ออริจิ้น โชว์แผน ORIGIN NEXT LEVEL แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งด้าน Business Expansion และ Living Solutions เปิดตัวโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท พร้อมสร้างแบรนด์ใหม่ Origin Plug & Play, Brixton, Hampton, Original ตอบโจทย์คนหลากหลายกลุ่ม เช่น กลุ่ม Startup, Pet Lover, Campus, Investor, Affordable Niche, Silver Age พร้อมจับมือหลากพันธมิตร อาทิ สมิติเวช ให้บริการด้านสุขภาพรับเทรนด์ Hospital at Home สวางคนิเวศ และ Senior Living Lab ตอบโจทย์ความต้องการแบบ Now Normal เดินหน้ารุกกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ทั้ง Logistics Center, Healthcare, บริหารสินทรัพย์ สร้าง Ecosystem ดูแลผู้บริโภคทุกเจเนอเรชั่น ทุกช่วงเวลาของชีวิต ตั้งเป้ายอดขายท้าทายถึง 29,000 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในประวัติการณ์ พร้อมเป้ารายได้รวม 14,000 ล้านบาท
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร กล่าวว่า จากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีใครคาดคิดในปีพ.ศ. 2563 บริษัทฯ ได้เรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง จนได้รับประสบการณ์ มุมมอง และแนวคิดใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพื่อผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นปีที่บริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างมาก สำหรับในปีพ.ศ.2564 บริษัทฯ จะนำทุกองค์ความรู้ที่ได้รับตลอดปีพ.ศ.2563 ประกอบกับ Disruptor Mindset ซึ่งเป็น DNA ของทีมงานออริจิ้น พาบริษัทฯ ก้าวสู่อีกระดับในทุกด้านภายใต้แนวคิด “ORIGIN NEXT LEVEL” พร้อมสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่สามารถดูแลผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรในทุกช่วงเวลาของชีวิต ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวคิด ORIGIN NEXT LEVEL ประกอบด้วย 2 แกนหลัก ได้แก่ 1.Next Level of Business Expansion ขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึกด้วยทำเลใหม่ (New Location) แบรนด์ใหม่ (New Brand) กลุ่มธุรกิจใหม่ (New Business) ความร่วมมือใหม่ (New Collaboration) เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายใหม่ (New Target Segmentation) โดยกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยจะมีการเปิดตัวใหม่ในปีนี้ทั้งหมด 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท 2.Next Level of Living Solutions สร้างสรรค์ทั้งฟังก์ชั่นใหม่ (New Function) และบริการใหม่ (New Services) ในบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนยุค Now Normal ไปจนถึง Next Normal
“วันนี้ออริจิ้นไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่ผู้พัฒนาที่อยู่อาศัย แต่มองว่าตัวเองเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีสินค้าและบริการต่อยอดไปได้อย่างต่อเนื่อง หรือ Beyond Property เพื่อตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่นตลอดช่วงชีวิตของเขา ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยแผนการก้าวไปข้างหน้าแบบ Next Level จะช่วยสร้างรากฐานการเติบโตที่แข็งแกร่งและมั่นคงให้แก่บริษัทฯ ในระยะยาว และส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายในปีพ.ศ. 2564 ถึง 29,000 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ หรือเป็น All Time High และมีรายได้รวมอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท” พีระพงศ์ กล่าว
ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจบ้านจัดสรรสไตล์ Modern British ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ปีพ.ศ. 2563 บริทาเนีย ครบรอบ 3 ปีการดำเนินงาน ซึ่งสามารถเปิดตลาดบ้านจัดสรรได้ทุก Segment โดยบริษัทฯ ถือเป็น New S Curve ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสินค้าคุณภาพ จนได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค สามารถปิดการขายโครงการบ้านจัดสรรหลายโครงการได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง และสามารถขยายแบรนด์บ้านจัดสรรออกมาถึง 4 แบรนด์ ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) และไบรตัน (Brighton) ครอบคลุมตลาดตั้งแต่ระดับ ราคา 2.5-50 ล้านบาท
ในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนเดินหน้าเติบโตแบบ Next Level สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,400 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯ อยู่ในอันดับ 7 ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มแนวราบ
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ รวมทั้งการขยายตลาดในปีนี้ โดยมุ่งเน้นการเติบโตในทำเลใหม่ๆ โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯที่ยังมีดีมานด์สูง เพื่อเป็นรากฐานสู่การเปิดโครงการสะสมจนครอบคลุม 10 จังหวัดในปีพ.ศ. 2565 ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เพื่อแสดงตัวตนและสื่อถึงความเป็นผู้ประกอบการที่มีการปรับตัวให้ทันสมัยต่อสถานการณ์ในยุคนี้อีกด้วย
อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ออริจิ้น คอนโดมิเนียมได้จับตลาดใหม่ ๆ โดยยกแพลตฟอร์มของ Sale Gallery อยู่บนออนไลน์ โดยไม่ต้องมี Sale Gallery แต่อย่างใด สร้างยอดขายให้ ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช ผ่านระบบออนไลน์ทั้งโครงการ และในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการทำ Origin Online ใน 3 โครงการใหม่ ได้แก่ ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท-สายลวด อี 22 สเตชั่น ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา และดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว-บางกะปิ ซึ่งสามารถทำ Online Booking Sold Out สร้างยอดขายรวม 1,600 ล้านบาท
