Airbnb แพลตฟอร์มแหล่งที่พักและประสบการณ์ชั้นนำระดับโลก ชูแคมเปญ Beyond Big Cities ภายใต้การสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย นำร่องจังหวัดสระบุรีเป็นแห่งแรก เผยปีนี้จำนวนผู้เข้าพักในสระบุรีเติบโต 115% จากปีที่ผ่านมา โดยนักเดินทางส่วนใหญ่มาจากไทย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เข้มแข็งสร้างรายได้เข้าสู่ชุนชน
มิช โคห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb กล่าวว่า Airbnb เป็นสตาร์ทอัพเกี่ยวกับการจองที่พักที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลกทั้งในยุโรปและในเอเชียผ่านเมืองใหญ่มากมาย สำหรับประเทศไทยขณะนี้ได้นำรูปแบบแพลตฟอร์มแคมเปญ Beyond Big Cities ซึ่งต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญที่ได้โปรโมทในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ก่อนหน้านี้ เข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจให้บริการที่พัก โฮมสเตย์ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆมากกว่า 79,600 ที่พัก สนนราคาที่พักเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยจนไปถึงหลักหมื่นบาทต่อคืน โดยนำร่องที่จังหวัดสระบุรี
ในปีพ.ศ. 2562 นี้ ธุรกิจที่พักในสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นของไทยเติบโตกว่า 54 % เมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2561 ที่ผ่านมาเพราะมีนักท่องเที่ยวจากในประเทศและต่างประเทศหันมาใช้บริการ Airbnb ซึ่งมีความต้องการเข้าพักในบ้านพักท้องถิ่นที่มีความโดดเด่น มีวิถีชีวิต วัฒนธรรมที่สวยงาม สามารถได้ทดลองใช้ชีวิต ทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของที่พักและได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สำหรับโฮมสเตย์ที่นิยมนำแพลตฟอร์ม Airbnb จะเป็นผู้ประกอบการที่มีห้องให้บริการนักท่องเที่ยวไม่เกิน 4 ห้อง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวผู้เข้าพักไม่เกิน 20 คน
“ในปีพ.ศ.2561 มีผู้เข้าพักในประเทศไทยผ่าน Airbnb มากกว่า 1.9 ล้านคน โดยมีจำนวนผู้เข้าพักในจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ทดลองนำร่องใช้แพลตฟอร์มเติบโตมากถึง 115% จากปีพ.ศ.2561ที่ผ่านมา อ้างอิงจากข้อมูลภายในของ Airbnb ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2562 ซึ่งนักเดินทางส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวจังหวัดสระบุรีมากที่สุดในปัจจุบัน คือ ไทย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร เป็นต้น” มิช โคห์ กล่าว
สุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับ Airbnb ทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยนำเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเข้ามาเสริมแกร่งเจ้าของโฮมสเตย์ เปลี่ยนครัวเรือนดั้งเดิมให้เป็นผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีมาเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ากับชุมชนท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ของตน โดยนำร่องในพื้นที่อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี สร้างพลังให้ชุมชนเล็ก ๆ เปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการใช้ชีวิต ทดลองทำอาหาร เยี่ยมชมวัด สถานที่สำคัญต่าง ๆในชุมชมในแต่ละพื้นที่ เพื่อกระจายรายได้ยกระดับการเติบโตในด้านการท่องเที่ยวของประเทศด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีตามนโยบายการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรอง และชุมชนท้องถิ่นของรัฐบาล
ในอนาคตจะขยายโมเดลความสำเร็จการใช้เทคโนโลยีไปยังหมู่บ้านท่องเที่ยวนวัตวิถีทั่วทุกภาคที่ประเมินผลว่า มีความพร้อมที่จะได้เข้าร่วมกับ Airbnb เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวเมืองไทยให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากมีภาคเอกชนรายอื่น ๆประสงค์ที่จะช่วยเหลือชุมชนเหมือนอย่างเช่น Airbnb ก็จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะร่วมพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง สร้างรายได้มากยิ่งขึ้นต่อไป
ด้าน ไพรวัลย์ ศรีศิลป์ ผู้ประกอบการโฮมสเตย์ กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการโฮมสเตย์ที่ดัดแปลงบ้านสำหรับให้นักท่องเที่ยวพักอาศัยภายในพื้นที่บ้านร่วมทำกิจกรรมกับเจ้าของบ้าน เช่น ปั่นจักรยาน ชมทัศนียภาพของชุมชน เข้าร่วมกิจกรรมงานบุญ ทำกิจกรรมเครื่องดื่มสมุนไพร หากฤดูทำนา ทำสวน ก็จะมีกิจกรรมให้เก็บผักผลไม้ที่ปลูก เป็นต้น ซึ่งจะเปิดรับนักท่องเที่ยวผ่านการจองที่พักของแพลตฟอร์ม Airbnb ได้ประมาณ 6-8 เดือน โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวให้พักเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้้น และรับครั้งละ ไม่เกิน 4 คน เนื่องจากวันธรรมดาจันทร์ถึงศุกร์จะทำงานประจำเป็นข้าราชการ เกรงว่าหากเปิดรับนักท่องเที่ยววันธรรมดาจะดูแลนักท่องเที่ยวได้ไม่ดีและทั่วถึง ซึ่งคิดค่าบริการที่ัพักคืนละ 1,100 บาท พักได้ 2 คน และพร้อมที่่จะแนะนำผู้ประกอบการโฮมสเตย์อื่นในพื้นที่มาใช้แพลตฟอร์มสำหรับการท่องเที่ยวเพื่อประชาสัมพันธ์แนะนำที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นเป็นที่นทีอำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี และพื้นที่อื่น ๆที่สนใจ