วิตต์ วิจิตรวาทการ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์และหัวหน้าผู้แทนประจำประเทศไทย บริษัท GE กล่าวว่า เกือบสองปีที่ผ่านมานี้ ในช่วงมีการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสไปทั่วโลก ความต้องการพลังงานที่มีความเสถียร หรือการเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลทั่วโลกให้ความสำคัญสูงสุด ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างรอบด้านในด้านพลังงานและสาธารณสุข GE ทำงานอย่างทุ่มเทและใกล้ชิดกับลูกค้าทั้งด้านพลังงานและการแพทย์ทั่วโลก เพื่อให้ธุรกิจของลูกค้า “ดำเนินไปได้เป็นปกติ” ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล โรงไฟฟ้า ระบบโครงข่ายไฟฟ้าและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอื่นๆ
ในส่วนของธุรกิจพลังงานนั้น ทีมงาน GE Power ได้ร่วมมือกันฟันฝ่าความท้าทายเพื่อให้สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด ส่งผลให้หลอดไฟและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญต่างๆ ในโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วโลก ยังทำงานได้เป็นปกติ รวมทั้งระบบการสื่อสารและอินเทอร์เน็ต ผู้คนจึงยังสามารถเชื่อมต่อกันได้
การคงเสถียรภาพของพลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ไม่ปกตินี้ นับเป็นบททดสอบและต้องอาศัยความพยายามเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ดำเนินงานในโรงไฟฟ้าต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคใหม่ๆ แทบจะทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการปิดพรมแดน และการห้ามเดินทางทางอากาศ ความขัดข้องของห่วงโซ่อุปทานและข้อจำกัดในการปฏิบัติงานที่โรงไฟฟ้า
เราไม่เคยประสบกับความยากลำบากขนาดนี้มาก่อน และก็ไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่ความสามารถในการปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่น เตรียมพร้อมได้ทันท่วงที เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ จะมีความจำเป็นและสำคัญมากเท่าในขณะนี้ แม้ว่าจะมีกลยุทธ์ที่ช่วยให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านพลังงานและการแพทย์ แต่เราก็ยังคงมองหาวิธีใหม่ๆ ในการรับมือความท้าทายและพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เห็นได้จากกรณีที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียที่ทีมงาน GE Power และ GE Healthcare ร่วมกันวางแผน และบริหารจัดการงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
วิตต์ กล่าว
เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ จะดำเนินงานต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทีมงานของ GE ประจำโรงไฟฟ้า ได้ทำการพิจารณา จัดลำดับ
เช่นเดียวกับทีมงาน GE Healthcare ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ที่ทำงานอย่างมุ่งมั่นและทุ่มเท ในขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งปฏิบัติงานอย่างสุดความสามารถ ท่ามกลางอุปสรรคสำคัญคืออุปกรณ์ทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ GE ได้ทำการส่งมอบอุกรณ์ที่จำเป็นพร้อมติดตั้งอย่างทันท่วงที และยังอาสาช่วยติดตั้งโรงพยาบาลภาคสนามได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยโรงพยาบาล 1 แห่งนั้น ใช้เวลาเพียง 10 วัน
การลดช่องว่างความรู้ด้านเทคโนโลยีนับเป็นอีกหนึ่งความท้าท้ายในภาวะที่โรคระบาดแพร่ไปทั่วโลก เนื่องจากข้อจำกัดในการเดินทาง ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์การแพทย์ของ GE จึงไม่สามารถเดินทางไปให้การฝึกฝนแก่ทีมผู้บริการทางการแพทย์ ณ ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้