เชอริล ยอง หัวหน้าฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ Cheryl Yong Head of Marketing APAC South Regional กล่าวถึงความต้องการของเครื่องดื่มที่มีเนื้อสัมผัสได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังที่เห็นว่าเครื่องดื่มในยุคใหม่ที่ผู้บริโภคต้องการนั้นมักจะมีการผสมบางอย่างลงไปในเครื่องดื่ม เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสของเครื่องดื่ม เช่น ชานมไข่มุก เยลลี่ โฟมนม ชิ้นเนื้อผลไม้และอื่นๆ
ในเอเชียแปซิฟิก ตลาดชานมไข่มุกเติบโตมาก แบรนด์ชั้นนำ เช่น Gong Cha li ho Cha time, Koi eLife ร้านชาเหล่านี้เติบโตขึ้น 8-10 ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตอีก 7-9%ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า และนี่เป็นผลมาจากการขยายตัวของร้านชาจากจีนและไต้หวัน
แต่ละร้านจะนำเสนอนวัตกรรมระดับใหม่ๆ ไม่เหมือนใครในเมนู โดยเพิ่มเนื้อสัมผัส รสชาติ และท็อปปิ้ง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ไข่มุก” จากเครื่องดื่มดั้งเดิมขยายไปสู่เครื่องดื่มที่เพิ่มเติมประสบการณ์มากขึ้น เนื้อสัมผัสที่มากขึ้น มีชั้นครีม มีส่วนผสมที่สามารถเคี้ยวได้ที่หลากหลายมากขึ้น
แม้ว่าการรับรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับชาไข่มุกจะถือว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แต่แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มเสนอท็อปปิ้งเพื่อสุขภาพ เช่น เมล็ดเจีย ซีเรียล ข้าวโอ๊ต ว่านหางจระเข้ นาตาลี โกโก้ และเยลลี่สมุนไพร เพื่อมอบประสบการณ์ที่สมดุลทั้งด้านรสชาติและสุขภาพได้แล้ว
ปัจจุบัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ดื่มชาไข่มุกอย่างน้อย 3 ครั้งต่อเดือน ในขณะที่คนไทยและฟิลิปปินส์ดื่มบ่อยกว่านั้น ข้อมูลระบุว่าคนไทยดื่มชาไข่มุก 6 แก้วต่อเดือน จากปัจจัยนี้ทำให้ชาไข่มุกมียอดจำหน่ายสูงถึง 3.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยอินโดนีเซียเป็นผู้นำที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยไทยที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากมีทางเลือกอื่นที่ผลิตภัณฑ์นี้มีราคาถูกลง แต่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันได้ ขณะที่กลุ่มเครื่องดื่มหลากหลายรสสัมผัส (Multi Sensory) ราคาอยู่ระหว่าง 1.80- 3.50 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงมาก
เฟือง เหงียน ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการตลาด กลุ่มบริษัท TH กล่าวว่า TH Group เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มและอาหารชั้นนำของเวียดนาม ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมกับ SIG ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ประเภท Drink Plus ที่เติมชิ้นเนื้อลงในเครื่องดื่ม เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างแท้จริงสู่ตลาด โดยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับมื้ออาหารด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ธัญพืช ถั่ว ประเภทวอลนัท และแมคคาเดเมีย แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ให้คุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติมเท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อเทรนด์ใหม่ เครื่องดื่มที่สะดวกและสามารถรับประทานเป็นของว่างได้อีกด้วย เทคโนโลยีเครื่องดื่มนี้ช่วยให้เปลี่ยนนมให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น โดยผสมผสานคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์นมเข้ากับประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งเราเชื่อว่าจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้ดี
“ Drink Plus ทำให้เราสามารถนำเสนอ ผลิตภัณฑ์นมที่ส่วนผสมที่สร้างประสบการณ์หลากหลายสัมผัส ทำให้เราเป็นแบรนด์แรกๆใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดนี้ไปยังผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของ TH Group ที่เน้นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีความสะดวกสามารถพกพาไปดื่มได้ทุกที่ สิ่งนี้จะตอกย้ำความเป็นผู้นำของเราในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และนวัตกรรมของเอสไอจี Drink Plus จะช่วยให้เราสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอาหารและเครื่องดื่มแบบพร้อมทานได้” เฟือง เหงียน กล่าว
