J&T Express ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ระดับโลกฉลองความสำเร็จครบรอบ 4 ปี ในประเทศไทย ภายใต้ธีม “Parcel Story of 4ever Friendship มิตรนิรันดร์” โดยล่าสุดได้ดึงซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก “ลิโอเนล เมสซี” มาเป็นGlobal Brand Ambassador คนแรก เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ รวมถึงโปรโมทกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้บริการได้ดียิ่งขึ้นในการให้บริการตลอด 365 วัน หรือ ใน 1 ปี ของทุกๆคนที่ใช้บริการได้รับพัสดุที่จัดส่งโดยบริษัทฯตรงตามระยะเวลาอย่างดีที่สุด เช่นเดียวกับความตั้งใจที่จะพัฒนาบริการในห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม สำหรับในประเทศไทยตั้งเป้าปี พ.ศ. 2566 มียอดส่งจำนวนพัสดุส่งด่วนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปี พ.ศ. 2565 
ลิลลี่ เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เจแอนด์ที เอ็กซ์เพลส ประเทศไทย กล่าวว่า จุดเริ่มต้น ของการทำธุรกิจของบริษัทฯ ได้เริ่มต้น 2558 หรือเมื่อประมาณ 8 ปี ที่แล้วที่ประเทศอินโดนีเซีย ในการขยายการให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งพัสดุด่วนครบวงจรระดับโลก ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายครอบคลุม 13 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย กัมพูชา สิงคโปร์ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เม็กซิโก บราซิล และอียิปต์ โดยคิดเป็นการให้บริการลูกค้าไปแล้วกว่า 2,500 ล้านคนทั่วโลก ในฐานะผู้ให้บริการ ขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกต่างๆ เช่น Shopee SHEIN DJI VIVO OPPO BOOT TikTok Shop และอื่นๆอีกมากมาย ที่ได้ให้การสนับสนุนบริษัทฯเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้บริการและบริษัท พันธมิตรในประเทศไทยที่ให้โอกาสบริษัทฯในการจัดส่งพัสดุตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีเส้นทางการขนส่งพัสดุในประเทศไทย ครอบคลุม 77 จังหวัด 928 อำเภอ โดยมีศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร สนับสนุนการให้บริการผู้ใช้บริการในธุรกิจทั้งแบบ B2B และ B2C ซึ่งมีเทคโนโลยีคัดแยกอัตโนมัติที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการบริการคัดแยกพัสดุสูงสุต่อวันอยู่ที่ประมาณ 4,000,000 ชิ้น มีพนักงานทำงานประมาณ 35,000 คน จัดส่งพัสดุด่วน การขนส่งพัสดุระหว่างประเทศตลอดการบริการใน 365 วัน หรือใน 1 ปี และมีจุดรับพัสดุภายในสถานีให้บริการ MRTจำนวน 32 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครประมาณ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ผู้ใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น
ลิลลี่ เฉิน กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการให้บริการขนส่งที่ตรงเวลามากขึ้นถึง 91% ส่งผลให้ยอดพัสดุเติบโตขึ้นกว่า 25% ในปี พ.ศ.2565 รวมถึงจำนวนพัสดุเพิ่มขึ้นถึง 50% ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 เมื่อเทียบกับปีที่ พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา สำหรับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ.2566 นี้จะพยายามรักษาความสามารถในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาการให้บริการที่มีอยู่ให้มีศักยภาพตอบโจทย์ลูกค้าให้ดียิงขึ้น โดยตั้งเป้าว่าปี พ.ศ. 2566 จะมียอดส่งจำนวนพัสดุส่งด่วนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปี พ.ศ. 2565 ให้ได้ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลายลงและธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจของบริษัทฯได้รับอานิสงส์ที่ดีในการจัดส่งพัสดุลูกค้ากลุ่มอีคอมเมิร์ชไปด้วย
“ในส่วนของต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่คาดเดายากในแต่ละช่วงนั้น
ทางบริษัทฯ ยังคงใช้ราคาจัดส่งแบบเดิมไม่มีการขึ้นราคาจัดส่งสินค้าแต่อย่างใด ยังคงรักษาประสิทธิภาพในการจัดส่งให้ถึงมือผู้รับปลายทางในทุกๆที่ตามระยะเวลาของพื้นที่ที่ระบุ เพราะหากนำส่งล่าช้าหรือมีการตีกลับของสินค้าต้องนำส่งใหม่อีกครั้ง ทางบริษัทฯจะเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการนำส่งอีกครั้งซึ่งการตีกลับของสินค้าของบริษัทฯ จะเกิดขึ้นน้อยมากเว้นเสียแต่ผู้รับปลายทางจะมีเหตุสุดวิสัยในการรับที่ไม่สวามารถรับพัสดุได้ เช่น ติดต่อไม่ได้ มีเหตุต้องไปทำธุระต่างจังหวัดกะทันหัน เกิดการเก็บป่วย อุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงและอื่นๆ เป็นต้น” ลิลลี่ เฉิน กล่าว
สำหรับการลงทุนในปี พศ.2566นั้นจะลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีการคัดแยกพัสดุ นำระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในการคัดแยกพัสดุและการติดตั้งในรถขนส่งเพิ่มเติม นอกจากนี้มีการลงทุนกับลูกค้าในการจัดกิจกรรมต่างๆทั้งในช่วงระยะเวลาครบรอบในแต่ละปีและการมีโปรโมชันในแต่ละช่วงของการดำเนินธุรกิจในแต่ละปี เพื่อมอบเป็นส่วนลดให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ส่วนการแข่งขันในธุรกิจโลจิสติกส์ขนส่งในประเทศไทยนั้นมองว่ายังมีโอกาสอีกมากในการทำธุรกิจซึ่งแต่ละผู้ประกอบการก็มีจุดเด่นในการทำตลาดที่แตกต่างกัน ดังนั้นบริษัทจึงมีการศึกษาตลอดและปรับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ตอบสนองลูกค้าในทุกๆ กลุ่มให้มีศักยภาพและสิทธิภาพให้มากที่สุดเพื่อสร้างการรับรู้ การเข้าถึงในบริการในทุกๆ จุดของศูนย์รับส่งพัสดุของทางบริษัทฯ จากลูกค้า
ล่าสุดบริษัทฯได้ดึงซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง “ลิโอเนล เมสซี” มาเป็น Global Brand Ambassador คนแรก เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ รวมถึงโปรโมทกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้บริการได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับความตั้งใจที่จะพัฒนาบริการในห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ส่วนในประเทศไทย “มาริโอ้ เมาเรอ” นักแสดงและนายแบบชื่อดัง ยังคงเป็น Brand Ambassador ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4