตรในการออกแบบระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ประกอบด้วย
1.การพัฒนาสถานีสลับแบตเตอรี่ SWAPPING STATION เพื่อใช้งานในกลุ่มไรเดอร์ โดยมีการร่วมมือบริษัท วินโนนี่ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่ที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทย ทำการพัฒนาตู้สลับแบตเตอรี่แบบอัติโนมัติ พื้นฐานแบบ 72V สำหรับผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า STORM ซึ่งจะติดตั้งอยู่ตามสถานีน้ำมันบางจากทั่วประเทศ รองรับผู้ใช้แบตเตอรี่แบบสลับได้ (SWAP) บนเทคโนโลยีพื้นฐาน 72V ของ STROM และจัดการบนแพลตฟอร์มของ WINNONIE ซึ่งมีแผนจะขยายจุดให้บริการให้ครบ 100 จุดภายในปีนี้
2.สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเทคโนโลยีแรงดันไฟฟ้าต่ำ 48V อื่นๆ ได้ร่วมกับบริษัท กิลาทส์ จำกัด (KILATS) จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีจักรยานยนต์ไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้าต่ำ 48V พร้อมระบบตู้สลับแบตเตอรี่อัตโนมัติครบวงจร เพื่อรองรับเทคโนโลยีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้าต่ำ 48V ทั้งหมดในตลาด โดยจะมีทั้งตัวรถที่พัฒนาร่วมกันกับ STROM และ เครือข่ายตู้สลับแบตเตอรี่อัตโนมัติซึ่งจะพร้อมใช้งานภายในปี พ.ศ.2566 นี้
3.ในส่วนของการพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์และการขับเคลื่อนได้มีการร่วมมือกับบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ Tier1 ระดับโลก คือ บริษัท มูซาชิ เซมิทสึ อินดัสทรี จำกัด (Musashi Seimitsu Industry Co., Ltd.) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบ พัฒนา และผลิตผลิตภัณฑ์ชุดเฟืองท้าย ชุดเกียร์ โดย STROM และ Musashi ได้มีการหารือกันเพื่อนำเสนอโซลูชันการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบใหม่ที่ผสมผสานประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูงเข้ากับตลาดรถจักรยานยนต์ ด้วยการผสานความรู้และประสบการณ์ที่เหนือชั้นของ STROMในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเข้ากับ EV Drive-Unit ของ Musashi ซึ่งรวมเกียร์ทดรอบและมอเตอร์ที่มีลักษณะของแรงบิดที่ยอดเยี่ยม ทำให้สามารถทำงานร่วมกันนำโซลูชันพลังงานไฟฟ้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยมีจุดเด่นเรื่องความทนทาน และการประหยัดพลังงาน ช่วยให้ รถจักรยานยต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้นกว่ารถทั่วไป ถึง 3 เท่า เพื่อนำมาเป็นชุดขับเคลื่อนพื้นฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ STROM ต่อไปในอนาคต