กรุงเทพฯ – ประเทศไทย : เดอะ ฟินแล็บ (The FinLab) หน่วยงานบ่มเพาะนวัตกรรม (Innovation Accelerator) ที่ดำเนินงานภายใต้กลุ่มธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (ยูโอบี) เปิดตัว เดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ (The FinLab Online) แพลตฟอร์มดิจิทัลส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ได้เรียนรู้และนำโซลูชันที่เหมาะสมไปใช้เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจให้เข้าสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปีพ.ศ. 2558 เดอะ ฟินแล็บ ได้รับความสนใจอย่างมากจากองค์กรธุรกิจที่ต้องการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่รูปแบบดิจิทัล มากกว่า 2,000 แห่งในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย และด้วยการนำ เดอะ ฟินแล็บ สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ จึงเป็นโอกาสที่จะช่วยให้ SME ในอาเซียนได้เข้าถึงโปรแกรมการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิทัลที่พัฒนาโดยเดอะ ฟินแล็บซึ่งผ่านการทดสอบ การใช้งานจริงและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้วก่อนหน้านี้
ผู้ประกอบการ SME จะได้ประโยชน์จากความรู้ความเชี่ยวชาญของที่ปรึกษาในภาคอุตสาหกรรมต่างๆผ่านการสัมมนาทางเว็บและวิดีโอคำแนะนำการสอน ทั้งสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม เดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ (The FinLab Online Programme) เพื่อประเมินความต้องการด้านเทคโนโลยีด้วยตนเอง โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจของเดอะ ฟินแล็บ จากนั้นSME จะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิทัล รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาทางด้านธุรกิจที่เผชิญอยู่ และจะได้รับการจับคู่กับผู้ให้บริการโซลูชันและเทคโนโลยีทางด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
สำหรับตัวอย่างเครือข่ายชุมชนของเดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ ที่ช่วยให้ SME และสตาร์ทอัพเข้าถึงโซลูชันดิจิทัลที่ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านธุรกิจและการดำเนินงานอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น โซลูชันด้านอี-คอมเมิร์ซ การตลาด ทรัพยากรบุคคล การบริหารจัดการ และการจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) นอกจากนี้ SME และสตาร์ทอัพที่เป็นสมาชิกในเครือข่ายจะสามารถเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเพิ่มเติมที่ได้รับการจัดหาโดยพันธมิตรของ พันธมิตรของเดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ เช่น Malaysia Digital Economy Corporation (MDEC) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นต้น
พอลลีน ซิม หัวหน้ากลุ่มงาน เดอะ ฟินแล็บ กล่าวว่า แนวทางการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ได้มีแบบเดียวที่เหมาะสำหรับทุกองค์กร SME และสตาร์ทอัพแต่ละรายต่างมองหาแนวทางปฏิบัติที่ใช้ได้จริงและออกแบบมาได้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรตนเองที่สุด เพื่อให้สามารถขยายกิจการให้เติบโตอย่างยั่งยืน หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม วันนี้มีธุรกิจ SME และสตาร์ทอัพมากกว่า 440 รายจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วภูมิภาคที่ลงทะเบียนเข้าร่วมเดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ เนื่องจากเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการใช้โซลูชั่นดิจิทัลในการปฏิรูปองค์กรและต่อยอดธุรกิจให้เติบโต
“ในฐานะ Innovation Accelerator ที่ดำเนินงานภายใต้ธนาคารยูโอบี เดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ จะดึงเอาความโดดเด่นของเครือข่ายธนาคารยูโอบีในอาเซียน รวมถึงประสบการณ์เกือบ 85 ปีในการดำเนินธุรกิจ เพื่อนำเสนอความรู้ความเชี่ยวชาญและสายสัมพันธ์ทางธุรกิจให้แก่ชุมชนสมาชิกของเดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ นอกจากนี้เรายังแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจากประสบการณ์โดยตรงของธนาคารยูโอบีสำหรับพัฒนาธุรกิจระดับภูมิภาคจนประสบผลสำเร็จให้แก่สมาชิกโครงการ เพื่อช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถขยายธุรกิจของตนเองในตลาดอาเซียนยุคดิจิทัล” พอลลีน ซิม กล่าว
ด้าน เค เอส โฮ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Acepac International หนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากเดอะ ฟินแล็บ ออนไลน์ กล่าวว่า จากการร่วมฟังบรรยายหัวข้อ Mentoring Leaders: Opportunities Unusual ทำให้เราได้ทราบเคล็ดลับและคำแนะนำที่มีประโยชน์จากเครื่องมือและกลยุทธ์ที่จะช่วยพลิกวิกฤตเป็นโอกาสจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เราเริ่มสำรวจหาหนทางที่จะขยายขีดความสามารถด้าน อี-คอมเมิร์ซ และเตรียมที่จะเข้าร่วมการฝึกอบรมเวิร์คช็อปที่จะจัดขึ้นเพื่อช่วยให้ SME ปรับแต่งแพลตฟอร์มของตนเองและปรับปรุงการเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการ SME ไทย ที่ต้องการนำดิจิทัลโซลูชันไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ เดอะ ฟินแล็บ โดยความร่วมมือกับ ยูโอบี (ไทย) จะดำเนินโครงการ Smart Business Transformation ในรูปแบบใหม่ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 เป็นต้นไป โดยโปรแกรมนี้จะมุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ไทย ให้มีการพัฒนา เพิ่มขีดความสามารถธุรกิจสู่ดิจิทัล เพื่อเตรียมรับมือและสร้างความพร้อมรับวิถีชีวิตปกติใหม่ในอนาคต
ทั้งนี้ธุรกิจ SMEและสตาร์ทอัพทุกรายในไทยสามารถแสดงความประสงค์ที่จะลงทะเบียนใช้งาน เดอะฟินแล็บ ออนไลน์ ได้ฟรี