การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2566 ซึ่งมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 โดย ครม.มีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เสนอ เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2566 ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ดังนี้
1.เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง (ร่างบันทึกความเข้าใจฯ) ประจำปี พ.ศ. 2566 ระหว่าง อก. กับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ขอให้ อก. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
2.อนุมัติให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
สาระสำคัญของเรื่อง
อก. รายงานว่า
1.กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ มีหนังสือแจ้งเรื่องการอนุมัติโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2566 (สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ จะเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับทุนสนับสนุนจากกองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง เป็นประจำทุกปี โดยมีมูลค่าของโครงการไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ระยะเวลาดำเนินการ 1 – 3 ปี) ซึ่งโครงการของ อก. ที่ได้รับการอนุมัติ คือ โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สู่อุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ระบบ การขนส่งและเคลื่อนที่อัจฉริยะ: ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Advanced Driver Assistance Systems: ADAS) ยานยนต์สมัยใหม่ ระบบราง ชิ้นส่วนอากาศยาน ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์สำหรับผู้สูงวัย (Capacity Building for Auto Parts Suppliers with Sustainable Development toward Transportation and Smart Mobility: ADAS system, new energy vehicle, rail system, aircraft parts, electronic parts, vehicles for aging people)
- สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ ประสงค์ให้ อก. ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ เพื่อส่งมอบงบประมาณดำเนินโครงการดังกล่าว อก. จึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ร่างบันทึกความเข้าใจฯ (ข้อเสนอในครั้งนี้) โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
วัตถุประสงค์: กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการงบประมาณของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากฝ่ายจีนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้กองทุนอย่างสูงสุด
หลักการเบื้องต้น
(1) มุ่งสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง
(2) เคารพกฎหมายและกฎระเบียบของจีนและไทย
(3) ร่วมกันติดตามประเมินโครงการและการใช้งบประมาณจากกองทุน
รายละเอียด: สำหรับงบประมาณ203,507 ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่เกิน 1.41 ล้านหยวน หรือประมาณ 7.86 ล้านบาท) ระยะเวลาดำเนินโครงการ:18 เดือน หน่วยงานดำเนินการ: สถาบันยานยนต์
การจัดสรรงบประมาณและการบริหารงบประมาณ
– ฝ่ายจีนจะจ่ายเงินงบประมาณเต็มจำนวนให้กับฝ่ายไทยภายใน 20 วันทำการ หลังจากที่ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
– ฝ่ายไทยโดย อก. (สถาบันยานยนต์) จะแจ้งการได้รับการจ่ายเงินอย่างเป็นทางการผ่านหนังสือทางการทูตหรือในรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 10 วันทำการ หลังจากได้รับการจ่ายเงิน
การบริหารจัดการโครงการ
ฝ่ายไทย [อก. (สถาบันยานยนต์)] จะดำเนินการ ดังนี้
(1) ใช้มาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมในการกำหนดความรับผิดชอบของหน่วยงานดำเนินโครงการ รวมทั้งให้แนวทางและกระตุ้นให้หน่วยงานดำเนินโครงการดำเนินตามแผน ระยะเวลา และงบประมาณของโครงการ ทั้งนี้ ให้ถือว่าวันที่ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ เป็นวันเริ่มต้นโครงการ
(2) แจ้งฝ่ายจีนหากมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนัยสำคัญในการดำเนินโครงการในระยะเวลาที่เหมาะสม
(3) แจ้งสถานะการดำเนินโครงการ ความก้าวหน้าของโครงการ ความสมบูรณ์ของเป้าหมายโครงการที่กำหนดในแต่ละระยะและการใช้ประโยชน์ของเงินงบประมาณ ตลอดจนส่งเสริมการรับรู้ของสาธารณะและเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการและกองทุน รวมทั้งแบ่งปันผลการประชาสัมพันธ์และผลงานด้านการทูตสาธารณะให้กับฝ่ายจีนทราบตามเวลาที่เหมาะสม
การกำกับดูแลและการตรวจสอบ
(1) ฝ่ายไทยจะให้แนวทางและดูแลการตรวจสอบด้วยตัวเองในเรื่องความก้าวหน้าของโครงการ ประสิทธิภาพของการดำเนินโครงการและการใช้งบประมาณให้เป็นไปตามข้อกำหนด และจะแจ้งฝ่ายจีนทราบในระยะเวลาที่เหมาะสม
