ในงานประจำปีครั้งยิ่งใหญ่ของนูทานิคซ์ Global .NEXT Digital Experience 2021 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 กันยายนศกนี้ นูทานิคซ์จะประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของนูทานิคซ์ รวมถึงเปิดตัวซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอะโครโพลิส (AOS) เวอร์ชัน 6 เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัยที่ควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ (software-defined data centers) และเร่งการนำไฮบริดมัลติคลาวด์ไปใช้งานได้เร็วขึ้น AOS 6 ช่วยให้องค์กรได้ใช้ฟังก์ชันการทำงานที่มีการประมวลผลแบบเวอร์ชวลและระบบเครือข่ายที่ติดตั้งมาในตัวเบ็ดเสร็จและมีประสิทธิภาพสูง แทนที่จะต้องใช้ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแวร์ และทักษะการทำงานที่เฉพาะทาง เพื่อจัดเตรียมวิธีการที่จะทำให้ธุรกิจมีความต่อเนื่องและดำเนินกลยุทธ์การกู้คืนระบบ และด้วยสถาปัตยกรรมของ Nutanix Cloud Platform ที่มีความสามารถต่าง ๆ ในตัวเองได้เบ็ดเสร็จ ทำให้ความสามารถใหม่ ๆ ยังคงการบริหารจัดการผ่านอินเทอร์เฟซเดียว ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มาก
ใช้ไพรเวทคลาวด์บนไฮบริดมัลติคลาวด์ทั้งหมดได้อย่างไม่ยุ่งยาก
นูทานิคซ์นำเสนอ Flow Networking เน็ตเวิร์กเวอร์ชวลไลเซชันที่ทำงานอยู่บน AHV hypervisor ช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมระบบเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายดายผ่านแผงควบคุมการบริหารจัดการบนหน้าจอเดียว ควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ องค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์ต่าง ๆ สามารถสร้างเวอร์ชวลไพรเวทคลาวด์ (Virtual Private Clouds: VPCs) ได้อย่างง่ายดาย เพื่อสร้างความคล่องตัวที่เป็นคุณสมบัติของคลาวด์ให้กับผู้ใช้งานของตนโดยพึ่งพาการใช้ฮาร์ดแวร์และเราเตอร์ให้น้อยที่สุด
Flow Networking ยังเพิ่มความสามารถด้าน VPN ที่ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมและขยายเวอร์ชวลเน็ตเวิร์กไปยังโครงสร้างพื้นฐานพับลิคและไพรเวทคลาวด์ใด ๆ ก็ได้ ความสามารถในการกำหนดการเชื่อมต่อคลาวด์ได้แบบออนดีมานด์หรือตามความต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะและการตั้งค่าที่ซับซ้อน ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและช่วยให้การดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับลูกค้าทำได้อย่างไม่ยุ่งยาก
เพิ่มความสามารถในการใช้ซอฟต์แวร์เกี่ยวกับความต่อเนื่องทางธุรกิจ
ลูกค้าที่ใช้ Nutanix Cloud Platform และ AOS 6 จะได้ใช้ความสามารถใหม่ ๆ ด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ (business continuity: BC) และการกู้คืนระบบ (disaster recovery: DR) ซึ่งในอดีตความสามารถ เหล่านี้มีอยู่ในโซลูชันเฉพาะด้านเท่านั้น นอกจากนี้ AOS 6 ยังมีการสร้างการเข้ารหัสแบบ end-to-end ให้กับทราฟฟิกด้าน DR ทั้งหมด ความสามารถในการใช้พับลิคคลาวด์เป็นเหมือนไซต์สำรอง และการรองรับ metro clustering ของ AHV hypervisor ที่ติดตั้งมาในตัว ช่วยให้สามารถป้องกันระบบจากความล้มเหลวเมื่อเกิดเหตุระบบล่มได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ แดชบอร์ด DR ใหม่ยังช่วยให้ผู้ควบคุมสามารถมองเห็นเหตุการต่าง ๆ ในการตั้งค่า DR ของลูกค้า และสถานะของไซต์หลักและไซต์สำรองได้อย่างทั่วถึง
