กรุงเทพฯ – 13 ธันวาคม 2562 : ไอเอฟเอส บริษัทระดับโลกด้านแอพพลิเคชันสำหรับองค์กร ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเอฟเอสเอ็มของรายงาน IDC MarketScape: Worldwide Manufacturing Field Service Management Applications 2019 Vendor Assessment* (การประเมินผู้ค้าในกลุ่มแอพพลิเคชันการบริหารจัดการบริการภาคสนามสำหรับการผลิตทั่วโลกปี 2019)
จะเห็นได้ว่าธุรกิจ เอฟเอสเอ็ม (FSM) ของบริษัทไอเอฟเอสมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด สามารถทำรายได้ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 เพิ่มขึ้นถึง 119% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2018 และเมื่อเร็วๆ นี้ยังได้ประกาศเข้าซื้อบริษัท Astea (USOTC: ATEA) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญที่มีระบุไว้ในรายงาน IDC MarketScape ด้วย ส่งผลให้บริษัทไอเอฟเอสสามารถสามารถขยายฐานลูกค้าทั่วโลกได้มากกว่า 10,000 ราย ซึ่งจากเดิมที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้วที่ระดับ 8,000 ราย
เมื่อพิจารณาถึงความครอบคลุมของผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ของบริษัทไอเอฟเอสแล้ว รายงาน IDC MarketScape ได้จัดอันดับให้บริษัทไอเอฟเอสติดอันดับในกลุ่มผู้นำระดับโลกซึ่งอ้างอิงจากจุดเด่นดังต่อไปนี้:
- ความสามารถที่ครอบคลุมของผลิตภัณฑ์: ผู้ให้บริการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถนำเสนอฟังก์ชั่นแบบครบวงจรสำหรับการบริหารวงจรงานบริการได้อย่างเห็นผล โดยบริษัทไอเอฟเอสมีชุดความสามารถของโซลูชันที่ครอบคลุมและสามารถรองรับการปฏิบัติงานภาคสนามและงานด้านอื่นๆ ของธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของลูกค้าได้โดยตรง
- พัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจที่มีความซับซ้อน: บริษัทไอเอฟเอสยังพร้อมช่วยสนับสนุนบริการภาคสนามในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งต้องอาศัยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกภายในระบบอย่างครบวงจเพื่อช่วยในการตัดสินใจที่คล่องตัวและเป็นอิสระ โดยโซลูชันของบริษัทฯ จะนำเสนอมุมมองของบริการภาคสนามที่มีการเชื่อมโยงระหว่างกันอย่างครบวงจร ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อมูลแบบเรียลไทม์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากสินทรัพย์และผลิตภัณฑ์เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเห็นผลตามที่คาดการณ์ไว้
- สร้างมูลค่าสร้างได้มากกว่าแค่การบริการภาคสนาม: แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ทีมงานก้าวไกลเกินกว่าการเป็นแค่องค์การผู้ให้บริการภาคสนาม ด้วยการช่วยให้เกิดการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับลูกค้า ผลิตภัณฑ์ และทรัพย์สินครอบคลุมตั้งแต่ฝ่ายสนับสนุนส่วนหลังไปจนถึงฝ่ายปฏิบัติการส่วนหน้า นอกจากนี้ยังรองรับการปรับใช้ในหลากหลายรูปแบบ โดยบริษัทไอเอฟเอสมีโซลูชันที่พร้อมรับมือกับสภาพแวดล้อมการผลิตได้อย่างหลากหลาย
“บริษัทไอเอฟเอสกำลังเดินหน้าขยายธุรกิจในตลาดการบริหารจัดการบริการภาคสนามอย่างรวดเร็ว โดยมีบริการหลากหลายรูปแบบสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตที่มาพร้อมขีดความสามารถอย่างครบครันสำหรับการบริหารจัดการวงจรงานบริการผลิตภัณฑ์ เอฟเอสเอ็ม ของบริษัท ไอเอฟเอส มีความครอบคลุมและหลากหลาย จึงเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่เน้นสินทรัพย์เป็นศูนย์กลาง ผลิตภัณฑ์เป็นศูนย์กลาง หรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” อัลลี พายเดอร์ นักวิเคราะห์บริษัท ไอดีซี กล่าว
มาร์น มาร์ติน ประธานฝ่ายธุรกิจบริหารจัดการงานบริการของบริษัทไอเอฟเอส กล่าวว่า ตำแหน่งผู้นำในตลาดเอฟเอฟเอ็มของเราได้รับการตอกย้ำอีกครั้งจากงานวิจัยอิสระอย่าง IDC MarketScape
สำหรับการปรับปรุงและการขยายข้อเสนอเอฟเอสเอ็มของเรา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในข้อเสนอที่มีความหลากหลายและครอบคลุมมากที่สุดของอุตสาหกรรม และเป็นหนึ่งในฐานหลักสำคัญของบริษัทไอเอฟเอสที่สามารถสร้างรายได้ให้เติบโตได้อย่างน่าประทับใจจากค่าลิขสิทธิ์ เอฟเอสเอ็มซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างเห็นได้ชัด