กรุงเทพฯ : 25 กรกฎาคม 2562 – เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด (เอ็นทีที คอม) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นและการสื่อสารระหว่างประเทศ ซึ่งได้เพิ่งประกาศรวมกิจการภายใต้บริษัท NTT Ltd พร้อมนำเสนอนวัตกรรม IoT (Internet of Things) เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานการผลิตทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ด้วยบริการ Intelligence Process Optimization แบบครบวงจร เพิ่มศักยภาพในกระบวนการผลิต พร้อมผลักดันปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติ
Intelligence Process Optimization เป็นบริการแบบครบวงจร เริ่มจากให้คำปรึกษา สำรวจพื้นที่และระบบเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสม ตั้งแต่การออกแบบระบบเครือข่าย การจัดหาอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูล และแพลตฟอร์มในการทำงาน เพื่อจัดเก็บข้อมูลการผลิตแบบรวมศูนย์ ให้มีความชัดเจน สามารถบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงความสามารถในการนำไปวิเคราะห์สถานะในการทำงานแต่ละวัน และเชื่อมโยงข้อมูลให้สามารถตรวจสอบจากศูนย์ควบคุมทั้งภายในและภายนอกโรงงานได้ นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจสอบการทำงานหากมีความผิดพลาดหรือหยุดชะงักจะมีสัญญาณแจ้งเตือน เพื่อให้ผู้ควบคุมการผลิตในแต่ละส่วนสามารถแก้ไขจุดบกพร่องได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ
ศานิต เกษมสันต์ ณ อยุธยา รองประธานแผนกผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัท เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมภาคการผลิตได้มีการนำเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things เข้ามาช่วยบริหารจัดการระบบ คิดเป็นประมาณร้อยละ 4 ของโรงงานทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในไทย ทั้งนี้เอ็นทีที คอม มีความพร้อมที่จะนำเสนอบริการ Intelligence Process Optimization เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับภาคโรงงานผลิตในการผลักดันเทคโนโลยี IoT เข้าไปประยุกต์ใช้ในโรงงานได้อย่างเหมาะสม โดยจะเป็นการผสานการทำงานระหว่างระบบ IoT เข้ากับเทคโนโลยีส่วนปฏิบัติการ หรือ Operational Technology (OT) ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มโรงงานขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ พลังงาน อาหาร และเคมีภัณฑ์
“จากการสำรวจกระบวนการทำงานในโรงงานถึงแม้จะเป็นโรงงานผลิตขนาดใหญ่ พบว่าปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากข้อมูลในการผลิตไม่ถูกจัดเก็บไว้ที่จุดศูนย์กลาง มีความผิดพลาดที่เกิดจากการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงความผิดพลาดจากการทำงานแบบแมนนวล ซึ่งบริการดังกล่าวจะเข้าไปช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล ความเสี่ยง การตรวจสอบ การบันทึก และวิเคราะห์สถานะของระบบการทำงานของโรงงานแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตให้มีความเสถียรมากขึ้น ย่นระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำงาน สามารถรวบรวมข้อมูลการจัดเก็บคลังสินค้าและอุปกรณ์การผลิต รวมถึงวิเคราะห์เพื่อแสดงจุดบกพร่อง หาสาเหตุของความเสียหายจากกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สอดรับกับการปรับตัวเข้าสู่ Digital Transformation ที่ในปัจจุบันต้องอาศัยความรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที” ศานิต กล่าว
นอกจากนี้ เอ็นทีที คอม ยังได้นำแนวทางการวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติจากการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) เข้ามาเรียนรู้ข้อมูลภายในแพลทฟอร์มด้วยรูปแบบของ Data Robot โดยการสร้างแบบจำลองรูปแบบของโครงการ หรือกระบวนการผลิต แล้วนำมาประเมินสถานการณ์เพื่อให้เห็นข้อมูลชัดเจน และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ตลาดได้มากที่สุดยิ่งขึ้น