ACI Worldwide และ DataOne Asia (Thailand) ร่วมผนึกกำลังพัฒนาระบบ Real-Time Payments ให้กับ เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (National ITMX) เพื่อยกระดับระบบประมวลผลการชำระเงินรายย่อยครั้งละหลายรายการแบบเรียลไทม์ สำหรับธนาคารในประเทศไทย ให้สอดคล้องตามมาตรฐาน ISO 20022
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (National ITMX) ได้ประกาศความสำเร็จของการพัฒนาเพื่อยกระดับระบบประมวลผลการชำระเงินรายย่อยครั้งละหลายรายการ (Bulk Payments) แบบเรียลไทม์ ของ บริษัท ACI เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบทันท่วงที โดยความสำเร็จครั้งนี้ เป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจาก บริษัท DataOne Asia (Thailand) จำกัด ผู้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และ ผู้เชี่ยวชาญการเชื่อมต่อระบบแบบครบวงจร ในประเทศไทย
ผลิตภัณฑ์ Real-Time Payments ทั้งแบบ High Value และ Low Value ของ ACI พร้อมที่จะผลักดันให้ระบบ Bulk Payment เติบโตไปตามมาตรฐาน ISO 20022 และเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมศักยภาพการใช้งานระบบ Real-time Payment มากขึ้น เช่น ระบบชำระเงินแบบ B2B โดยมาตรฐาน ISO 20022 นั้นถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาบริการชำระเงินสำหรับอนาคตและรองรับการเชื่อมต่อกันของระบบการชำระเงินในแต่ละประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเครือข่ายระบบชำระเงินข้ามพรมแดน (Cross-border payment networks)
ITMX ถูกจัดตั้งขึ้น จากความร่วมมือของธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของประเทศไทยโดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่สนับสนุน พัฒนาและส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย รวมถึง ระบบการใช้บัตร ระบบไม่ใช้บัตร และการทำธุรกรรมระหว่างบัญชีกับบัญชี โดยบริษัท DataOne ร่วมดำเนินการติดตั้งโซลูชั่น Real-time Payment ของ ACI ให้ครอบคลุมการบริการกับธนาคารสมาชิกของ ITMX ทั้ง 33 ธนาคาร ได้สำเร็จ รวมทั้งการเชื่อมประสานการทำงานของมาตรฐานใหม่ ISO 20022 และมาตรฐานเดิมอย่าง ISO 8583
วรรณา นพอาภรณ์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 ประเทศไทยมีปรากฎการณ์ของอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีของระบบ Real-time Payment สูงถึง 145 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับระบบชำระเงินสมัยใหม่จากผู้บริโภค ขั้นต่อไปของการเติบโต คือระบบเครือข่ายชำระเงินแบบเรียลไทม์ PromptPay และใช้มาตรฐานใหม่ ISO 20022 ซึ่งมาจาก ธุรกิจค้าปลีก และธุรกรรมระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ” ACI ติดตั้งระบบ Bulk Payment ใหม่ให้ ITMX ในช่วงเวลาที่จำกัด เพื่อรองรับปริมาณการใช้งานที่สูงและเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ระบบที่มีความเสถียร ถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งจำเป็นกับการเชื่อมต่อระบบกับธนาคารทั้ง 33 แห่ง ให้มีความเร็วในการประมวลผลธุรกรรมที่มีความสำคัญยิ่งยวดตามวัตถุประสงค์
สำหรับระบบ Bulk Payment ของ ITMX ประมวลผลไปแล้วมากกว่า 96 ล้านธุรกรรม(Transaction) คิดเป็นมูลค่า 4.3 ล้านล้านบาท ในปีพ.ศ.2563 คิดเป็นอัตราเติบโตเชิงปริมาณธุรกรรมสูงถึง 60% ต่อปี และเชิงผลรวมมูลค่า 8% ต่อปี ระบบ Bulk payment ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในเรื่อง Corporate Payments ทั้งระบบการจ่ายเงินเดือน, เงินปันผล, ดอกเบี้ย, เงินกู้ , หลักทรัพย์, พันธบัตรรัฐบาล, การคืนภาษี การชำระสินค้าและบริการ รวมทั้งโครงการอื่น ๆของรัฐบาล เช่น กองทุนสวัสดิการผู้สูงอายุ, เงินช่วยเหลือเกษตรกร ตลอดจน กองทุนสงเคราะห์โควิด -19.
“ITMX ได้ปฏิรูประบบชำระเงินจากการใช้กระดาษสู่การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้แบบ Real time ซึ่งถือเป็นโมเดลต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ สำหรับประเทศไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พยายามที่จะฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งระบบ Real-time bulk Payment สามารถช่วยรัฐบาลในการเบิกจ่ายและสนับสนุนมาตรการฉุกเฉิน รวมทั้งยังช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการจ่ายเงินเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามระบบ Bulk Payment จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ ผู้ประมวลผลและธนาคารมีการรองรับด้วยโซลูชั่นที่มีความยืดหยุ่นในปรับขนาดและประสิทธิภาพสูง” Leslie Choo รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชีย ACI Worldwide กล่าว
ทั้งนี้คาดว่าสัดส่วนของการชำระเงินดิจิทัลแบบเรียลไทม์ในประเทศไทย จะเพิ่มขึ้นจาก 13.3 เปอร์เซ็นต์ในปีพ.ศ. 2563 เป็น 30.1 เปอร์เซ็นต์ในปีพ.ศ. 2568 โดยแบ่งเป็นการชำระเงินแบบกระดาษคิดเป็น 60.1 เปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมทั้งหมด และการชำระเงินแบบเรียลไทม์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้กระดาษคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 3ใน 10 เป็น 4ใน 10 หรือมากกว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยได้แรงสนับสนุนจากการใช้งาน Mobile Wallet (84 เปอร์เซ็นต์ของประชากรผู้ใหญ่ในปีที่ผ่านมา)