“NanoThailand 2025” จุดประกายพลังวิทยาศาสตร์ เปลี่ยนโลกด้วยนาโนเทคโนโลยี


ในยุคที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลก “นาโนเทคโนโลยี” ได้กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนอย่างเงียบ ๆ แต่ทรงพลัง ไม่ว่าจะอยู่ในหน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อโรค เสื้อผ้าที่ระบายอากาศและกันน้ำได้ดี ครีมกันแดดที่มีอนุภาคนาโนช่วยป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือแม้แต่ในอาหารเสริมและบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะที่ช่วยยืดอายุอาหาร ทั้งหมดนี้ล้วนมี “นาโนเทคโนโลยี” อยู่เบื้องหลัง

ด้วยศักยภาพดังกล่าว กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงมอบหมายให้ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. ร่วมกับ สมาคมนาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย จัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติด้านนาโนเทคโนโลยี “NanoThailand 2025” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ภายใต้แนวคิด “Revolutionizing the Future” เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ผู้นำนโยบาย และภาคอุตสาหกรรมจากทั่วโลก ในการต่อยอดผลงานวิจัยระดับจุลภาคสู่การเปลี่ยนแปลงระดับมหภาค ที่สร้างประโยชน์ได้จริงต่อเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน

ไฮไลท์สำคัญของานครั้งนี้ คือการเปิดตัวครั้งแรกของ รางวัล Thailand Nanotechnology Hall of Fame 2025 เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลและหน่วยงานผู้มีบทบาทโดดเด่นในการขับเคลื่อนวงการนาโนเทคโนโลยีของไทย รวมถึงรางวัล Young Nanotechnologist Award 2025 และรางวัล High School Student Award และ 3-Minute Pitching Award สำหรับนักเรียน–นักศึกษา เพื่อส่งเสริมการพัฒนากำลังคนและสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านนาโนเทคโนโลยีในระดับสากล

พญ. เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประธานเปิดการประชุม NanoThailand 2025 กล่าวว่า ภายใต้แนวคิด “Evolutionality in the Future” หรือ “วิวัฒนาการแห่งอนาคต” การประชุมวิชาการนานาชาติด้านนาโนเทคโนโลยี NanoThailand 2025 จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำพันธสัญญาร่วมกันของนานาประเทศในการผลักดันองค์ความรู้ระดับจุลภาคสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ทรงคุณค่าต่อมนุษยชาติ

แม้ “นาโนเทคโนโลยี” จะดำเนินการในระดับที่เล็กจนมองไม่เห็น แต่กลับสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ต่อคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และอนาคตร่วมของโลก โดยนับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2551 NanoThailand ได้เติบโตจากเวทีแห่งความทะเยอทะยานทางวิทยาศาสตร์ สู่ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้และความร่วมมือระดับนานาชาติ ที่เปิดพื้นที่ให้นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และภาคอุตสาหกรรมจากทั่วโลกได้ร่วมกันขับเคลื่อนแนวคิดใหม่และเร่งการค้นพบทางเทคโนโลยี

“ปัจจุบันการพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีขยายครอบคลุมทุกสาขา ทั้งพลังงานสะอาด วัสดุขั้นสูง การแพทย์แม่นยำ และระบบการผลิตยุคใหม่ ซึ่งล้วนต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อยกระดับมาตรฐานและสร้างความยืดหยุ่นให้กับสังคมโลก การเข้าร่วมของผู้แทนจากภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคอุตสาหกรรม และคนรุ่นใหม่ในปีนี้ สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งจุดมุ่งหมายร่วมในการเปลี่ยน “รอยเท้าเล็กแห่งการค้นคว้า” ให้กลายเป็น “ก้าวกระโดดแห่งการเปลี่ยนแปลง” เพื่อสร้างสังคมแห่งนวัตกรรมที่มั่นคง ยั่งยืน และเติบโตไปพร้อมกันทั้งโลก“ พญ. เพชรดาว กล่าว

ด้านดร. ภญ. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการนาโนเทค สวทช. และประธานคณะทำงานอำนวยการจัดงานฯ กล่าวว่า การประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติทางนาโนเทคโนโลยี NanoThailand 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 และครบรอบ 18 ปี ภายใต้แนวคิด “Revolutionizing the Future: นาโนเทคโนโลยีพลิกโฉมโลกอนาคต” มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คนจาก 20 ประเทศทั่วโลก มุ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และผลงานวิจัยระหว่างภาควิชาการ ภาครัฐ และเอกชน เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านนาโนเทคโนโลยีสู่การประยุกต์ใช้เชิงพาณิชย์

