กรุงเทพฯ – 9 กันยายน 2562 : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทคประจำปี 2562 (NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2019: NECTEC-ACE 2019) พร้อมเปิดตัว AI FOR THAI แพลตฟอร์ม AI สัญชาติไทย เป็นผลงานวิจัยและพัฒนาที่เนคเทค สวทช. สะสมองค์ความรู้มาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยมุ่งหวังให้เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมและบริการ ยกระดับประสิทธิภาพภาคเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ เป็นแพลตฟอร์มสําหรับเศรษฐกิจในอนาคต และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน รวมถึงสร้างอุตสาหกรรมและบริการดิจิทัล ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างยั่งยืน ณ ห้องบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว
รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวว่า การทำงานของเนคเทค สวทช. และงานประชุมวิชาการ NECTEC-ACE 2019 ครั้งนี้มีความหมายต่อประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งใน 5 ประเด็น ประเด็นที่ 1 คือ นโยบายของท่านรัฐมนตรี นโยบายรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษาศึกษาฯ มีความชัดเจนใน 4 เรื่อง เรื่องที่ 1 คือการสร้างคนในศตวรรษที่ 21 เรื่องที่ 2 การสร้างองค์ความรู้การวิจัย เรื่องที่ 3 การสร้างองค์ความรู้ด้านนวัตกรรม และเรื่องที่ 4 การ Reinventing the University ผมเชื่อว่าภารกิจของเนคเทค สวทช. สามารถเข้าได้กับทุกยุทธศาสตร์และทุก ๆ ประเด็นของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ โดยเฉพาะข้อ 1 การสร้างคน ประเด็นที่ 2 เนคเทค สวทช. เป็นองค์กรที่เป็นผู้นำด้านอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ยุคนี้เราก้าวข้ามผ่านยุคคอมพิวเตอร์และ Device แต่ละตัวไปเรียบร้อยแล้ว เรากำลังพูดถึง Big Data และ AI เพราะฉะนั้น ผมว่าทุกคนหรือทุกหน่วยงานจะต้องสนใจและพัฒนาเรื่อง AI อย่างชัดเจนในทุก ๆ มิติ ตั้งแต่มิติเรื่องการสอนให้เด็กรู้จัก AI ตั้งแต่เด็ก ๆ ในหลักสูตร มิติที่จะทำให้คนเข้าใจว่าข้อมูลทั้งหลายที่อยู่รอบตัวในปัจจุบันซึ่งถูกนำไปใช้ด้วย AI ได้ทั้งหมด หรืออีกนัยคือ เราก้าวข้ามเรื่อง IoT Internet of Things ไปเรียบร้อยแล้วด้วย
ประเด็นที่ 3 ผมเชื่อว่าเนคเทค สวทช. มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรมากมายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การทำงานแบบนี้จะได้โจทย์ที่มาจาก Demand-side จริง ๆ และประเด็นที่ 4 การที่เนคเทค สวทช. ทำงานแล้วสามารถนำผลงานกลับคืนสู่สังคมไทยทุก ๆ ภาคส่วน เพื่อให้สังคมไทยได้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมที่ชัดเจน
“อย่างไรก็ตาม อยากฝากในเรื่องของจริยธรรม ขอให้คำนึงถึงว่า AI คอมพิวเตอร์หรืออิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายนี้ ทำงานเพื่อเสริมความพัฒนาของมนุษย์ เพราะฉะนั้นทุกอย่างให้คำนึงถึงหลัก Ethics หรือจริยธรรมไว้ด้วย และประเด็นสุดท้ายประเด็นที่ 5 การจัดงานประชุมวิชาการหรือ Conference จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มาแลกเปลี่ยนความรู้และสิ่งที่แต่ละคนได้ทำมา โดยงาน NECTEC-ACE 2019 มีทั้งการแสดงนิทรรศการ การสัมมนา การแลกเปลี่ยนความรู้และการอภิปราย ด้วยแนวคิดจัดงาน “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” เชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยภารกิจของเนคเทค สวทช. ซึ่งเป็นองค์พัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง จะเป็นเหมือนเครื่องจักรสำคัญในการสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีของประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางด้านเทคโนโลยี อันจะเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม และชุมชนต่อไป” รศ.นพ.สรนิต กล่าว
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง เนื่องจากได้เข้ามามีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ผนวกรวมกับข้อมูลในรูปแบบจำนวนมากและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเสียง รูปภาพ ข้อความ แผนผังข้อมูล ซึ่งเก็บรวบรวมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้พัฒนาการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ภายใต้กระบวนการที่เรียกว่า Machine Learning ซึ่งหมายถึงการใช้อัลกอรึทึมในการวิเคราะห์ข้อมูล เรียนรู้ข้อมูล แล้วทำการคาดการณ์หรือประเมินผลสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะผ่านการป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับชีวิตของผู้คนในปัจจุบันมากขึ้น และเริ่มมีบทบาทชัดเจนต่อระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะจะช่วยทํางานในส่วนที่อยู่นอกขอบเขตของมนุษย์โดยเฉพาะการทําความเข้าใจแบบแผนต่าง ๆ โดยปัจจุบันได้นำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ซึ่งสามารถเชื่อมโยง เรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัด
“เนคเทค สวทช. ได้สะสมองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้านปัญญาประดิษฐ์มากว่า 20 ปี โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยและเอกลักษณ์ของไทย และมีความมุ่งหมายว่า AI FOR THAI จะเป็นฐานรากทางเทคโนโลยีที่สำคัญให้กับนักธุรกิจ นักพัฒนา และนักวิจัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ สามารถนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยได้” ดร.ชัย กล่าว