ปีนี้ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้น จะเติบโตแบบ Next Level ด้วยการพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,600 ล้านบาท เกาะแนวรถไฟฟ้าและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีแบรนด์ใหม่ 4 แบรนด์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ได้แก่ 1.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) เจาะตลาดกลุ่ม Gen Y และ Gen Z โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำ Start up ของตัวเอง โดยจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับคนกลุ่มดังกล่าว 2.บริกซ์ตัน (Brixton) แบรนด์ราคาเข้าถึงง่าย สำหรับตลาดเฉพาะกลุ่ม (Affordable Niche) คอนเซ็ปต์แต่ละโครงการ อาจเจาะลูกค้าแตกต่างกันไป เช่น เจาะกลุ่มนักศึกษา-คนทำงานใกล้มหาวิทยาลัย (Campus) เจาะกลุ่มคนรักสัตว์ (Pet Lover) 3.แฮมป์ตัน (Hampton) แบรนด์คอนโดเจาะตลาดนักลงทุนโดยเฉพาะ โดยมีสิทธิพิเศษและการันตีผลตอบแทนแก่ผู้ซื้อ นำร่องในศรีราชาและระยอง 4.ออริจินอล (Original) คอนโดสำหรับเจาะตลาดผู้สูงอายุ (Silver Age) โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ 8,800 ล้านบาท
“11 ปีของออริจิ้น เราพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 69 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 110,000 ล้านบาท โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพราะเราคิดเร็ว ปรับตัวเร็ว และพัฒนาสินค้าและบริการคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในยุคใหม่ได้ดีอยู่เสมอ เมื่อ 4 แบรนด์ใหม่นี้ ประกอบกับแบรนด์ดั้งเดิมทั้งดิ ออริจิ้น ไนท์บริดจ์ โซโห แบงค็อก และพาร์ค ออริจิ้น จะช่วยให้เราขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากขึ้น” อภิสิทธิ์ กล่าว
สมสกุล แสงสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า Next Level of Living Solutions ของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มาจากแนวคิดที่ต้องการให้ผู้บริโภคมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ขณะเดียวกัน ก็มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ๆ ทั้งในเรื่อง New Normal และสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) บริษัทฯ จึงได้จับมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพจำนวนมาก เพื่อกระจายตัวดูแลลูกบ้านทั้งในโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช ที่เข้ามาเป็นพันธมิตรด้านโรงพยาบาลเสมือนจริง (Virtual Hospital) และมอบบัตร Origin Samitivej Club เข้ามาบริการตรวจสุขภาพ ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการบำบัด วิทยาศาสตร์การกีฬา ให้ถึงในโครงการที่อยู่อาศัย หรือเป็น Hospital at Home อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังคงจับมือกับโรงพยาบาลใกล้เคียงแต่ละโครงการ (Local Hospital) เช่น โรงพยาบาลสินแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกอีกทางหนึ่งให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงมี Let’s Relax เข้ามาให้บริการสปาผ่อนคลายสุขภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จับมือกับศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางการออกแบบ สภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน และสวางคนิเวศ เพื่อดำเนินการ Senior Living Lab ศึกษาวิจัยสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เหมาะสมกับความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุไทยในปัจจุบัน และยกระดับการออกแบบโครงการที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับคนกลุ่มดังกล่าว
ปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) กล่าวว่า ปีนี้เครือ ออริจิ้น จะก้าวไปแบบ Next Level ร่วมกับธุรกิจใหม่อีก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจบริการสุขภาพ (Healthcare) อาทิ กลุ่มธุรกิจเสริมความงาม กลุ่มศูนย์บริการสุขภาพ กลุ่มแพลทฟอร์มให้บริการสุขภาพออนไลน์และเทคโนโลยีด้านสุขภาพ 2.กลุ่มธุรกิจศูนย์ โลจิสติกส์ (Logistic Center) ดำเนินกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์ ภายใต้การร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD คาดว่าจะเปิดเผยแผนธุรกิจร่วมกันได้ในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ และ 3.กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company หรือ AMC) ซึ่งนำรากฐานองค์ความรู้และความพร้อมในเครือบริษัทฯ มาต่อยอดสู่การดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์อย่างเข้มแข็งและครบวงจร ร่วมกันบริหารทรัพย์สินรอการขาย (NPA) และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ COVID-19 โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้บริโภค การคัดกรองทรัพย์ การพัฒนาโครงการ การรีโนเวท การขาย การตลาด มาเพิ่มมิติในการดูแลผู้บริโภคและมิติการเติบโตสู่อีกระดับของเครือ คาดว่าจะเปิดเผยแผนธุรกิจและพันธมิตรได้เร็วๆ นี้
“ในปีนี้ บริษัทฯ จะพัฒนาโครงการวัน ออริจิ้น สนามเป้า (One Origin Sanampao) ซึ่งเป็นโครงการอาคารสำนักงาน ขนาดพื้นที่กว่า 56,100 ตารางเมตร ติด BTS สนามเป้า ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ความต้องการอาคารสำนักงานในฝั่งกรุงเทพฯตอนเหนือที่ยังคงขยายตัวได้ดี เชื่อมั่นว่าสินค้าและบริการของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จะตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่นในทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต” ปิติพงษ์ กล่าว