(2) ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันสุ่มตรวจสอบการดำเนินโครงการบนพื้นฐานของความเห็นพ้องร่วมกัน
(3) ปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการจะได้รับการแก้ไขผ่านการหารืออย่างฉันมิตร
การประเมินผล
(1) ฝ่ายไทยจะจัดทำรายงานผลการดำเนินโครงการเมื่อเสร็จสิ้นแล้วรวมทั้งดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หลังโครงการเสร็จสมบูรณ์ และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ฝ่ายจีนเป็นลายลักษณ์อักษร
(2) งบประมาณส่วนที่เหลือจะต้องนำส่งคืนให้แก่ฝ่ายจีนภายใน 3 เดือนหลังจบโครงการ
ผลการบังคับใช้และระยะเวลาการมีผลบังคับใช้
บันทึกความเข้าใจฯ ไม่ก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายต่อทั้งสองฝ่ายและไม่เป็นสนธิสัญญาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีผลบังคับใช้
(1) ในวันที่ลงนามและจะมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 5 ปี และจะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นเวลาอีก 5 ปี
(2) การสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ จะไม่กระทบต่อการดำเนินกิจกรรม/โครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ
การทบทวนและการแก้ไขเพิ่มเติม
ให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะมีผลหลังจากวันที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันผ่านการปรึกษาหารือ
- อก. แจ้งว่า การดำเนินโครงการข้างต้น (ตามข้อ 2) จะเป็นกลไกในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างกันของประเทศสมาชิกในกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างหน่วยงานปฏิบัติอันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตในอนุภูมิภาค ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความเห็นชอบการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศในการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2547 (เรื่อง แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ)
สรุปรายละเอียดโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สู่อุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ระบบการขนส่งและเคลื่อนที่อัจฉริยะ: ระบบขับขี่อัตโนมัติ (ADAS) ยานยนต์สมัยใหม่ ระบบราง ชิ้นส่วนอากาศยาน ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์สำหรับผู้สูงวัย
วัตถุประสงค์:ประเมินความสามารถเพื่อเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ระบบการขนส่งและเคลื่อนที่อัจฉริยะ ประกอบด้วย ยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ระบบขับขี่อัตโนมัติ (ADAS) ระบบราง ชิ้นส่วนอากาศยาน ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์สำหรับผู้สูงวัยโดยมีประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ไทยและเวียดนาม โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีจากจีน
กิจกรรม: (1) ดำเนินการศึกษาและเก็บข้อมูลในเวียดนาม (2) จัดการการศึกษาดูงานในจีนโดยฝ่ายไทยและเวียดนาม (3) จัดการสัมมนานานาชาติเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีจากจีน ณ ประเทศไทย และ (4) ประเมินผลการดำเนินโครงการ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ:
– เสริมสร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานเพิ่มศักยภาพด้านการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารโดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป รวมถึงความสามารถในการแข่งขัน และในสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง
– ส่งเสริมการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรมระหว่างสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง ในสาขายานยนต์ระบบการขนส่งและเคลื่อนที่อัจฉริยะ
– ตอบสนองต่อปฏิญญาซานย่าในด้านการขยายความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิต
– สอดรับกับปฏิญญาพนมเปญในด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งแถลงการณ์ร่วมในความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิต เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง ให้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาคและโลก
ผู้ได้รับประโยชน์:เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ/ภาควิชาการ ในสาขายานยนต์ระบบการขนส่งและเคลื่อนที่อัจฉริยะในประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง ได้แก่ ไทย เวียดนาม และจีน
หน่วยงานดำเนินการ: สถาบันยานยนต์