วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World Press Freedom Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นวันที่มีความสำคัญกับทวิตเตอร์เป็นอย่างมากเนื่องจากสื่อมวลชนและข่าวสารเป็นส่วนสำคัญของชุมชนทวิตเตอร์ และช่วยให้ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการค้นหาสิ่งที่เกิดขึ้นรอบโลก โดยสื่อมวลชนมีความสำคัญที่ทำให้เราทุกคนทราบว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในทั่วทุกมุมโลก และทวิตเตอร์ได้ตระหนักถึงการเป็นพันธมิตรนี้ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก อย่างสถานการณ์ล่าสุดอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สื่อมวลชนและสำนักข่าวต่างทำงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือ ทั้งที่ในขณะเดียวกันอาจส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกเขาเอง
การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ
ทวิตเตอร์ทำงานร่วมกันกับองค์การยูเนสโกมาตั้งแต่กลางปีพ.ศ. 2561 เพื่อความก้าวหน้าของการสนทนาเกี่ยวกับการรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศใน (Media and Information Literacy) ในยุคดิจิทัล ทวิตเตอร์จึงได้พัฒนาแหล่งข้อมูลขึ้นมาที่เรียกว่า “Teaching and Learning with Twitter” ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกในการใช้ทวิตเตอร์ในแง่การเป็นผู้ให้ข้อมูลและการใช้งานบนทวิตเตอร์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดคู่มือได้ที่ https://bit.ly/3doW9qp หรือติดตามข้อมูลล่าสุดของการรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศได้ที่ @MILCLICKS
3 เคล็ด (ไม่) ลับ! ใช้ทวิตเตอร์เสริมแกร่งสื่อในยุคดิจิทัล
ทวิตเตอร์มีเครื่องมือมากมายที่สามารถช่วยให้สื่อในยุคดิจิทัลบันทึกเนื้อหาได้หลากหลายประเภทและช่วยดึงดูดให้ผู้ชมหรือผู้ติดตามเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้ที่สนใจทั่วไปยังสามารถนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ในการสร้างสรรค์และแชร์เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้อีกด้วย
1. การสร้างเธรด (Tweet Thread)
สำหรับทวีตที่มีเนื้อหายาวมากเกินไปที่จะสรุปจบภายในหนึ่งทวีต สามารถเรียงทวีตให้อยู่ในหัวข้อเดียวกันหรือร้อยเรียงเนื้อหาเพิ่มเติมให้เป็นเธรดได้ด้วยการ
- คลิกสร้างทวีต
- เลือกเครื่องหมายบวกเพื่อเพิ่มทวีต
- ทำซ้ำไปเรื่อยๆ หากจำเป็น
- เลือกเพื่อทวีตทั้งหมด
2. การเพิ่มรูปภาพและคลิปวิดีโอเพื่อทวีต
การบันทึกสิ่งที่กำลังรายงานข่าวอยู่ในขณะนั้นหรือสามารถแบ่งปันเนื้อหาภาพกับผู้กำลังติดตามคุณอยู่จะช่วยให้เกิดการเอ็นเกจหรือดึงให้พวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น
- เมื่อเปิดแอปทวิตเตอร์แล้วปัดไปทางซ้ายจะเข้าสู่โหมดกล้อง โดยสามารถถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอ และถ่ายทอดสดได้ทันที เมื่อโอเคกับภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้แล้ว ระบบจะเข้ามายังหน้าที่คุณพร้อมจะทวีตซึ่งสามารถเติมข้อความ ปักหมุดโลเคชั่น และติดแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องได้ตามต้องการ
- เลือกทวีตด้วยรูปภาพหรือวิดีโอที่มีอยู่ในแกลเลอรีของคุณ หรือเลือกสัญลักษณ์รูปกล้องทางซ้ายมือเพื่อบันทึกภาพหรือวิดีโอใหม่
- เมื่อถ่ายภาพหรือเลือกรูปภาพได้แล้ว สามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์ เพิ่มสติกเกอร์ หรือคร็อปรูป ส่วนวิดีโอคุณสามารถเลือกตัดต่อให้คลิปมีขนาดความสั้นยาวได้ตามต้องการเช่นเดียวกัน
- เมื่อเสร็จแล้ว เลือกบันทึก รูปภาพหรือวิดีโอนั้นจะถูกเพิ่มเข้าไปในทวีต ในหนึ่งทวีตคุณสามารถเลือกรูปภาพได้มากที่สุด 4 ภาพ
- สามารถแท็กคนอื่นในภาพได้ด้วยการพิมพ์ @ชื่อแอคเคาท์ แล้วคลิก ‘เสร็จสิ้น’
3. เพิ่มการถ่ายทอดสดเข้าไปในทวีตของคุณ (Live Broadcast)
การถ่ายทอดสดเป็นสิ่งที่สามารถสร้างเอ็นเกจได้มากที่สุด บนทวิตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสดช่วงของการถาม-ตอบกับฟอลโลเวอร์ที่กำลังติดตามคุณอยู่ หรือคุณอาจจะกำลังรายงานข่าวด่วนโดยถ่ายทอดสดจากสถานที่ต่างๆ
- คลิกเลือกการสร้างทวีตแล้วเลือกสัญลักษณ์กล้อง เปลี่ยนจากโหมดบันทึก (CAPTURE) ไปเป็นการไลฟ์สด (LIVE)
- จากนั้นจะเป็นหน้าข้อความที่คุณสามารถเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะถ่ายทอดสดได้
- กดเลือก ‘Go LIVE’ แล้วเริ่มการถ่ายทอดสดได้เลย
หรืออีกหนึ่งวิธีคือ - เมื่อเปิดแอปทวิตเตอร์ เข้ามาที่หน้าหลัก ปัดไปทางซ้ายเพื่อเปิดกล้อง
- เปลี่ยนจากโหมดบันทึก (CAPTURE) ไปเป็นการไลฟ์สด (LIVE)
- พิมพ์รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะถ่ายทอดสด นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกให้เพิ่มโลเคชั่นด้วย
- จากนั้นคลิกเลือก ‘Go LIVE’ แล้วก็เริ่มการถ่ายทอดสด
ปลอดภัยยิ่งขึ้น! ด้วย 4 ฟีเจอร์!
