คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดสาขาใหม่ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล COMPUTER ENGINEERING & DIGITAL TECHNOLOGY (CEDT) ที่แตกต่างไปจากการเรียนตามหลักสูตรทั่วไป โดยมุ่งเน้นการผลิตกำลังคนดิจิทัลคุณภาพสูงจำนวนมากถึง 300 คนต่อรุ่น เพื่อตอบสนองต่อความขาดแคลนอย่างหนักของประเทศ นับเป็นครั้งแรกในการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรของวงการศึกษาไทย ที่ต้องปรับตัว ให้เกิดความแตกต่าง และตอบโจทย์ของโลกยุคใหม่ ที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรม
เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรมและผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถเฉพาะด้านตามความต้องการของภาคเอกชน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงร่วมกับกว่า 30 บริษัทชั้นนำ ภาคเอกชน เพื่อให้การจัดการศึกษาหลักสูตร Sandbox ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล เมื่อเร็วๆ นี้
การลงนามข้อตกลงนี้จะทำให้การเรียนในหลักสูตร ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง โดยการทำหลักสูตรแบบ Co-Creation ที่บริษัทเอกชนจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาหลักสูตรอย่างใกล้ชิด ใน 5 ด้าน ได้แก่
- การฝึกงานในทุกช่วงชั้นปี ตั้งแต่ปีที่ 1 จนถึงปีที่ 4
- การเสนอหัวข้อและร่วมพัฒนาโครงงานเพื่อให้นิสิตได้ฝึกประสบการณ์จากปัญหาจริงในภาคอุตสาหกรรม และได้รับคำแนะนำจากภาคอุตสาหกรรมโดยตรง
- การเปิดสอนวิชาเลือกที่ทันสมัยและจำเป็นต่อการทำงานจริงในภาคเอกชน โดยบริษัทร่วมเป็นวิทยากรและพี่เลี้ยง
- การจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนเป็นสำคัญ
- การให้ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงหลักสูตรอย่างรวดเร็วและก้าวทันต่อเทคโนโลยีในแต่ละปีการศึกษา
สำหรับองค์กรความร่วมมือที่เข้าร่วมพิธีลงนามล้วนเป็นองค์กรขนาดใหญ่และองค์กรมหาชน เช่น บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน), บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน), บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด, บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีนเนอร์ยี่ เทคโนโลยี จำกัด
กลุ่มธนาคารและการเงิน เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
องค์กรนานาชาติ เช่น บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด, บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด, บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด
องค์กรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ บริษัท บล็อคฟินท์ จำกัด, บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด, บริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด, บริษัท ฟิน อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด, บริษัท ฟอร์วิซ จํากัด, บริษัท ไฮฟ์กราวนด์ จำกัด, บริษัท จั๊ม เอไอ จำกัด, บริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มายคอร์สวิลล์ จำกัด, บริษัท โอโบตรอนส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท โอโบดรอยด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ออเรนจ์แคป อินโนเวทีฟ จำกัด, บริษัท เพลย์ทอเรียม โซลูชันส์ จำกัด, บริษัท สคูลดิโอ จำกัด, บริษัท ซอฟต์สแควร์ 1999 จำกัด, บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด, บริษัท เซตตะซอฟต์ จำกัด, บริษัท แอ็คโคเมท จำกัด, และองค์กรอื่นๆ รวมกว่า 30 บริษัท
ศ.ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า หลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นรากฐานที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน สถานประกอบการต้องการกำลังคนด้านดิจิทัลจำนวนมาก ที่มีความรู้ในหลากหลาย และสามารถผสมผสานทักษะการทำงานและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และก้าวทันกับเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จึงได้เปิดหลักสูตรนี้ขึ้นมาตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ได้รับการอนุมัติหลักสูตร ภายใต้กรอบนโยบายการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา (Higher education sandbox) และเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงตามความต้องการของประเทศจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความร่วมมือครั้งนี้ในส่วนของภาคเอกชนทุกบริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมลงนามความร่วมมือนี้ เนื่องจากในปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมยังขาดแคลนบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจำนวนมากและเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน หลักสูตรใหม่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพัฒนาขึ้นนี้สามารถตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมได้จริง โดยภาคเอกชนที่เข้าร่วมความร่วมมือเชื่อว่าจะสามารถผลิตบัณฑิตคุณภาพสูงจำนวนมากและปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว โดยบัณฑิตเหล่านี้จะเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญต่อองค์กรภาคเอกชนต่อไป
ผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้ จะมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ วิเคราะห์ และสร้างโปรแกรมประยุกต์ของระบบซอฟต์แวร์ การวิเคราะห์ข้อมูล ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายกลุ่มเมฆ รวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ และสามารถประยุกต์หลักการทางวิศวกรรมเพื่อการแก้ปัญหาในสาขาอาชีพอื่นด้วยคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี