NIA เปิดตัว “The Founder II” ชูเป็นต้นแบบนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการยุคใหม่ใช้สร้างงาน- สร้างรายได้


NIA เปิดตัว "The Founder II" ชูเป็นต้นแบบนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการยุคใหม่ใช้สร้างงาน- สร้างรายได้

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือNIA  เปิดตัว “The Founder II” เพื่อนำเสนอมุมมองของบุคคลต้นแบบผู้ก่อตั้งธุรกิจนวัตกรรมในประเทศไทย ที่สามารถนำพาธุรกิจอยู่รอดในภาวะวิกฤต จำนวน 25 ราย เริ่มจาก Pandemic ผู้ก่อตั้งองค์กรที่สามารถปรับตัวได้ดีในช่วงวิกฤต COVID– 19  Climate Change ผู้ก่อตั้งองค์กรที่ตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และ Economic Crisis ผู้ก่อตั้งองค์กรที่มีแนวทางการดำเนินงานสอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ หวังเป็นต้นแบบทางนวัตกรรมให้กับภาคผู้ประกอบการยุคใหม่สร้างงานและสร้างรายได้

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า NIA มีเป้าหมายในการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็นประเทศแห่งนวัตกรรม โดยมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ภาพรวมทางนวัตกรรมของประเทศก้าวสู่ 30 อันดับแรกของโลก การที่นวัตกรรมไทยจะสามารถพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดได้นั้น สิ่งสำคัญคือต้องอาศัยความเข้มแข็งจากภาคธุรกิจเอกชนที่มีนวัตกรรมร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนเพราะภาคเอกชนมีศักยภาพทั้งด้านงบประมาณ บุคลากร เทคโนโลยีและคู่ค้าจากต่างประเทศที่นำเทคโนโลยีมาร่วมในกระบวนการผลิต กระบวนการที่สามารถเปลี่ยนแปลงบริบทของเมือง หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแต่ละปีจำนวนมหาศาล

ในปี พ.ศ. 2563 – 2564 ที่ผ่านมานั้นถือได้ว่าภาคธุรกิจเอกชนไทยมีการปรับตัวด้านความสามารถทางนวัตกรรมในระดับที่ดี มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายมวลรวมภายในประเทศสำหรับการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) เป็นอันดับ 43 ของโลก และส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ เป็นอันดับ 1 ของโลก 

(จากการจัดอันดับขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก : WIPO) และค่าเฉลี่ยยังคงอยู่ที่ 1% ของ GDP สะท้อนให้เห็นการลงทุนของภาคดังกล่าวที่ต้องการจะเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจด้วยการพัฒนานวัตกรรม ให้มีแต้มต่อทางธุรกิจที่นำมาใช้ในการสร้างทางรอดและการแข่งขันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาให้นวัตกรรมที่มีอยู่ในภาคธุรกิจนำไปช่วยขับเคลื่อนประเทศก็ยังมีอยู่ เนื่องจากการลงทุนนวัตกรรมต้องใช้จำนวนงบประมาณจำนวนมาก ขาดสถาบันการศึกษาสนับสนุนการเรียนการสอนเฉพาะ ขาดบุคลากร ขาดองค์ความรู้ ขาดเทคโนโลยีผู้เชี่ยวชาญและการไม่เปิดเผยข้อมูลนวัตกรรมของภาคธุรกิจรายใหญ่ๆ ยังคงกระจุกตัวอยู่ ยากที่ผู้ประกอบการรายเล็กๆจะเข้าถึง โดยจากข้อมูลพบว่าผู้ที่เข้าถึงนวัตกรรมมีเพียงไม่ถึง 1% หรือ ประมาณ 30,000 คน จากกว่า 3,000,000 คน 

