
กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ภายใต้การนำของ สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีกระทรวงอว.เดินหน้าเปิดนโยบายเร่งด่วน (Quick Win) เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ภายใน 4 เดือน มุ่งบรรเทาปัญหาการว่างงานและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรทั่วประเทศ ผ่านการเปิดโครงการ Upskill-Reskill ให้ประชาชนได้พัฒนาทักษะใหม่สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบัน พร้อมสนับสนุนการต่อยอดสู่ผู้ประกอบการ SMEs และสตาร์ทอัป ควบคู่กับการขับเคลื่อนโครงการ “โดรนเพื่อการเกษตรคนละครึ่ง”
นอกจากนี้ กระทรวงยังเตรียมผลักดันโครงการ “มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)” เพื่อขับเคลื่อนสถาบันอุดมศึกษาสู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2050 ควบคู่กับการพัฒนาโครงการ Credit Bank หรือระบบคลังหน่วยกิตแห่งชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่างแท้จริง

เดินหน้านโยบายเร่งด่วน แก้ปัญหาตลาดแรงงาน
สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ภายในระยะเวลา 4 เดือน กระทรวง อว. จะเร่งเดินหน้านโยบายเร่งด่วน (Quick Win) ที่เห็นผลได้จริงควบคู่กับการต่อยอดนโยบายเดิมที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยนโยบายแรกมุ่งบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะการว่างงานที่กำลังเป็นปัญหาในวงกว้าง สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานภายใต้อิทธิพลของเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทำให้แรงงานในหลายระดับตกงานเป็นจำนวนมาก
กระทรวง อว. จึงเตรียมเปิดโครงการ Upskill-Reskill ให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยและอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคจัดหลักสูตรพัฒนาทักษะในสาขาที่เป็นความต้องการเร่งด่วนของตลาดแรงงาน เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานที่มีประสบการณ์อยู่แล้วเข้ามาพัฒนาและเพิ่มพูนทักษะใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง พร้อมทั้งดึงหน่วยงานให้ทุน เช่น Ted Fund, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมาสนับสนุนทั้งการบ่มเพาะธุรกิจและให้ทุนต่อยอด เพื่อช่วยให้แรงงานที่มีทักษะสามารถต่อยอดสู่การเป็นผู้ประกอบการ SMEs หรือสตาร์ทอัปได้ในอนาคต
เตรียมนำร่อง “โดรนคนละครึ่ง” ผลักดันเกษตรกร
อีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วนที่กระทรวง อว. เตรียมขับเคลื่อนคือ “โครงการโดรนเพื่อการเกษตรคนละครึ่ง” ซึ่งถือเป็นการนำวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมลงไปรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง โครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ลดการสัมผัสสารเคมี เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และประหยัดเวลาและแรงงาน โดยมีรูปแบบของนโยบายเป็นการช่วยค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายในการใช้บริการโดรนเพื่อการเกษตรคนละครึ่ง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนผ่านสู่เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเริ่มนำร่องในพื้นที่ภาคกลางภายใน 2 เดือน ก่อนขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ กระทรวง อว. จะดึงเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs และสตาร์ทอัปด้านโดรนที่อยู่ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมาร่วมให้บริการเช่าโดรน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการรายย่อยเข้าร่วมโครงการด้วย เพื่อช่วยสร้างรายได้และขยายโอกาสให้กับอุตสาหกรรมโดรนของไทยในวงกว้าง

หนุนค่าสมัครสอบ TCAS69
สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า กระทรวง อว. เตรียมเดินหน้านโยบายสนับสนุนค่าสมัครสอบระบบ TCAS เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนและผู้ปกครอง ซึ่งเป็นนโยบายต่อเนื่องของพรรคภูมิใจไทย โดยจะเริ่มดำเนินการอย่างเข้มข้นในการสอบ TCAS69 สนับสนุนค่าสมัครสอบ TGAT ในอัตรา 140 บาทต่อคน และค่าสมัครสอบรอบที่ 3 (Admission) ในระบบ TCAS เพิ่มเติม โดยผู้สมัครสามารถเลือกสมัครได้สูงสุด 7 อันดับฟรี ในอัตรา 600 บาทต่อคน นอกจากนี้ กระทรวง อว. ยังจะสนับสนุนค่าสมัครสอบวัดความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ TPAT 1–5 อัตรา 140 บาทต่อคนทุกประเภท ซึ่งคาดว่าจะมีนักเรียนและผู้ปกครองได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้มากกว่า 733,750 คน
“ระบบคลังหน่วยกิต” ส่งเสริมการเรียนรู้เท่าเทียม
กระทรวงอว.ยังเร่งขับเคลื่อนโครงการ “Credit Bank” หรือระบบคลังหน่วยกิต ให้เป็นกลไกหลักในการสะสมและเทียบโอนหน่วยกิตจากประสบการณ์การทำงานและการเรียนรู้นอกระบบ โดยตั้งเป้าให้มีความพร้อมสมบูรณ์ภายในปี 2570 ซึ่งทุกสถาบันอุดมศึกษาจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันได้ โดยรายวิชาในมหาวิทยาลัยและหลักสูตรระยะสั้นจากภาคเอกชนที่ผ่านการรับรอง จะได้รับการบันทึกและจัดเก็บไว้ในคลังหน่วยกิต เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถนำหน่วยกิตไปใช้พัฒนาศักยภาพได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ดันมหาวิทยาลัยสีเขียวสู่ Net Zero ปี 2050
สุรศักดิ์ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญที่ตั้งใจจะผลักดันให้สำเร็จภายในปีนี้คือโครงการ “มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) สู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2050” เพื่อขับเคลื่อนสถาบันอุดมศึกษาให้เป็นต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเน้น 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1) การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด 2) การประกาศนโยบาย Net Zero ให้สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวง อว. และรัฐบาล และ 3) การพัฒนาให้มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมสีเขียว สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ และยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรสู่เศรษฐกิจสีเขียวในอนาคต โดยโครงการดังกล่าวจะดำเนินการร่วมกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อย่างเป็นรูปธรรม
นำนวัตกรรมแก้ภัยพิบัติ-สิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ กระทรวงอว.ยังจะนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ เช่น ระบบติดตามสถานการณ์น้ำและแอปพลิเคชัน “Thai Water” จากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ รวมถึงการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อติดตามพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ช่วยในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน วิเคราะห์ และวางแผนรับมือสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีเดียวกันในการติดตามและประเมินสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ซึ่งระบบทั้งหมดนี้ไม่เพียงช่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยพยากรณ์และวิเคราะห์สภาพอากาศเพื่อใช้วางแผนการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“นักการเมืองต้องทำในสิ่งที่สมควรทำ ไม่เป็นตัวถ่วง ต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้ข้าราชการทำงานอย่างราบรื่น ภายในเวลาเพียง 4 เดือน เราตั้งใจว่านโยบาย Quick Win ทุกข้อจะต้องเห็นผลสำเร็จ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน” สุรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย