MONEY20/20 ASIA มหกรรมฟินเทคระดับโลกในไทย ภายใต้แนวคิด “Create the Future” ขับเคลื่อนอนาคตการเงินครั้งที่ 2


Money20/20 Asia มหกรรมฟินเทคระดับโลก เตรียมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายนนี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเป็นเวทีรวมตัวของวิทยากรชั้นนำระดับประเทศและนานาชาติ พร้อมด้วยสื่อมวลชนจากไทยและต่างประเทศ รวมถึงบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมการเงินและเทคโนโลยี เพื่อสร้างเครือข่าย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และกำหนดทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมทางการเงินระดับภูมิภาค

Danny Levy, Managing Director ของ Asia และ ANZ เปิดเผยว่า งาน Money20/20 ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Create the Future” โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนฟินเทคให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน จากบริษัทต่างๆ ทั่วเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารระดับสูง (C-Suite) ซึ่งในปีที่แล้วมีผู้เข้าร่วมจากฟินเทคชั้นนำของภูมิภาคถึง 78% สำหรับปีนี้จะให้ความสำคัญกับ AI, บล็อกเชน และความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นหลัก

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีวิทยากรชั้นนำจากทั่วเอเชียกว่า 250 คน พร้อมหัวข้อสัมมนาครอบคลุม 19 อุตสาหกรรมหลักในระบบนิเวศของฟินเทค รวมถึงการพูดคุยกับองค์กรกำกับดูแลและพาร์ทเนอร์ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการเติบโตและพัฒนาของวงการฟินเทคที่ส่งผลต่อไทยและประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นงานสำคัญที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีทางการเงิน

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า มหกรรมรวมฟินเทคชั้นนำของโลกอย่าง Money 20/20 ในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญด้านการเป็นศูนย์กลางของฟินเทคและนวัตกรรมชั้นนำของภูมิภาค ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่สองถือว่า TCEB นั้นเป็นหน่วยงานของภาครัฐที่ดำเนินงานและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไทยในการผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางของงานอีเวนต์ธุรกิจต่าง ๆ ที่เสริมการเติบโตและพัฒนาในอนาคตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมฟินเทค ซึ่ง TCEB พร้อมเป็นส่วนสำคัญที่จะร่วมนิยามระบบนิเวศทางการเงินที่เป็นประโยชน์และการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่ทุกคนในสังคม

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวถึงความสำคัญของฟินเทคว่า เมื่อเทียบกับ 9 ปีที่แล้ว ภาคส่วนแรกของสตาร์ตอัปในประเทศไทยที่เกิดขึ้นคือ ฟินเทค ซึ่งถือเป็นกลุ่มแรกที่บุกเบิกระบบนิเวศของสตาร์ทอัปไทย ในเวลานั้น ฟินเทคไม่ได้มีเพียงแค่สตาร์ทอัปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาคธนาคาร และโครงการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จัดทำแซนด์บ็อกซ์สำหรับฟินเทค เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ หลังจากนั้น ฟินเทคได้กลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ธุรกิจทุกประเภทนำมาใช้ ทำให้ระบบนิเวศของสตาร์ทอัปเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมี TVCA และสมาคมต่างๆ รวมถึง ภาคการลงทุนร่วมทุน (Venture Capital – VC) ที่เข้ามาสนับสนุนฟินเทคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฟินเทคขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเทคโนโลยีฟินเทคพัฒนาไปมากขึ้น แพลตฟอร์มต่างๆ ก็เริ่มนำฟินเทคมาใช้ พร้อมทั้งมี VCCBC ในภาคโทรคมนาคม ที่เข้ามาดูแลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และป้องกันแฮกเกอร์ นอกจากนี้ บริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังมีแผนก VC (Venture Capital) ของตนเอง เพื่อใช้ลงทุนในเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่ให้ความสำคัญก็คือฟินเทค โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟินเทคเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย คือการให้การสนับสนุนแก่สตาร์ทอัปจำนวนมาก ในช่วงแรก NIAมอบเงินทุนสนับสนุนเพื่อให้โครงการฟินเทคเริ่มต้นได้ แต่หลังจากนั้น ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การให้ทุน แต่ยังมีการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ จัดกิจกรรม จับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และช่วยให้ฟินเทคเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดภาครัฐหรือภาคเอกชน เพื่อช่วยให้พวกเขาเติบโตและขยายธุรกิจได้อย่างมั่นคง

“ในปีนี้ กลไกของเราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเป้าหมายสุดท้ายของเราคือการผลักดันฟินเทคของไทยไปสู่ เวทีระดับโลก ปัจจุบัน เรากำลังนำพาสตาร์ทอัพด้านฟินเทคเข้าสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ และในกระบวนการนี้ ฟินเทคของไทยได้พัฒนาและเติบโตขึ้นทุกปี งาน Money20/20 จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ฟินเทคของเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ แนวโน้มระดับโลก รวมถึงพบปะกับผู้เล่นระดับโลก รวมถึง VC และนักลงทุน เพื่อให้สามารถเติบโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว” ดร.กริชผกา กล่าว

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานปีนี้คือ การประกาศความร่วมมือระหว่าง Money20/20 Asia กับ Venture Spark ซึ่งเป็นโปรแกรม Accelerator สำหรับสตาร์ตอัประยะเริ่มต้นที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะอุตสาหกรรม โดยร่วมมือกับ A2D Ventures เพื่อให้การสนับสนุนด้านคำปรึกษา เงินทุน และโอกาสทางธุรกิจ ช่วยให้สตาร์ตอัปสามารถเติบโตในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ในวันที่ 22 เมษายน เวลา 13.00-15.00 น. Money20/20 และ Venture Spark จะจัด “วันสาธิตเพื่อธุรกิจ” (Demo Day) เปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปจากไทยที่มีฐานลูกค้าในตลาดโลก ได้นำเสนอธุรกิจของตนต่อ Venture Capital ระดับภูมิภาคและนานาชาติ รวมถึงผู้นำอุตสาหกรรมและบริษัทเอกชน โดย 5 สตาร์ตอัปที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด จะได้รับเงินลงทุนสูงสุด 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโอกาสเข้าถึงเครือข่ายของ Venture Spark และกองทุนจับคู่ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน

“ปีที่สองในช่วงเวลาที่วงการฟินเทคของเอเชียกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว งานนี้จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังที่สุดในการเชื่อมโยงผู้นำอุตสาหกรรม เสริมสร้างเครือข่าย ร่วมมือกัน และแลกเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ๆ” นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำว่าอุตสาหกรรมฟินเทคยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ Money20/20 Asia มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปครั้งนี้ เพื่อให้ธุรกิจและบุคคลในอุตสาหกรรมสามารถก้าวสู่อนาคตของภาคการเงินได้อย่างมั่นคง” Danny Levy กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save