การทำให้นักข่าวสามารถใช้งานทวิตเตอร์ได้ดีขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในงานของเรา ทั้งนี้ทวิตเตอร์ได้ปรับปรุงเครื่องมือการใช้งานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักข่าวและผู้ใช้งานทุกคนได้รับประสบการณ์ในการใช้งานทวิตเตอร์ที่ดียิ่งขึ้น
1. การบล็อก (Block)
การบล็อกเป็นฟีเจอร์หนึ่งที่ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการมีปฏิสัมพันธ์กับแอคเคาท์ผู้ใช้งานอื่นๆ บนทวิตเตอร์ ซึ่งช่วยป้องกันการถูกติดต่อ, บล็อกไม่ให้เห็นทวีต และบล็อกไม่ให้ติดตาม การบล็อกหมายถึงการที่คุณจะไม่เห็นทวีตของแอคเคาท์ที่คุณกำหนดเอาไว้ และแอคเคาท์เหล่านั้นก็ไม่สามารถติดตามคุณได้เช่นกัน ไม่สามารถส่งข้อความ Direct Message ถึงคุณได้ ไม่สามารถเห็นคุณบนทวิตเตอร์ หรือหากมีการแท็กชื่อหรือมีการพูดถึงคุณ คุณก็จะไม่เห็นการแจ้งเตือนใดๆ
2. การรายงาน (Report)
เราสนับสนุนให้ทุกคนรายงานแอคเคาท์ที่มีการละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการเข้าไปที่หน้าศูนย์ความช่วยเหลือ (Help Center) หรือจะใช้ตัวเลือกที่อยู่มุมด้านขวาบนของทวีตนั้นๆ แล้วคลิกเลือก ‘รายงานทวีต’ (Report a Tweet) โดยทุกรายงานจะได้รับการตรวจสอบจากทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรบมาแล้ว
3. การเพิกเฉย (Ignore)
โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่จะเลิกติดตามแอคเคาท์ใดๆ เมื่อพวกเขาไม่อยากจะเห็นทวีตจากแอคเคาท์นั้นๆ ในหน้าไทม์ไลน์อีกต่อไป แต่ฟีเจอร์นี้จะทำให้คุณยังสามารถเห็นทวีตของพวกเขาเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการโดยคลิกไปที่หน้าโปรไฟล์ของพวกเขา ยกเว้นว่าทวีตเหล่านั้นถูกตั้งค่าป้องกันเอาไว้
4. การซ่อน (Mute)
หากคุณยังอยากติดตามบางแอคเคาท์อยู่ และต้องการตั้งค่าให้มีการเห็นทวีตให้น้อยลงสักเล็กน้อยหรือลดจำนวนทวีตให้แสดงในหน้าไทม์ไลน์ของคุณให้น้อยลง เครื่องมือการซ่อนจะมีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งจะช่วยซ่อนทวีตเมื่อได้ตั้งค่าเอาไว้และจะไม่มีใครรู้ว่าคุณกำลังตั้งค่าซ่อนพวกเขาอยู่ ฟีเจอร์นี้จึงเป็นวิธีที่ดีในการถอยห่างออกจากวงสนทนาอย่างเงียบๆ ซึ่งคุณสามารถยกเลิกการซ่อนได้ในภายหลังหากต้องการ
นอกจากนี้ทวิตเตอร์ได้เปิดให้มีการรายงานผู้อื่นซึ่งคุณสามารถรายงานในนามของบุคคลอื่นได้แล้ว ซึ่งขณะนี้ผู้ใช้งานสามารถรายงานทั้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นได้อีกด้วย