เอริค กอง ผู้จัดการโรงงานนำร่องในศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์เอสไอจี เมืองซูโจว ประเทศจีน กล่าวว่าการมีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติอยู่ในเครื่องดื่ม เป็นวิธีที่น่าสนใจในการทำผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่ม ตอนนี้คุณอาจจะกำลังคิดว่าจะปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของคุณได้อย่างไร
ศูนย์วิจัยผลิตภัณฑ์ของเอสไอจีที่ซูโจว ประเทศจีน เป็นสถานที่วิจัยที่สามารถช่วยเหลือธุรกิจได้ ตั้งแต่การเริ่มแนวคิดไปจนถึงกระบวนการและเทคโนโลยีในการผลิตเครื่องดื่มจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ออกมา สามารถเลือกผลไม้เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค เช่น พีช แอปเปิ้ล บลูเบอร์รี่ และโกโก้ มาทดสอบ หรือจะเติม ซีเรียล ข้าวโอ๊ต และข้าวโพด ในผลิตภัณฑ์นมก็สามารถกระตุ้นความต้องการผู้บริโภคได้มากขึ้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเอสไอจีได้ค้นพบแนวคิดที่น่าสนใจมากขึ้น เช่น การผสมผลไม้กับซีเรียลเพื่อให้มีคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพมากขึ้น เลือกลูกแพร์กับเครื่องดื่มที่มีรสชาติแตกต่างกันเพื่อเพิ่มความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นเหมือนคุณได้ดื่มผลไม้จริง ให้มีรสชาติที่เคี้ยวได้มากขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีการบรรจุแบบเปิดบรรจุภัณฑ์ และเอสไอจีดริงค์พลัส จึงสามารถบรรจุส่วนผสมที่ได้อย่างยืดหยุ่นและหลากหลายในทุกขนาดของผลิตภัณฑ์ ด้วยอัตราการศูนย์เสียต่ำเพียง 0.5%ทำให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีอนุภาคได้อย่างยืดหยุ่นในทุกแพกเกจ
นอกจากนี้ อัตราการเสียของเราน้อยกว่า 0.5% และความเร็วในการบรรจุที่ 24,000 แพคต่อชั่วโมง และยังสามารถเปลี่ยนขนาดของบรรจุภัณฑ์แล้วผลิตต่อได้ทันทีในเวลาไม่กี่นาที จึงสามารถตอบโจทย์การผลิตแบบหลายขนาดในเครื่องเดียว ดังนั้น ระบบของเอสไอจีจึงเป็นโซลูชันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณผลิตสินค้าพรีเมี่ยมที่มีชิ้นเนื้อผสมในเครื่องดื่มได้แน่นอนว่าระบบการบรรจุเป็นส่วนสำคัญมากในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค
นอกจากนั้น เรายังต้องดูแลปัจจัยสำคัญ แนวคิด และการกำหนดสูตรด้วย ซึ่งเป็นรากฐานในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี ประสิทธิภาพของอนุภาคในผลิตภัณฑ์ เช่น การลอยหรือการตกตะกอน ทำให้ต้องออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพระบบต้นน้ำ เช่น ระบบปั๊ม เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน ถังเก็บเครื่องดื่มที่สามารถทำให้เครื่องดื่มมีการแขวนลอยที่ดีพร้อมบรรจุ เป็นต้น โดยศูนย์วิจัยเอสไอจีพร้อมให้บริการ
ศูนย์ทดสอบการบรรจุผลิตภัณฑ์ SIG สามารถช่วยได้ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการออกแบบและปรับแต่งสูตร การจัดเตรียมตัวอย่างบางส่วนสำหรับการทดสอบในห้องปฏิบัติการ จากนั้นเราสามารถเลือกตัวอย่างที่ดีกว่าเพื่อทำการทดสอบการบรรจุเพื่อดูกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การผสม กระบวนการฆ่าเชื้อแบบUHT และการบรรจุปลอดเชื้อขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับการผลิตในเชิงพาณิชย์ที่โรงงาน
ดังนั้นศูนย์วิจัยเอสไอจีที่ซูโจว จึงเปลี่ยนแนวคิดให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์จริง ต่อไปนี้คือ สองตัวอย่างที่เราทำก่อนที่จะปรุงนมด้วยข้าวโอ๊ต โดยสามารถใช้ข้าวโอ๊ตเบลค และยังสามารถใช้อนุภาคข้าวโอ๊ตที่มีรสชาติถูกกว่า หลังจากการเติมอากาศและเป็นเนื้อเดียวกันจะพบกับข้าวโอ๊ตแล้วจึงผ่าน UHT เพื่ออุ่นขั้นสุดท้ายพร้อมกัน เราเรียกกระบวนการนี้ว่ากระบวนการสตรีมเดียว UHT หนึ่งถังและถังปลอดเชื้อหนึ่งถัง
อีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงเห็น คือโยเกิร์ตกับผลไม้ ซึ่งเป็นการใช้งานสตรีมคู่ที่ดี หมายถึงการผลิตโยเกิร์ตและผลไม้โดยใช้ UHT สองชนิดและแบบปลอดเชื้อสองชนิด โดยโยเกิร์ตและผลไม้จะผ่าน UHT ที่แตกต่างกันแยกกันและผสมเข้าด้วยกันภายใต้สภาวะที่ติดเชื้อก่อนการบรรจุ ซึ่งจะทำให้ได้ความสม่ำเสมอที่ดีและอัตราความเสียหายต่อผลไม้ต่ำ