ดังนั้น NIA จึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้สื่อสารผ่านรูปแบบที่สร้างสรรค์ เพื่อลดช่องว่างถึงความเข้าใจในการนำนวัตกรรมมาใช้ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของความทันสมัยเพียงอย่างเดียว และต้องการชี้ให้เห็นว่านวัตกรรมไม่ใช่เรื่องไกลตัว เมืองไทยมีนวัตกรรมเป็นอย่างไร บริษัทที่ประสบความสำเร็จจากการนำนวัตกรรมมาใช้ มีขั้นตอนหรือกระบวนการที่สำคัญที่สามารถนำมาปรับใช้ในเชิงการผลิต หรือการบริการในรูปแบบไหน ซึ่งเชื่อว่าท้ายที่สุดเมื่อทำให้ภาพจำของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไป ก็จะเกิดเป็นแรงบันดาลใจ และทำให้บริษัทและแบรนด์นวัตกรรมของไทยนั้นมีความชัดเจนตามองค์ความรู้เดิมและมีองค์ความรู้ในการผลิตนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆรูปแบบเฉพาะคนไทยมากขึ้น” ดร.พันธุ์อาจ กล่าว

สำหรับการเปิดตัว The Founder II เป็นอีกภารกิจหนึ่งที่ทาง NIA หวังนำแนวทางการดำเนินธุรกิจของบุคคลต้นแบบที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทและผู้ก่อตั้งนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จในช่วงปกติและในช่วงวิกฤตมาร่วมถ่ายทอดแก่สาธารณชนผู้ประกอบการทุกๆราย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ สร้างรายได้และสร้างทางรอดให้กับธุรกิจของตนได้ในภาวะวิกฤต (Innovation in Time of Crisis) จำนวน 25 ราย โดยมีต้นแบบ 3 กลุ่มได้แก่ 1.Pandemic ผู้ก่อตั้งองค์กรที่สามารถปรับตัวได้ดีในช่วงวิกฤตCOVID– 19 2.Climate Change ผู้ก่อตั้งองค์กรที่ตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และ 3.Economic Crisis ผู้ก่อตั้งองค์กรที่มีแนวทางการดำเนินงานสอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ โดยผู้ก่อตั้งองค์กร (The Founder) ทั้ง 3 กลุ่มถือเป็นต้นแบบแห่งนวัตกรรมเชิงความคิด ที่จะทำให้เห็นตัวอย่างแนวคิดและรูปแบบที่ทำให้สินค้าและการบริการสามารถอยู่รอดได้ในภาวะที่ทุกคนต้องเผชิญร่วมกัน พร้อมเป็นกรณีศึกษาแบบไทย จากแต่เดิมที่มีแต่ตัวอย่างของโลกตะวันตกโดยนวัตกรรมเชิงความคิดสามารถนำมาผสมผสานกับนวัตกรรมแบบไทยที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะพื้นที่ เพื่อให้ทุกภาคส่วนพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด

ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงวิกฤตการระบาด COVID -19 ทุกคนต้องปรับตัวและต้องเผชิญสถานการณ์ดังกล่าวร่วมกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรได้รับความนิยมทั้งผู้ป่วยและไม่ป่วยต่างหาซื้อเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้หลายๆช่วงฟ้าทะลายโจรขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นตามกลไกของตลาด ดังนั้นบริษัทฯ จึงปรับตัวโดยผลิตฟ้าทะลายโจรรองรับ 

“สิ่งสำคัญที่ทางบริษัทฯมองเป็นอันดับแรกก็คือองค์กรจะปรับตัวได้อย่างไร และจะทำให้ฟ้าทะลายโจรเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือได้อย่างไร ซึ่งคำตอบก็คือการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ โดยบริษัทฯ มีการผสมผสานนวัตกรรมให้เหมาะสมกับศาสตร์แบบจีน และส่งนวัตกรรมผ่านอรรถประโยชน์ในเชิงการใช้ ให้เข้าถึงคนในสังคมที่มีความหลากหลาย เช่น ยาน้ำเบื้องต้นสำหรับเด็กและสมุนไพรสำหรับนักวิ่ง เป็นต้น นอกจากนี้ สิ่งที่ให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือหลักการคิด ที่ผสมผสานทั้งแบบคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่จากรุ่นต่อรุ่นรักษาคุณภาพการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัทฯ ไว้เพื่อตอบโจทย์ที่ผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากที่สุด” ชนรรค์ กล่าว