ความสามารถเหล่านี้ช่วยให้องค์กรไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการทำ DR ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ทำการกู้คืนระบบได้เร็วขึ้น ลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และเป็นไปได้ที่จะช่วยขจัดค่าใช้จ่ายของไซต์สำรองที่ต้องสแตนบายพร้อมใช้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงลงได้ ทำให้สามารถช่วยให้บริษัทขนาดกลางที่อาจไม่มีงบประมาณหรือทักษะของบุคลากรเพียงพอที่จะใช้ DR ที่มีขีดความสามารถสูง ให้ได้สามารถปกป้องธุรกิจของตนจากภัยพิบัติต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
นโยบายความปลอดภัย Zero-Trust ที่ทำงานอัตโนมัติ
มีองค์กรจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่กำลังมองหาการนำแนวทาง Zero-Trust ไปใช้เพื่อสร้างความปลอดภัย แต่การพัฒนานโยบายต่าง ๆ ให้มีทั้งประสิทธิภาพและได้ผลดีอาจเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่มีการใช้ทั้งพับลิคและไพรเวทคลาวด์ ฟีเจอร์บน Nutanix Cloud Platform ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Flow Security Central SaaS ที่กำลังจะเปิดตัวนี้ จะช่วยขจัดความท้าทายที่ทุกคนประสบเหมือนกัน ด้วยการสร้างนโยบายและข้อกำหนด Flow microsegmentation อย่างอัตโนมัติ ผ่านเครื่องมือการวางแผนโดยแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ทำการวิะคราะห์ทราฟฟิกเน็กเวิร์กขององค์กร และแนะนำนโยบายและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เพื่อปกป้องเวิร์กโหลดของเวอร์ชวลแมชชีนจากการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ การป้องกันประสิทธิภาพสูงที่มีอยู่ใน Nutanix Files จะช่วยตรวจจับและป้องกันการโจมตีจาก แรนซัมแวร์ ที่เป็นที่รู้จักมากกว่า 4000 รายการ พร้อมความสามารถในการแจ้งและอัปเดท signatures ของไวรัสใหม่ ๆ ได้แบบไดนามิก ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ AOS, AHV และ Files ของนูทานิคซ์ได้รับการบรรจุอยู่ในรายการผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอนุมัติของเครือข่ายข้อมูลกระทรวงกลาโหม (Defense Information Network Approved Products List: APL) หลังจากประสบความสำเร็จในการทดสอบความปลอดภัยทางไซเบอร์และการทำงานร่วมกันที่เข้มงวด
Nutanix Cloud Platform เสริมแกร่งบริการด้านดาต้า
นูทานิคซ์จะเปิดตัวความสามารถใหม่ ๆ ที่อยู่บน Nutanix Cloud Platform ที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการข้อมูลได้ง่ายขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับดาต้าเบสและบิ๊กดาต้าเวิร์กโหลด เพื่อใช้งานกับแอปพลิเคชันที่สำคัญมาก ๆ Nutanix Cloud Platform จะทำการแบ่งระดับชั้นความสำคัญของข้อมูลที่ไม่มีการจัดโครงสร้าง (unstructured data) จากภายในองค์กรไปยังคลาวด์ ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพสตอเรจได้ 2 เท่าสำหรับดาต้าเบสเวิร์กโหลด และ 3 เท่าสำหรับบิ๊กดาต้าเวิร์กโหลด โดยไม่ต้องตั้งค่าการใช้งานให้ยุ่งยาก รวมถึง Nutanix Data Lens ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่ใช้กำกับดูแล unstructured data นอกจากนี้ Nutanix Era ซึ่งเป็นบริการด้านดาต้าเบส ยังมอบการสเกลสตอเรจได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว (one-click) และการควบคุมการเข้าใช้งานตามบทบาทมากมาย เพื่อบริหารจัดการดาต้าเบสที่อยู่บนสภาพแวดล้อมไฮบริด มัลติคลาวด์ทั้งหมด
