สมาคมสื่อมวลชนไทย-จีน จัดเสวนา THAILAND & CHINA 2025 มิติสัมพันธ์อนาคตร่วมกัน จับตาการค้าการลงทุนปี’68


สมาคมสื่อมวลชนไทย-จีน ร่วมกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ จัดงานเสวนา “THAILAND & CHINA 2025 ไทย-จีน มิติสัมพันธ์อนาคตร่วมกัน” จับตาการค้าการลงทุนปี 2568 เมื่อสองมหาอำนาจเปิดศึกการค้ารอบใหม่ โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์เปิดเวทีเดินหน้าด้วยมิตรภาพ ระดมผู้นำความคิดถกมิติความสัมพันธ์แสวงหาอนาคตร่วมในโอกาสพิเศษ 50 ปีการทูตฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 16 อาคาร CP ALL ACADEMYสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถนนแจ้งวัฒนะ

ด.ร.พงศกร อรรณนพพร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การค้าไทย-จีน บนหลักมิตรภาพ มาตรฐาน เท่าเทียม เป็นธรรม” โดยกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิชัย นริพทะพันธุ์ ฝากย้ำและมีความเข้าใจการค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไทย-จีน มีความผูกพันและมิตรภาพที่ใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี พ.ศ. 2518 ซึ่งจะครบ 50 ปี ในปีหน้า แต่แท้จริงแล้ว ไทยและจีนมีสัมพันธไมตรีและติดต่อค้าขายกันมานานกว่า 700 ปี ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ช่วยให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ที่ไทยได้ส่งออกไปขายยังประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ และไทยก็สั่งสินค้าจากจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก จะเห็นว่าไทยและจีน เป็นคู่ค้าขายเหมือนเพื่อนกัน

อีกทั้งภาพรวมสถานการณ์การค้าและการลงทุนไทย-จีน มีการเติบโตเป็นอย่างต่อเนื่อง โดยจีนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทย ต่อเนื่องติดต่อกัน 12 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน มีมูลค่าถึง 94,919.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.39 ล้านล้านบาท) ต่อขยายตัว 8.2%

ส่วนการลงทุน ไทยเป็นตลาดศักยภาพที่เหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้จีนหันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ปี 2567 จีนขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 554 โครงการเพิ่มขึ้น 116.4% มูลค่าเงินลงทุน 114,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2%

ด้านการท่องเที่ยว จีนเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย ในปี 2567 มีสัดส่วนประมาณ 20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด เนื่องจากมาตรการวีซ่าฟรีของทั้ง 2 ประเทศ ช่วยผลักดันให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าหลักมิตรภาพ เป็นเรื่องที่สำคัญ นำมาซึ่งการค้าการลงทุนที่ดีต่อกัน

“เพื่อยกระดับความสัมพันธ์อันดี แสวงหาความร่วมมือที่เป็นร่วมประโยชน์ร่วมกัน กระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมโยงเพื่อเปิดประตูสู่การค้าการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทย-จีน บนหลักมิตรภาพ มาตรฐาน เท่าเทียม และเป็นธรรม โดยกระทรวงพาณิชย์ มีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในจีน 7 แห่ง ซึ่งจะเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ต่อไป” ดร.พงศกร กล่าว ด้านชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมสื่อมวลชนไทยจีน กล่าวว่า ปี2568 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไม่มากก็น้อย เนื่องจากการเปลี่ยนตัวผู้นำของสหรัฐอเมริกาจากนายโจ ไบเดน เป็นโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งพร้อมนโยบายสงครามการค้ารอบใหม่กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะที่ปี 2025 ก็เป็นปีเป้าหมายแห่งนโยบาย Made in China 2025 ที่จีนต้องการพิสูจน์ความสำเร็จในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างประเทศ

“จีนคือคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยแต่ไทยขาดดุลจีนมหาศาล สหรัฐอเมริกาคือคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยแต่ไทยเกินดุลสหรัฐฯไม่น้อย สองมหาอำนาจทำสงครามการค้ากันมา 8 ปี ส่งผลทั้งเสียและดีกับไทย แต่ศึกรอบใหม่อาจไม่เหมือนเดิม เพราะสถานการณ์แตกต่าง ระเบียบโลกเก่ากำลังถูกทดสอบ คำถามคือรัฐบาลไทยจะบริหารจัดการด้านการค้า-การลงทุนกับจีนอย่างไรให้คนไทยและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุดโดยยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-จีน ในปีที่ 50 แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต” ชัยวัฒน์ กล่าว

รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า พัฒนาการและอิทธิพลของทุนและสินค้าจีนในตลาดโลก อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปี 2567 สำหรับผู้ที่มองโลกในแง่ดี ปัญหาต่างๆสามารถก้าวข้ามอุปสรรนำไปสู่โอกาสที่ดีกว่า และบางครั้งก็อาจจะเป็นปีที่ท้าทาย เพราะจะมีอุปสรรคและโอกาสใหม่รออยู่ข้างหน้า แต่สำหรับประเทศไทย จีนที่มีประวัติศาสตร์ทางการค้ากันมายาวนาน ความสำเร็จในการขับเคลื่อนและพึ่งพาความสำเร็จของทีม ย่อมมีผลดีต่อประเทศไทย

ขณะที่การลงทุนของจีนในต่างประเทศ ปี 2545 ประมาณ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ 5 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยการลงทุนของจีนในต่างประเทศเกิน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี การลงทุนสะสม 2 ทศวรรษ 2.75 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนบริษัทจีนลงทุนในต่างประเทศ 4.7 หมื่นบริษัท ใน 190 ประเทศ ขณะที่การลงทุนผ่านโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” 1.6 หมื่นบริษัท หรือ 1 ใน 3 ของบริษัทจีนที่ลงทุนทั่วโลก

อย่างไรก็ตามแม้จีนจะเป็นผู้ส่งออกอันดับ1ของโลกแต่ในช่วงที่ผ่านมาจีนพึ่งพาสินค้าอุตสาหกรรมมากถึง 40% ในขณะที่สหรัฐอเมริกาพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมเพียง 18 % โดยหันไปเน้นการส่งออกภาคบริการ เช่นบริการของแพลตฟอร์มต่างๆ เมื่อเกิดสงครามการค้าจีนจึงได้รับผลกระทบพอสมควร ปัจจุบันจีนจึงพยายามลดการพึ่งพาภาคอุตสาหกรรม หันไปสนับสนุนสินค้าบริการมากขึ้น เช่น การให้บริการแพลตฟอร์ม การท่องเที่ยว เฮลท์แคร์ ผลิตภาพยนตร์ ละคร ส่งออกไปขายทั่วโลก ทำให้ไทยต้องเตรียมปรับตัวเพื่อหันมาสร้างงานบริการค้าขายกับจีนมากขึ้น

จากนั้นจะเป็นการเสวนาเรื่อง “มิติสัมพันธ์ไทยจีน ในปี2025 ” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิได้แก่ ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทยจีน พล..สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทยจีน ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

หวัง คุน ประธานบริษัท จุนยู่ เหิงเย่(เฉิงตู) บิสิเนส แมเนจเม้นท์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ไทยอร่อย” สินค้าไทยที่ส่งไปจำหน่ายในจีน กล่าวว่า ไม่ว่าปัญหาจากสงครามการค้า หรือไม่ว่าสถานการณ์ในโลกจะเป็นอย่างไร อาหารไทยก็ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน คนจีนต้องการทำมาค้าขายกับคนไทย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ คือผู้ประกอบการจีนมีสินค้าไทยไปขายให้คนจีน ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยก็มีตลาดส่งออกมากขึ้น อย่าง “ไทยอร่อย” พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีน “ทุเรียน-ข้าวหอมมะลิ” เป็นสินค้ายอดนิยมที่ไม่มีชาติไหนสู้ได้ และตนอยากฝากบอกผู้ประกอบการไทยหรือคนไทย หากคิดว่ามีผลิตภัณฑ์อาหารอร่อย ต้องการส่งไปขายในจีน ติดต่อผ่านทางสมาคมสื่อมวลชนไทย-จีนก็ได้ บริษัทฯ พร้อมเข้ามาเจรจาและอาจได้ทำการค้าร่วมกันในอนาคต


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save