ทีแอนด์บีฯ จับมือ 15 พันธมิตรทั้งไทยและเทศ เปิดตัว “Crown Token” รองรับการพัฒนา NET Platform


บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ชั้นนำของไทย และเป็นผู้พัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ผลิตและสร้างสรรค์ภาพยนตร์และซีรีย์แอนิเมชันระดับโลก จับมือกับ 15 บริษัท ชั้นนำในประเทศไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย 11 บริษัท ชั้นนำในประเทศไทย และบริษัทจากต่างประเทศอีก 4 บริษัท ร่วมเปิดตัว “Crown Token (CWT)” เพื่อรองรับการพัฒนา NET Platform และ Ecosystem อย่างเป็นทางการ

ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมด้วยพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ 15 บริษัท ประกอบด้วย 11 บริษัท ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ 1.บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) 2.ZIPMEX 3. The Last Idol 4.บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (Search Entertainment) 5. บริษัท บีบีทีวี นิว มีเดีย จำกัด (BBTV New Media Co.,Ltd) 6.บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)  (The One Enterprise ) 7. Lomabin 8.บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด 9. INFOFED Co.,Ltd 10. Cozy Game 11.มหาวิทยาลัยรังสิต และบริษัทจากต่างประเทศอีก 4 บริษัท ได้แก่ 1.Pellar Technology  2.Andrew Gordon  3.Kenji Xiao และ4. Sunac Culture Group ร่วมเปิดตัว “Crown Token (CWT)” เพื่อรองรับการพัฒนา NET Platform และ Ecosystem อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่นวัตกรรมการเงินบนโลกเสมือน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทางการเงินยุคดิจิทัลไร้ขีดจำกัด 

 

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า CWT จะเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญของวงการโทเคนของประเทศไทย ที่จะเชื่อมโยงโอกาสและพลิกโฉมครั้งใหญ่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งจะสร้างโอกาสให้แก่ศิลปินทุกแขนงได้อย่างมากมาย รวมไปถึงผู้ชมด้วย ที่สามารถมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ โดยผ่านการถือครอง CWT ซึ่งเปิดเทรดครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา บนกระดานเทรด Zipmex ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี” ชวัลวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแผนดำเนินธุรกิจเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดซื้อขายในภูมิภาคในเร็วๆ นี้ด้วย ซึ่งกำหนดจำนวนเหรียญไว้ทั้งหมด 140 ล้าน Token แต่เบื้องต้นได้ปล่อยออกมาจำนวนหนึ่ง และจะทยอยออกมาเพิ่มเติมในอนาคต โดยขณะนี้มีมูลค่าของเหรียญที่ระดับเกือบ 150 บาท จากราคาเปิด 33.5 บาท  ส่วนในอนาคตนั้นจะค่อยๆทยอยเปิดตัวพันธมิตรอื่นๆเสริมความแข็งแกร่งการทำงานสร้างประสบการณ์การเงินไร้ขีดจำกัดบนโลกดิจิทัลมุ่งสู่อนาคต Metaverse

พรรณธร ลออรรถวุฒิ CFA ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มบริษัท T&B Media Global และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท VUCA Digital กล่าวว่า เรามีความตั้งใจที่จะสร้าง CWT ให้เป็นโทเคนระดับโลกที่จะเข้ามาช่วยจุดประกายให้กับ IP (Intellectual Property) หรือ ทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าและต่อยอดให้กับผลงานของศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนต์ทุกคนทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มการใช้งาน หรือ Use Case ของ CWT ให้กว้างขึ้น ด้วยการเชื่อมต่ออย่างครบวงจรของ CWT และ ADOT แพลตฟอร์ม NFT  ซึ่งได้พันธมิตรระดับโลกอย่าง Pellar Technology ออสเตรเลีย ที่มีผลงานและประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมพัฒนา ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานแพลตฟอร์มได้ภายในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ.2565 

นอกจากนี้แพลตฟอร์ม ADOT จะเชื่อม IPs ที่ทั้งมีทั้งภาพยนตร์ ละคร แอนิเมชัน เพลง และเอ็นเทอร์เทนเมนต์ในรูปแบบต่างๆมาสู่สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Digital Assets ซึ่งจะสร้างโอกาสให้กับศิลปินคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ผู้ผลิต รวมไปถึงผู้ชมที่จะมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่ ๆ ผ่านการถือครอง CWT ในการจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายทั้งการรับ NFT Airdrop จากแอนิเมชันทั้ง 6 เรื่อง สิทธิในการโหวตทิศทางของภาพยนตร์และแอนิเมชันในเครือ T&B สิทธิในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์และ NFT รวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ จาก SMO Live Platform และที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมใน “Translucia Metaverse” ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ของ T&B ในอนาคต

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า เนื่องจากกลยุทธ์หลักของ MQDC มุ่งเน้นในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตด้วยนวัตกรรมดิจิทัล บริษัทฯ จึงก้าวเข้าสู่วงการฟินเทค (Fintech) อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล ซึ่งถือเป็นพันธมิตรรายแรก จากวงการอสังหาริมทรัพย์ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดตัว Crown Token “CWT” จึงนับได้ว่าเป็นก้าวแรกก้าวสำคัญ ที่จะนำไปสู่อนาคตแห่งโลกการเงินดิจิทัล แบบไร้ขีดจำกัดและเป็นมิติใหม่แห่งวงการโทเคนและวงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบต่าง ๆ เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ทุกด้านอย่างครบวงจรที่สำคัญในอนาคต จะมีการเชื่อมต่อกับ Translucia Metaverse ซึ่งเป็นอภิมหาโปรเจกต์และเมกาเทรนด์ใหม่ของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่าง MQDC และ ทีแอนด์บี ที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงที่หลากหลายมาผสมผสาน  เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ให้กับผู้ถือสินทรัพย์ดิจิทัล

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ยินดีต่อความสำเร็จของ T&B ที่ได้นำ CWT เข้าไปลิสต์บน ZIPMEX ซึ่งถือเป็นก้าวใหม่ของวงการบันเทิงในการต่อยอดธุรกิจตอบโจทย์ยุคดิจิทัลอย่างลงตัว


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save