สำหรับฟีเจอร์เด่นที่นูทานิคซ์จะประกาศมีดังนี้
1.เพิ่มประสิทธิภาพให้กับดาต้าเบสเวิร์กโหลดและบิ๊กดาต้าเวิร์กโหลด
ลูกค้าที่กำลังมองหาแนวทางปรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้ทันสมัยและใช้งานดาต้าเบสขนาดใหญ่จะสามารถทำเช่นนี้ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องยุ่งยากกับการเปลี่ยนการตั้งค่าสตอเรจของดาต้าเบสของตน ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 2 เท่า ลูกค้าจะยังสามารถได้ประโยชน์จากการตอบสนองของระบบจัดเก็บข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของฮาร์ดแวร์ เช่น เทคโนโลยีของ Intel® Optane™ ที่ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายและการจัดการข้อมูลทุกลักษณะ (preferential data placement) ของนูทานิคซ์
2.ลดความซับซ้อนในการสเกลสตอเรจและการกำกับดูแลดาต้าเบส
Era ซึ่งเป็นบริการด้านดาต้าเบสของนูทานิคซ์ทำการบริหารจัดการเอ็นจิ้นด้านดาต้าเบสที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เช่น PostgreSQL®, MySQL®, Microsoft® SQL Server และ Oracle® Database
บนสภาพแวดล้อมไฮบริด มัลติคลาวด์ทั้งหมด Era ช่วยให้ลูกค้าสามารถสเกลดาต้าเบสสตอเรจได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วผ่านทางออนไลน์ เปลี่ยนการทำงานที่ต้องใช้เวลาเป็นวันหรือสัปดาห์ให้เหลือเพียงการคลิกครั้งเดียว
นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถใช้นโยบายด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลได้อย่างไม่ยุ่งยากผ่านฟังก์ชันการควบคุมการเข้าใช้งานตามบทบาท รวมถึงสามารถแชร์การเข้าใช้งานดาต้าเบสและการบริหารจัดการดาต้าเบสได้อย่างปลอดภัย Era ยังรองรับความสามารถในการป้องกันระบบจากความล้มเหลว เมื่อเกิดเหตุระบบล่มได้ในหลายภูมิภาค โดยเพิ่มความยืดหยุ่นผ่าน database-as-a-service ที่มีความพร้อมใช้สูง
3.ความคล่องตัวในการโยกย้ายการทำงานและการกำกับดูแล unstructured data บนคลาวด์
นูทานิคซ์เปิดตัว Nutanix Data Lens บริการคลาวด์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการ unstructured data ที่เพิ่มมากขึ้น และช่วยปกป้องดาต้าจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การนำมุมมองจากมิติระดับโลกพร้อมกับข้อมูลเชิงลึกไปใช้กับ unstructured data ที่จัดเก็บอยู่บนสตอเรจแบบรวมศูนย์ของนูทานิคซ์ ไม่ว่าจะจัดเก็บอยู่ในองค์กร หรืออยู่บนพับลิคคลาวด์ เช่น รูปแบบการเข้าใช้งาน, อายุของดาต้า, ประเภทของดาต้า และอื่น ๆ อีกมาก ทำให้ Nutanix Data Lens มีคุณสมบัติที่ช่วยให้การบริหารจัดการดาต้าไลฟ์ไซเคิลทำได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังปกป้องการโจมตีจากแรนซัมแวร์ ด้วยการตรวจจับและการบล็อกไฟล์ที่ต้องสงสัย และแจ้งเตือนกิจกรรมที่ผิดปกติ
นอกจากนี้ นูทานิคซ์จะช่วยลูกค้าบริหารจัดการการเพิ่มขึ้นของ unstructured data ด้วยการสนับสนุนการจัดระดับข้อมูล (data tiering) ให้กับ Nutanix Object, AWS S3 และ Azure blob storage รวมถึงสามารถกู้คืนข้อมูล file shares ที่อยู่บน Nutanix Files โดยมีระยะเวลาที่ข้อมูลอาจจะเสียหายไม่เกิน 1นาทีนับจากเวลาที่ระบบล่ม และการกู้คืนด้วยตนเอง