งานประชุม TP-Link APAC Enterprise Partner Summit 2024 จัดครั้งแรกในไทย มีพันธมิตรธุรกิจเข้าร่วมงานกว่า 800 คน


กรุงเทพฯ :  บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอเชีย – แปซิฟิก จำกัด ผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายสำหรับธุรกิจองค์กร (SMB) และระบบเฝ้าระวังความปลอดภัย จัดงานประชุม TP-Link APAC Enterprise Partner Summit 2024 ครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงานมีการแสดงนวัตกรรมและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเครือข่ายและระบบเฝ้าระวังความปลอดภัย โดยมีผู้บริหารระดับสูง ร่วมด้วยพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมงานกว่า 800 คน  ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

Brian Dong รองประธานบริษัท ทีพี-ลิงค์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า การจัดประชุม TP-Link APAC Enterprise Partner Summit 2024 ครั้งนี้ เป็นการจัดประชุมครั้งแรกในประเทศไทยที่รวบรวมพันธมิตรธุรกิจ Business to Business (B2B) ในระดับเอเชียแปซิฟิกเพื่อใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินธุรกิจและเรียนรู้กลยุทธ์สู่ความสำเร็จจากการนำผลิตภัณฑ์ TP-Link ไปใช้ในโครงการต่างๆ สามารถตอบโจทย์การทำงานในสถานการณ์ต่างๆ (Product Scenario) ได้อย่างยืดหยุ่นและยังเป็นการรับรู้เสียงผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ  TP-Link

 

ปัจจุบันเป็นยุคของ AI โดยปีที่ผ่านมา TP-Link ได้ย้ายศูนย์ออกแบบผลิตภัณฑ์ไปยังแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเพื่อมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีล่าสุดเข้ามาผนึกรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ อีกทั้งจัดหาและทดสอบเทคโนโลยีให้กับพันธมิตรและลูกค้า สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้ง VIGI และ OMADA ล้วนมีคุณสมบัติเทคโนโลยี AI มาในอุปกรณ์ โดยล่าสุด บริษัทยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ OMADA ที่ใช้ประสิทธิภาพของ AI เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Cloud ซึ่งจะให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงให้กับลูกค้า พร้อมเสริมด้วยคุณสมบัติการทำงานใหม่ๆ

ปัจจุบัน AI เข้ามาอยู่ในทุกอุปกรณ์ (Devices) ซึ่งจะเห็นการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ จากผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ TP-Link มองว่า AI คือเครื่องมือพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ที่จะมาช่วยยกระดับอุปกรณ์ ไม่ว่าจะใช้งานกับเครือข่ายแบบมีสาย หรือ Wi-Fi สร้างโอกาสมหาศาลให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกันกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ ยังรวมไปถึงผู้ใช้งานทั่วไป ทั้งภาคการศึกษา บริการภาครัฐ เป็นต้น และจากประสิทธิภาพการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น การตรวจจับและประมวลผลรวดเร็วขึ้น ลดการใช้บุคลากรในการดูแลจัดการระบบ เป็นต้น

 

 

ด้านChen Kun กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ธุรกิจในตลาดประเทศไทยว่า TP-Link เน้นขับเคลื่อนการเติบโตโดยแบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่าย OMADA มีการกำหนด Brand Strategy ไว้ เพื่อให้ครอบคลุมการหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายและการวางตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน และกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจระดับ  SMEs และธุรกิจระดับ SMBs ที่ทำการตลาดมาก่อนหน้า บริษัทฯ มุ่งชูจุดขายเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่ใช้งานง่าย ( Easy to use) และมีราคาที่เหมาะสม

รวมทั้ง การเปิดตัว OMADA Pro เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) ซึ่งจากการวิเคราะห์ตลาดพบว่าลูกค้าองค์กรใหญ่ มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีโซลูชันที่ดี และสามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานขององค์กร ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ดีต้องถูกขับเคลื่อนด้วยโซลูชันที่ดีจะทำให้มีข้อได้เปรียบ และผลิตภัณฑ์ของ TP-Link มีจุดแข็งด้านนี้อยู่แล้ว

 

ส่วนการผลักดันตลาด OMADA Pro จะทำควบคู่กันไป ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย โดยจะมีการเพิ่มแรงจูงใจให้กับพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย เพื่อนำผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ไปต่อยอดสร้างโครงการใหม่ๆ ขยายธุรกิจใหม่ เพิ่มโอกาส รวมทั้งแหล่งรายได้ใหม่ให้กับพันธมิตรได้อีกด้วย อีกทั้งการที่ TP-Link มีแพลตฟอร์มการจัดการแบบรวมศูนย์ ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง และความพร้อมเหล่านี้สนับสนุนให้บริษัทสามารถให้บริการกับลูกค้าได้ทั่วถึง ซึ่งอยู่ในแผนการตลาดประเทศไทยภายในสิ้นปีนี้

 

งานประชุม TP-Link APAC Enterprise Partner Summit 2024 ครั้งนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในโครงการเด่น ๆ จากพันธมิตรในหลายประเทศที่นำโซลูชันจากผลิตภัณฑ์ OMADA และ VIGI ไปติดตั้งและให้บริการลูกค้าในหลากหลายภาคธุรกิจ ได้แก่ โครงการที่พักอาศัยระดับสูงในออสเตรเลีย การติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และระบบเฝ้าระวังความปลอดภัย สำหรับ Business Apartment ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการติดตั้งระบบ CCTV และ ผลิตภัณฑ์ OMADA เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับโรงเรียนสำหรับเด็กเล็ก ที่อยู่ภายใต้เครือข่ายการบริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการนี้ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพรักษาความปลอดภัยสำหรับเด็ก เป็นต้น

ในงาน TP-Link APAC Enterprise Partner Summit 2024 ครั้งนี้ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งพาร์ทเนอร์ ในประเทศไทย และต่างประเทศ เข้าร่วมงาน อาทิ The Engineering Craft จากประเทศไทย, Infinity Networks Security Sdn Bhd จากประเทศมาเลเซีย, Tecco จากประเทศออสเตรเลีย, Jnets Co,.Ltd จากประเทศญี่ปุ่น, Ammel Technology จากประเทศสิงคโปร์, Fore Solutions Private จากประเทศอินเดีย, และ t’order จากประเทศเกาหลีใต้


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save