สรณัญช์ ชูฉัตร ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด

สรณัญช์ ชูฉัตร ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ต้องลบภาพจำหรือมุมมองที่ทุกคนมีต่อแบรนด์นวัตกรรมไทยก็คือ คนไทยไม่ได้ทำได้แค่เพียงส่วนประกอบของสินค้าและการบริการเท่านั้นแต่ต้องสร้างสินค้าและการบริการแบรนด์คนไทยให้เป็นที่ยอมรับให้ได้ เช่นในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไทยทั่วโลกยอมรับในเรื่องของการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และทำให้ทุกคนมีโอกาสใช้นวัตกรรมที่มีคุณภาพได้เช่นเดียวกัน 

สำหรับบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับทุกๆธุรกิจ แต่สิ่งที่บริษัทฯ พยายามมองหาคือจุดที่เป็นจุดเด่นของบริษัทฯ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความคิดในการสร้างสรรค์หรือพัฒนาสิ่งใหม่จนกลายเป็นนวัตกรรมที่ช่วยทำให้บริบทโลกดีขึ้น ส่วนในอนาคตบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายในฐานะแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารายแรกของไทยที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของโลกทั้งองค์ประกอบของรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสร้างพลังงานสะอาดให้ทุกคนเข้าใจและเข้าถึง รวมทั้งการพัฒนา Super App หรือเชื่อมต่อนวัตกรรมไปยังภาคท่องเที่ยว ภาคเกษตรกรรม และทำให้นวัตกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่เท่าเทียมทั้งกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

สุนทร เด่นธรรม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) 

สุนทร เด่นธรรม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจะก้าวสู่เป้าหมายที่แต่ละธุรกิจวางไว้ มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องให้ความสำคัญ แต่ภายใต้ภาวะวิกฤตสิ่งสำคัญที่สุดคือ Business Model Innovation เพราะในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลง การคิดหรือการแก้ไขปัญหาด้วยนวัตกรรมสามารถทำได้เร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุด ยิ่งในสถานการณ์โลกที่แข่งขันทางธุรกิจกันด้วยความรวดเร็วสิ่งที่ทุกองค์กรทุกบริษัทควรมีคือการคิดหรือทำอย่างแตกต่างสร้างนวัตกรรมของตนเองขึ้นมาใช้ดีกว่าซื้อนวัตกรรมจากต่างประเทศมาใช้ทั้งหมด ซึ่งได้เปรียบกว่าการจะไปแข่งขันในเรื่องต้นทุน ราคา และสามารถสร้างประสบการณ์และมูลค่าได้ยั่งยืนในทุกๆ มิติของสินค้าและบริการ 

โดยบริษัทฯ ได้นำความคิดทั้งหมดเหล่านี้มาขับเคลื่อนองค์กรจนปัจจุบันมีผู้ใช้บริการด้าน HR Solutions มากกว่า 3,000 องค์กร และแสดงให้เห็นว่าซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยคนไทยก็มีประสิทธิภาพ และทำให้ทุกคนมั่นใจในนวัตกรรมที่เป็นแบรนด์คนไทยยิ่งขึ้น 

“อย่างไรก็ตาม หากจะทำให้แบรนด์นวัตกรรมไทยทัดเทียมกับระดับโลกก็ต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และต้องรู้จักวิธีการทำให้แตกต่างอย่างมีสุนทรียภาพ ซึ่งส่วนนี้เชื่อว่าเป็นความถนัดของคนไทย และเชื่อว่าในอนาคตหากทุกๆธุรกิจทำได้จะได้เห็น Founder ที่เก่ง ๆ มากขึ้น”  สุนทร กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป หรือบุคคลที่สนใจสามารถดาวน์โหลดหนังสือ The Founder II อ่านได้ในรูปแบบ e- Book พร้อมรับชมนิทรรศการเสมือนจริงที่ https://thefounder.nia.or.th/ ได้ตั้งแต่วันนี้ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save