ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า ปี 2567 นี้ หอการค้าไทย-จีน ก่อตั้งครบรอบ 114 ปี ยังคงบทบาทเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ไทย-จีน ทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมและการสร้างโอกาสเข้าสู่ตลาดจีนที่มีขนาดใหญ่ กว่า 1,400 ล้านคน
จากการที่ประเทศจีน มีนโยบายส่งเสริมการเปิดกว้างระดับที่สูงขึ้นและขยายการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพสูง ดังจะเห็นได้ว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคมูลค่า 274.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.95 ล้านล้านหยวน ขยายตัว 1.2% จากปีก่อน
นอกจากนี้ สถิติเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ามูลค่าของการนำเข้าสินค้าทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นการนำเข้าแบบขายปลีก มีมูลค่าถึง 141.77 พันล้านหยวน ในปี 2566 หรือ เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ดังนั้น หอการค้าไทย-จีน จึงมีแผนงานที่จะนำผู้ประกอบการไทย-จีน ในประเทศไทย เข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ ครั้งที่ 7 (หรือ CCIE ครั้งที่ 7) ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน ที่นครเซี่ยงไฮ้ เนื่องด้วยงาน CIIE นี้เป็นมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญมาก ที่จะสร้างตลาดขนาดใหญ่ของจีนให้กลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลก จึงเชื่อมั่นว่าการร่วมงาน CIIE ครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้สินค้าอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นที่รู้จักและสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้านำบริษัทไทย ซึ่งเป็นสมาชิกของหอการค้าไทย-จีน ร่วมออกบูธ 50 ราย
ในปีที่ผ่านมา หอการค้าไทย-จีน เป็นเจ้าภาพจัดประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (หรือ WCEC) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีนักธุรกิจชาวจีนจากทั่วโลก และจากประเทศไทยประมาณ 4,000 คน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งนี้ ภายหลังการระบาดของ COVID-19 หอการค้าไทย-จีน มีโอกาสต้อนรับผู้นำจีนและคณะผู้แทนระดับสูงจากประเทศจีน หลังการจัดประชุม WCEC ครั้งที่ 16 มาอย่างต่อเนื่อง
ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการเปิดประเทศของจีน จึงได้มีโอกาสนำคณะผู้แทนหอการค้าไทย-จีน เดินทางไปเศึกษา ดูงานและเข้าร่วมกิจกรรมการประชุม ในมณฑลต่าง ๆ ของจีน เช่น เมืองเซียะเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน / เมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง / มณฑลชิงไห่ / นครเซี่ยงไฮ้/ กรุงปักกิ่ง / มณฑลหูเป่ย / มณฑล ไห่หนาน/ มณฑลยูนนาน /มณฑลเจ้อเจียง /มณฑลกานซู่ เป็นต้น
“การที่หอการค้าไทย-จีน มีโอกาสต้อนรับผู้นำจีนและคณะผู้แทนระดับสูงจากจีน และการนำคณะหอการค้าไทย-จีน เยือนมณฑลต่าง ๆ ของจีน นั้น เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม และยังเป็นการส่งเสริมการขยายความร่วมมือและโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทย กับมณฑลต่าง ๆ ของจีน” ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับทิศทางหอการค้าไทย-จีน ยุคใหม่ในปี 2567-2568 นี้ ทางหอการค้าไทย – จียยังคงทำหน้าที่เป็นสายใยผูกพันความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในทุกมิติ ช่วยเผยแพร่เรื่องราวดี ๆของประเทศจีน ในขณะเดียวกันก็แนะนำสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทย ผลักดันกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนในประเทศไทย// ผลักดันให้เกิดความร่วมมือในเชิงลึกในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงการแบ่งปันโอกาสในรูปแบบจีนสมัยใหม่// ส่งเสริมการสร้างโอกาสเข้าสู่ตลาดจีนที่มีขนาดใหญ่ และสนับสนุนการสร้างประชาคมไทย-จีน ที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ บนเส้นทางสายมิตรภาพไทย-จีน สืบต่อไป
ด้านการค้าระหว่างประเทศไทยและจีน ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2567) ขยายตัว 7.15% มีมูลค่า 17,035 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกของไทยไปจีน มีมูลค่า 4,555 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 2.01% ส่วนการนำเข้าจากจีน ขยายตัว 10.94% มีมูลค่า 12,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศไทยจึงเป็นฝ่าย ขาดดุลการค้ากับประเทศจีน 7,925 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้านำเข้าจากจีนที่สำคัญ ๆ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
สำหรับสินค้าส่งออกของไทยไปตลาดจีน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ยางพารา เป็นต้น