นายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ เรียกร้องนายกฯ พิจารณาสั่งการให้ ทอท. หยุดสร้าง อาคารผู้โดยสาร 2 นอกแผนแม่บท ปี 53 ห่วงจะสร้างความเสียหายให้ประเทศ เพราะพื้นที่มีแต่ร้านค้า มากกว่าอาคารที่จะรองรับผู้โดยสาร และเป็นห่วงความแออัด รถติดเพิ่มขึ้น
นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า หลังจากสมาคมและองค์กรวิชาชีพได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง “กะเทาะเปลือกสนามบินสุวรรณภูมิ” และได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคัดค้านข้อเสนอของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) แต่ทาง ทอท.ยังดึงดันที่จะเดินหน้าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หรือ เทอร์มินอล 2 พร้อมยืนยันว่า การออกแถลงการณ์ในขณะนี้ ไม่เกี่ยวข้องและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับฝ่ายใด และกังวลว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จะนำเสนอเรื่องดังกล่าว ให้คณะรัฐมนตรพิจารณา ส่วนกรณีที่นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระบุว่า เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายร่วมแสดงความคิดเห็น ไม่เป็นความจริง
โดยเนื้อหาของแถลงการณ์ “หยุดแผนทอท. ป่วนสุวรรณภูมิ” ระบุว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2553 อนุมัติให้ทอท. ดำเนินการโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยออกแบบก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศ เพื่อขยายสนามบินในการรองรับการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทอท. ไม่ได้ดำเนินการ แต่กลับมีข้อเสนอใหม่ให้ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ในตำแหน่งใหม่ ซึ่งอยู่นอกพิกัดแผนแม่บท ส่งผลให้เกิดความล่าช้าและความเสียหาย
นอกจากนี้ ความล่าช้าในการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้สนามบินเกิดความแออัด ไม่สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ได้ และทำให้งบประมาณในการขยายสนามบินเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ทอท.ได้พยายามเบี่ยงเบนเพื่อก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งใช้งบประมาณ 42,000 ล้านบาท เพราะพื้นที่อาคารมีขนาดใหญ่และเน้นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์กับผู้โดยสาร และการบริหารจัดการมีความยุ่งยาก เพราะต้องใช้ระบบรถไฟฟ้าไร้คนขับถึง 3 สาย นอกจากนี้เมื่อพัฒนาพื้นที่เต็มศักยภาพจะทำให้เกิดความแออัดของการจราจรในพื้นที่มอเตอร์เวย์ด้านทิศเหนือของสนามบิน
ส่วนผลกระทบในพื้นที่เขตการบินพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ตามข้อเสนอของทอท. คับแคบทำให้เครื่องบินวิ่งเข้า-ออกหลุมจอดยากลำบากและสิ้นเปลืองพลังงาน เนื่องจากอาคารอยู่ไกลจากทางวิ่ง
นอกจากนี้อาคารผู้โดยสารใหม่ตามแบบทอท. เปลี่ยนจากหลุมระยะไกล 14 หลุม เป็นหลุมจอดประชิดอาคาร 14 หลุม ทำให้ไม่สามารถทำหลุมจอดเพิ่มเติมได้ ทำให้อาคารไม่สามารถรองรับผู้โดยสารตามเป้าหมายได้
จึงจะยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในวันนี้ เพื่อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม เร่งรัดให้ท อท.ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2553 และแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเดิมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมถึงให้ ทอท. แสดงความรับผิดชอบที่ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิล่าช้า