กรุงเทพฯ -20 มิถุนายน 2562: ตามที่เกิดเหตุการณ์ชิ้นส่วนเครนโรงแรมริเวอร์ การ์เด้นตกใส่โรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์ (บางรัก) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บหลายคน ศาสตราจารย์ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า สภาวิศวกรมีความเป็นห่วงเรื่องเครนถล่ม ซึ่งเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ในปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต สำหรับกรณีโรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์ (บางรัก) ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทางสภาวิศวกรได้รับรายงานว่าก่อนหน้านี้มีของหล่นใส่ 3-4 ครั้งจนล่าสุดเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าความสูญเสียที่เกิดจากการก่อสร้าง โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับอาคารสูงในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลและจัดการอย่างจริงจัง
“สภาวิศวกร ในฐานะองค์กรกำกับดูแลและควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม จะเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ด้วยอาคารโรงแรมริเวอร์ การ์เด้นมีความสูงเกิน 3 ชั้น เข้าข่ายเป็นงานวิศวกรรมควบคุม ซึ่งจำเป็นต้องมีวิศวกรควบคุม จึงเป็นหน้าที่ของสภาวิศวกรที่จะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐาน หากพบว่าเข้าข่ายการละเลย ประมาททางด้านการควบคุมงานวิศวกรรม สภาวิศวกรจะดำเนินการอาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต ขณะเดียวกัน หากพบว่าเป็นการก่อสร้าง โดยไม่มีวิศวกรควบคุมงาน ก็เป็นความผิดที่สภาวิศวกร จำเป็นต้องดำเนินการเช่นเดียวกัน รวมถึงบริษัทก่อสร้าง หรือบริษัทรับเหมา ถ้ามีใบอนุญาตนิติบุคคลจากสภาวิศวกร สภาวิศวกรจำเป็นต้องดำเนินการเอาผิดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต ทั้งนี้สภาวิศวกรได้เสนอให้ผู้รับเหมาที่กระทำความผิด ติด Black List เพื่อที่จะไม่สามารถรับงานอื่นได้ต่อไป ” นายกสภาวิศวกร กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก สภาวิศวกรจึงฝากข้อเสนอแนะไปยังกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดังนี้ ประการแรก การก่อสร้างในแต่ละเขต สำนักงานเขตจำเป็นต้องตรวจสอบควบคุมดูแล เพราะเป็นผู้ให้ใบอนุญาตในก่อสร้างอาคาร หากพบว่ามีกิจกรรมที่ผิดไปจากใบอนุญาต และกิจกรรมที่ประมาทสามารถที่จะหยุดการก่อสร้างได้ทันที รอจนกว่าจะมีกระบวนการแก้ไขตามมาตรฐาน
ประการที่สอง ส่วนใหญ่ผู้ที่ควบคุม ติดตั้งและขับเครนส่วนใหญ่ไม่มีความเข้าใจและตระหนักในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร จำเป็นต้องให้มีใบอนุญาตของผู้ขับเครน ผู้ติดตั้ง และผู้ควบคุม มิฉะนั้นจะไม่อนุญาตให้ติดตั้งเครน
ประการที่ 3. ปัจจุบันมีการใช้เครนผิดประเภท เป็น Tower Crane ซึ่งมีลักษณะแขนยาว ขณะใช้งานจะล้ำและยื่นออกไปพื้นที่ข้างเคียง จึงไม่เหมาะกับพื้นที่ที่หนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ ทั้งนี้ควรใช้ Luffing Crane เป็นเครนแบบกระดกที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างของตนเอง ซึ่งตามเมืองหลวงในต่างประเทศใช้กันแทบทั้งสิ้น ในกรณีของสิงคโปร์ ผู้รับเหมาก่อสร้างที่จะเข้าไปรับงาน จะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุไว้ในแต่ละข้อตามที่กำหนด ดังนั้นกรุงเทพมหานคร จะต้องดูแลให้มีการใช้งานถูกประเภทเพื่อป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น
“สภาวิศวกรยินดีที่จะให้ความร่วมมือแก่กรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันเหตุความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทั้งนี้ สภาวิศวกรจะร่วมมือกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) จัดอบรมเพื่อให้ความรู้แก่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ให้ตระหนักถึงมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างต่อไป” นายกสภาวิศวกร กล่าวทิ้งท้าย