“เวที NanoThailand จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางนาโนเทคโนโลยีของไทยและของโลก บูรณาการความร่วมมือจากภาควิชาการ ภาคเอกชน และเยาวชน ซึ่งเป็นกำลังคนแห่งอนาคต ซึ่งนอกจากเนื้อหาทางวิชาการเข้มข้นแล้ว ยังเปิดพื้นที่ให้ภาคอุตสาหกรรมได้นำนาโนเทคโนโลยีไปต่อยอดเชิงธุรกิจ ตั้งแต่บริษัทขนาดใหญ่ถึงสตาร์ทอัป“ ผู้อำนวยการนาโนเทค กล่าว

สำหรับ Business Session ปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Nanotechnology for Industry Impact & Commercialization” ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยพัฒนาผลิตภัณฑ์นาโนเทคโนโลยีสู่ตลาดโลก โดยมีการนำเสนอกรณีศึกษาความสำเร็จจากภาคเอกชนในหัวข้อ “Challenging Factors in Advancing a Nano Product from Lab to Market” โดย IRPC และ “การส่งเสริมกลไกภาคธุรกิจ” โดย NIA พร้อมเสวนาหัวข้อ “Nano Revolution: Transforming Business in Times of Economic Crisis” ที่เปิดมุมมองการใช้เทคโนโลยีนาโนในการสร้างโอกาสทางธุรกิจท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนามากกว่า 12 หัวข้อจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ครอบคลุมตั้งแต่นาโนวัสดุเพื่อพลังงานสะอาด นาโนแพลตฟอร์มทางการแพทย์ นาโนเทคโนโลยีในอาหารและเกษตร ไปจนถึงการผลิตอัจฉริยะและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อยกระดับการประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีในทุกมิติของอุตสาหกรรมอนาคต

รศ. ดร.สุรินทร์ เหล่าสุขสถิตย์ นายกสมาคมนาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมนาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้นในฐานะองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่เป็น “ศูนย์กลางแห่งการเชื่อมโยงองค์ความรู้” ระหว่างภาควิชาการ ภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรม ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมด้านนาโนเทคโนโลยีให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการประสานความร่วมมือ แก้ไขปัญหา และพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจยุคใหม่

ความร่วมมือระหว่างนักวิจัยและศูนย์นาโนเทค สวทช. มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศวิจัยที่ครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาพื้นฐาน การพัฒนางานวิชาการ ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมจริง โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังขยายสู่ความร่วมมือในระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และยกระดับขีดความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ

โดยสมาคมฯ มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยีแก่สังคมในวงกว้าง ผ่านเวทีสำคัญอย่างงาน NanoThailand ซึ่งเป็นพื้นที่ให้ภาควิชาการและภาคอุตสาหกรรมได้พบกันอย่างเป็นรูปธรรม

ผศ.ดร.ภาวินทร์ เอี่ยมประเสริฐกุล จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ได้รับรางวัล Young Nanotechnologist Award 2025 กล่าวว่า กลุ่มวิจัยของตนมุ่งเน้นการสังเคราะห์และพัฒนาวัสดุนาโนในกลุ่ม วัสดุสองมิติ (2D Materials) โดยใช้เทคนิคการลอกชั้น (exfoliation) เพื่อสกัดชั้นนาโนสำหรับงานประยุกต์ด้านแบตเตอรี่ ตัวเก็บประจุ และตัวเร่งปฏิกิริยาผลิตไฮโดรเจนซึ่งเป็นพลังงานสะอาดแห่งอนาคต

“ผลงานที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการต่อยอดงานวิจัยของนักศึกษาหลายรุ่นภายในห้องปฏิบัติการ โดยแต่ละรุ่นได้สานต่อความรู้และทักษะให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม “ความภูมิใจไม่ได้อยู่ที่ตัวรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่คือการเห็นนักศึกษาพัฒนาและเติบโตทางวิชาการ พร้อมกับสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับประเทศ” ผศ.ดร.ภาวินทร์ กล่าว