กรุงเทพฯ – 22 กันยายน 2564 : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงผลดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคดิจิทัล (Empowering Tech Tourism) โครงการที่ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการในการใช้เทคโนโลยีเสริมศักยภาพธุรกิจรับยุคดิจิทัล ประเมินผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย เกิดการเจรจาธุรกิจจากความร่วมมือของ 3 ภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ผู้พัฒนานวัตกรรม และนักลงทุน หมุนเวียนในระบบมากกว่า 170 ครั้ง นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่สำคัญในการช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เดินหน้าต่อไป
อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคดิจิทัล หรือ “Empowering Tech Tourism” เกิดขึ้นเนื่องจากทาง ททท. เห็นความสำคัญของการปรับตัวของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัลที่ทุกธุรกิจต้องพบกับกระแส Digital Disruption รวมถึงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ (New Normal) ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวจึงต้องอาศัยนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการทำธุรกิจ จึงเกิดแนวคิดในการรวบรวมนวัตกรรมที่เหมาะสมมาไว้ในแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีศูนย์รวมในการเลือกนวัตกรรมที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน โดยสามารถดำเนินการนัดหมายเจรจาธุรกิจแบบออนไลน์พร้อมในที่เดียว ซึ่งจากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา ตั้งแต่พฤษภาคม ถึง กันยายน 2564 มีผู้เข้าใช้แพลตฟอร์ม www.empoweringtechtourism.com กว่า 26,000 ครั้ง เป็นสมาชิกในระบบประมาณ 1,800 รายนวัตกรรมลงทะเบียนในระบบ 190 ราย ผู้ประกอบการลงทะเบียนในระบบ 158 ราย และมีนักลงทุนและหน่วยงานสนับสนุนจำนวน 38 ราย นอกจากนี้มีแพลตฟอร์มเกือบ 200 รายที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสามารถใช้งานได้
ในส่วนของการจัดงาน มีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็นแบบ Virtual Event เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งได้จัดขึ้นในวันที่ 6-15 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยการจัดงานทั้ง 10 วัน เรามีกิจกรรมสัมมนาออนไลน์จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากกว่า 50 ท่าน ทั้งจากภาคโรงแรมและที่พัก ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยว สปาและอื่นๆ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์แนวทางการเตรียมพร้อมของผู้ประกอบการที่นำนวัตกรรมดิจิทัลไปใช้แล้วเกิดประโยชน์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมชมงานมากกว่า 15,000 ครั้ง อีกทั้งตลอดโครงการเกิดการนัดหมายเจรจาธุรกิจกว่า 170 ครั้ง มี Business Matching แล้ว 81 คู่ นับเป็นตัวเลขที่น่าพอใจสำหรับโครงการนี้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการ
“นวัตกรรมไม่ใช่เทคโนโลยีแต่เป็นแนวคิดใหม่ๆ ต่อยอดอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมีผู้ประกอบการท่ท่องเที่ยวประมาณ 100 ราย ที่สนใจและพัฒนานวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” อภิชัย กล่าว
นอกเหนือจากการจัดงาน Virtual Event แล้ว แพลตฟอร์มของโครงการที่พัฒนาขึ้น จะยังคงอยู่ต่อไปเป็นเวลา 1 ปี ดังนั้นผู้ประกอบการยังสามารถเข้ามาเลือกชมนวัตกรรมที่น่าสนใจ และยังสามารถเจรจาพูดคุยกับผู้พัฒนานวัตกรรมได้ รวมถึงยังสามารถชมการสัมมนาย้อนหลังได้อีกด้วย
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคดิจิทัล Empowering Tech Tourism นับเป็นความ ร่วมมือระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ผู้พัฒนาด้านนวัตกรรม และนักลงทุนที่จะช่วยกันเสริมศักยภาพของการท่องเที่ยวไทยให้ก้าวไกลในยุคดิจิทัล โดยการพัฒนา Digital Platform ภายใต้ชื่อ www.empoweringtechtourism.com รวบรวมผู้พัฒนานวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านนวัตกรรมของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว
สำหรับหน่วยงานที่ให้ความร่วมมืออย่างดี ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมท่องเที่ยวต่าง ๆ, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai), กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TEDFund), กลุ่มธนาคาร อาทิ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank), ธนาคารกรุงเทพ รวมถึงนักลงทุนจากสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนส่วนบุคคล ทาง ททท. ต้องขอขอบคุณทุก ๆ หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลในครั้งนี้
อภิชัย กล่าวว่า ในช่วง COVID-19 สุขอนามัยเป็นเรื่องสำคัญ ททท. จึงได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำมาตรฐานสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขบางข้อมาปรับใช้ในแหล่งท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ เช่น การเว้นระยะห่าง โดยเสริมเข้าไปในการบริการ จัดทำเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการประเทศไทย