กรุงเทพฯ – 29 มิถุนายน 2564 : บริษัท อินโฟบล็อกซ์ (Infoblox) ผู้นำด้านระบบเครือข่ายและการบริการระบบรักษาความปลอดภัย เปิดตัว อินโฟบล็อกซ์ 3.0 (Infoblox 3.0) ที่มุ่งนำประสบการณ์ระบบเครือข่ายแบบคลาวด์ -เฟิร์ส (Cloud-First) อย่างปลอดภัย โดยบริษัทฯ ได้นำ NIOS ซึ่งเป็นโซลูชันดีดีไอ (DDI) ชั้นนำในอุตสาหกรรมสำหรับเซิร์ฟเวอร์องค์กร มารวมกับแพลตฟอร์ม BloxOne Threat Defense และ BloxOne DDI ที่ทำงานบนระบบคลาวด์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงระบบเครือข่ายหลักและระบบรักษาความปลอดภัยเข้ากับระบบคลาวด์ได้อย่างราบรื่นภายใต้แนวทางที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่
อภิชาติ เจิมประไพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย อินโฟบล็อกซ์ กล่าวว่า อินโฟบล็อกซ์ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2542 ปีนี้ดำเนินธุรกิจเป็นปีที่ 22 มีลูกค้ามากกว่า 12,000 ราย ซึ่งรวมบริษัทมากกว่า 70% ที่ติดทำเนียบฟอร์จูน 500 ด้วย โดยมีฐานลูกค้าครอบคลุมทุก Segment เช่น การแพทย์และสาธารณสุข ค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต เทเลคอมระดับโลก การเงินและธนาคาร รวมทั้งธุรกิจพลังงาน
สถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อ COVID-19 ได้ผลักดันให้เครือข่ายขององค์กรจำเป็นต้องเดินหน้าเข้าสู่ระบบคลาวด์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังจะต้องขับเคลื่อนให้เครือข่ายมีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลาย บริษัทต่างพากันหันไปใช้แอปพลิเคชันและบริการบนระบบคลาวด์เพื่อสร้างสถานที่ทำงานให้มีลักษณะไฮบริดหรือแบบผสมผสานมากยิ่งขึ้น
บริษัทฯ จึงได้นำเสนอประสบการณ์เครือข่ายที่ก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยบริการเครือข่ายที่สามารถบริหารจัดการระบบคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย ในฐานะผู้บุกเบิกด้านการจัดหาเครือข่ายระบบอัตโนมัติที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ในระดับสูงที่สุดในโลก โดยเปิดตัว อินโฟบล็อกซ์ 3.0 ผู้นำโซลูชันการรักษาความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรมทั้ง ดีดีไอ (DDI) และ ดีเอ็นเอส (DNS) เพิ่มศักยภาพให้สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานของเซิร์ฟเวอร์องค์กร ระบบเสมือนจริง ระบบคลาวด์ และระบบไฮบริดให้เหมาะกับความต้องการด้านเครือข่ายที่ทันสมัยของลูกค้า โดยการปรับใช้งานดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายเครือข่ายอย่างเหนือชั้น ดังนี้ 1.เรียบง่าย (Simple) การนำเสนอประสบการณ์เครือข่ายที่ให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์เป็นหลักในรูปแบบอัตโนมัติและได้มาตรฐานโดยใช้ชุด API สำหรับระบบคลาวด์ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด ตลอดจนการผสานรวมระบบและข้อมูลที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาด 2.เชื่อถือได้ (Reliable) เป็นโซลูชันที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรับประกันความพร้อมใช้งานของเครือข่ายที่มีความสำคัญต่อภารกิจได้ถึง 99.999% ซึ่งรวมถึงเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโดยอาศัยความยืดหยุ่นและความมีประสิทธิภาพคุ้มค่าของระบบคลาวด์ 3.ปรับขนาดได้ (Scalable) ให้บริการได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ลูกค้าต้องการภายใต้ความมีประสิทธิภาพราบรื่นและความสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งระบบ 4.ปลอดภัย (Secure) ช่วยให้ลูกค้าสามารถดูแลและรักษาความปลอดภัยทั่วไปสำหรับผู้ใช้งานและอุปกรณ์ทั้งหมดได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการตรวจจับและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้บริการแบบ as a service ได้
“อินโฟบล็อกซ์ 3.0 ช่วยให้องค์กรสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่ดีที่สุดจากระบบเซิร์ฟเวอร์องค์กรและโลกแห่งระบบคลาวด์ด้วยการปรับแต่งระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์เป็นหลักหรือคลาวด์-เฟิร์ส เรากำลังให้รากฐานที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาวด์แบบส่วนตัวที่รองรับการใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์องค์กร รวมถึงเครือข่ายไฮบริดที่ผสานศูนย์ข้อมูลและระบบคลาวด์หรือเครือข่ายที่เป็นระบบคลาวด์อย่างสมบูรณ์” อภิชาติ กล่าว
Infoblox 3.0 สามารถสร้างแพลตฟอร์ม BloxOne บนระบบคลาวด์ขึ้นเป็นครั้งแรก รวมถึงการเชื่อมต่อความสามารถด้าน DDIสำหรับเซิร์ฟเวอร์องค์กรของ NIOS เข้ากับ BloxOne DDI และ BloxOne Threat Defense ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างเครือข่ายดีดีไอแบบไฮบริดและแบบคลาวด์อย่างเดียวได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรสมัยใหม่ต้องการเพื่อเปลี่ยนโฉมสถานที่ทำงานให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
อภิชาติ กล่าวว่า สำหรับลูกค้าที่ต้องการพัฒนาแอพพลิเคชันให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ทางบริษัทฯ โซลูชั่นสนับสนุน Devop ที่สามารถตอบโจทย์ในทุกแพลตฟอร์มในส่วนของกลุ่มลูกค้าในไทยที่ใช้ระบบคลาวด์ อันดับ 1 ได้แก่ ภาครัฐ Telco และการเงินและธนาคาร ตามลำดับ ซึ่งล้วนเป็นตลาดหลักของประเทศที่ต้องใช้งานคลาวด์เพื่อให้งานบริการหลักๆแทบทั้งสิ้น
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในช่วงเกือบ 6เดือนแรกที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกมีการปรับตัวมากขึ้น เพื่อรองรับชอปปิ้งออนไลน์ เช่น Food Delivery ทำให้ตลาดด้านนี้ยังมีการลงทุนระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง” อภิชาติ กล่าวทิ้งท้าย