กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 23 พฤศจิกายน 2565: Beko ผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากยุโรป ที่ได้รับรองคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ภายใต้บริษัทแม่ Arcelik ผู้ผลิตสินค้าขนาดใหญ่สำหรับครัวเรือนที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในยุโรป (แบ่งตามยอดจำหน่าย) เปิดเผยทิศทางธุรกิจปี 2565 และ 2566 ตั้งเป้าเพิ่มงบประมาณการตลาดกว่า 2 เท่า มุ่งเน้นกลุ่มสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพ พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ เบเบ้ ธันย์ชนก ที่มาพร้อมไลฟ์สไตล์สุดเฮลตี้แห่งยุค ชูนวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในเครื่องใช้ไฟฟ้า Beko เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์และบรรลุเป้าหมายในการจุดประกายแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่มีสุขภาพดีได้ง่ายๆ ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริงของผู้บริโภคปัจจุบันท่ามกลางยุคสมัยที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนรวมไปถึงวิถีชีวิตที่เร่งรีบและทำงานหนัก แต่ก็ต้องการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีในเวลาเดียวกัน
ณัฏฐิณี เตชะรุ่งนิรันดร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและวางแผนผลิตภัณฑ์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท เบโค ไทย จำกัด กล่าวว่า Beko เป็นผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากยุโรป ที่ได้รับรองคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ภายใต้บริษัทแม่ Arcelik ผู้ผลิตสินค้าขนาดใหญ่สำหรับครัวเรือนที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในยุโรป ปัจจุบันสินค้าของ Beko ในกลุ่มพรีเมียมมีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโต โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สินค้าความจุมาก เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องอบผ้า เครื่องล้างจาน และเครื่องทำกาแฟ โดย Beko เป็นแบรนด์ภายใต้บริษัท Arcelik ซึ่งเป็นผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก ครอบคลุมตลาดหลักอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ไปจนถึงประเทศจีน
สำหรับภาพรวมมูลค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยในปีนี้อยู่ที่ 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็น เครื่องปรับอากาศ 30% มูลค่า 30,000 ล้านบาท ตู้เย็น 19% มูลค่า 19,000 ล้านบาท เครื่องซักผ้า 16% มูลค่า 16,000 ล้านบาท เครื่องครัว 10% มูลค่า 10,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นส่วนของเครื่องอบผ้าและเครื่องล้างจาน โดย Beko อยู่ในอันดับ 8-9 มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 3-4%
เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของ Beko ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 25-40 ปีและกลุ่ม Millenium ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมรู้จักแบรนด์ Beko มากยิ่งขึ้น Beko จึงได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์ เบเบ้ ธันย์ชนก ที่มาพร้อมไลฟ์สไตล์สุดเฮลตี้แห่งยุค ชูนวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในเครื่องใช้ไฟฟ้า Beko อาทิ เครื่องซักผ้าฝาหน้า AquaTech เครื่องอบผ้า RapiDry ผ่านงานอีเวนท์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “Beko Live Like a Pro สุขภาพดีได้ง่ายๆกับ เบโค” และเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ล่าสุดโดย เบเบ้ ธันย์ชนก ที่บอกเล่าประสบการณ์สุขภาพดีในการจัดการเวลาชีวิตประจำวันที่แสนเร่งรีบได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า Beko
ในปี 2566 ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าน่าจะเติบโต เนื่องจากเข้าสู่ฤดูร้อนและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดมากขึ้นBeko จึงตั้งเป้าเพิ่มงบประมาณการตลาดกว่า 2 เท่า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและผลักดันการเติบโต โดยทุ่มงบ 85% ใช้กลยุทธ์การตลาดสร้างการรับรู้สินค้าผ่านช่องทางดิจิทัล ได้แก่ TikTok, Face Book,You Tube และอีคอมเมิร์ซมุ่งเน้นกลุ่มสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพ นำโดยตู้เย็น HarvestFresh เครื่องซักผ้าฝาหน้า AquaTech เครื่องอบผ้า RapiDry กลุ่มสินค้าเครื่องครัว เครื่องล้างจาน และกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องปรับอากาศ เพื่อมุ่งเป็นผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผ่านกลยุทธ์เสริมสร้างการรับรู้ ความคุ้นเคย รวมถึงการมีส่วนร่วม และเข้าถึงแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่ความชื่นชอบในตัวแบรนด์ และการกระตุ้นยอดขายอย่างก้าวกระโดดในตลาดประเทศไทยต่อไป
ณัฏฐิณี กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันได้หันมาใส่ใจการดูแลสุขภาพ และสุขอนามัยความสะอาดกันมากขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับวิสัยทัศน์ของ Beko ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพ รวมถึงใส่ใจความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Beko โดยทางแบรนด์ได้เดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ หรือหน้าร้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค นอกจากนี้ยังเพิ่มการโฆษณา การเพิ่มสัดส่วนในร้านค้ารีเทล รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งในกลุ่มสินค้าพรีเมียม และแมส เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความเร่งรีบมากขึ้น ทำให้ต้องการตัวช่วยพิเศษที่ดูแลทั้งสุขภาพ และทำให้มีเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการได้มากขึ้น
“Beko ยังตั้งเป้าสร้างการเติบโต 200% สำหรับช่องทางจัดจำหน่ายออนไลน์ โดยคาดว่าสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชิ้นหลัก จะมียอดขายคิดเป็น 13% ของมูลค่าตลาดรวมในปีหน้า ไม่รวมช่องทาง Omni-Channel ซึ่งจะต่อยอดความสำเร็จเมื่อปี 2564 ที่สร้างการเติบโตในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไว้ที่ 20% รวมถึงการมุ่งสู่เป้าการเติบโตเป็น 37% ภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย” ณัฏฐิณี กล่าวทิ้งท้าย