ปทุมธานี – 16 เมษายน 2563: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ ช่วยแก้ปัญหาการว่างงานจากสถานการณ์ COVID-19 เปิดรับสมัครบัณฑิตอาสาจำนวน 70 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 23 เมษายน 2563 เผยผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินเดือน 9,000 บาทต่อราย ในระยะเวลา 6 เดือน เริ่มปฏิบัติงาน 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. ได้รับมอบหมายจาก ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ดำเนินโครงการจ้างงานผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคราน่า 2019 (COVID-19)” ตามมติ ครม. (เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563) เพื่อร่วมพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ แก้ปัญหาการว่างงานของประเทศ
โดย วว. เปิดรับสมัครบัณฑิตอาสาจำนวน 70 อัตรา ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่มีความสนใจในการพัฒนาทักษะใหม่และได้รับผล
กระทบจากการระบาดของCOVID-19 เป็นบัณฑิตจบใหม่ระดับปริญญาตรี ไม่เกิน 5 ปี ทางด้านเทคนิค วิศวกรรม การบริหารการจัดการ การวางแผนการผลิต การตลาด การเกษตร และวิทยาศาสตร์การอาหาร มีค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน 9,000 บาท ในระยะเวลาจ้างงาน 6 เดือน
ผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครได้ที่ www.tistr.or.th ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 23 เมษายน 2563 นี้ ส่วนผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563
ดร.ชุติมา กล่าวว่า วว.มีโครงสร้างพื้นฐาน (Shared Service) ครอบคลุมใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี แพร่ ลำพูน น่าน ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ และสงขลา ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยี พร้อมให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยงานวิจัยและยกระดับการผลิตหรือทดลองผลิตเพื่อทดลองตลาด ก่อนยกระดับสู่เชิงพาณิชย์แก่ประชาชนหรือผู้ประกอบการในพื้นที่ ทั้ง OTOP และ SME โดยแต่ละพื้นที่จะมีนักวิจัย วว. ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีหลากหลายด้าน เช่น เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีอาหาร เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว เทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีด้านเครื่องสำอาง เป็นพี่เลี้ยงดูแลให้ความช่วยเหลือ
“สถานการณ์ปัจจุบันจากการระบาดของไวรัส COVID – 19 ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการดำเนินชีวิตอย่างมากนั้น เพื่อให้ประชาชนหรือผู้ประกอบการได้เห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ วว. จึงพร้อมเป็นแหล่งบ่มเพาะบัณฑิตอาสาที่จบใหม่ ซึ่งยังว่างงานอยู่ขณะนี้ ให้สามารถเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดี เพื่อนำเอาองค์ความรู้ เทคโนโลยีที่ได้รับถ่ายทอดเชิงปฏิบัติการผ่านโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวในแต่ละพื้นที่ ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ อีกทั้งยังสามารถนำประสบการณ์ที่ได้จาก วว. ผ่านโครงการนี้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ หรือพัฒนาเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ต่อไป ก็จะทำให้เกิดความยั่งยืนต่อเศรษฐกิจได้” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
ผู้ที่สนใจติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริการธุรกิจและนวัตกรรม วว. โทร. 02 577-9300 E-mail : ibs_staff@tistr.or.th ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 23 เมษายน 2563