ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS คาดGDP ปี’68 เติบโต 2.7% จับตา 5 ประเด็นความท้าทาย จุดพลิกผันเศรษฐกิจไทย


ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2568 เติบโต 2.7%  จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยว การลงทุนภาคเอกชน และมาตรการของภาครัฐ  แนะปรับตัวรับมือ 5 ประเด็นความท้าทาย พลิกเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่อง เร่งแก้ปมเศรษฐกิจนอกระบบเพื่อเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจยั่งยืน

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ (กลาง) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย
ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ (กลาง) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ระดับ 2.7%จากแรงกดดันของสงครามการค้าที่กลับมาเร่งตัวขึ้นและความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกอาจขยายตัวเพียง 2%ชะลอลงจากปีก่อน แม้ในครึ่งปีแรกคาดว่าจะยังขยายตัวได้ดี แต่ความชัดเจนเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะกดดันการส่งออกช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับปัญหาเชิงโครงสร้างด้านการส่งออกสินค้าที่ยังมีอยู่ท่ามกลางการตีตลาดที่รุนแรงและขยายวงมากขึ้นจากปัจจัย Over Supplyในจีน

สำหรับภาคการท่องเที่ยว เป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ จะกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด-19 ที่ 39 ล้านคน  เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชน ที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวตามแนวโน้มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)  ที่เติบโตโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจแห่งอนาคต ขณะที่ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมาตรการที่จะทยอยดำเนินการในช่วงครึ่งแรกของปี ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 และเฟส 3 รวมถึงมาตรการ Easy E-Receipt ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกมีโมเมนตัมและเติบโตได้ดี

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความจำเป็นที่ภาครัฐอาจพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจ  โดยเร่งแก้ปมเศรษฐกิจนอกระบบเพื่อเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจ ด้วยการเร่งผันเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ในระบบด้วยมาตรการที่หลากหลาย มาตรการที่หนึ่งคือ ลดอุปสรรคในการเข้าสู่ระบบ อาทิ ลดขั้นตอนเอกสาร ระยะเวลา และต้นทุน รวมถึงเน้นการบริการ แบบ One Stop Service ซึ่งเห็น Success Case ในประเทศเม็กซิโก ที่หลังจากเริ่มระบบ One Stop Service ทำให้การจดทะเบียน Formal Businesses เพิ่มขึ้น 15%  มาตรการที่สองคือ สร้าง Incentive ด้วยมาตรการทางภาษีและอื่นๆ เช่น Negative income tax  และมาตรการที่สามคือ นำเทคนิคเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ สอดคล้องกับที่ประชุม APEC 2024 ณ ประเทศเปรู ที่ชูแนวคิด Empowering the transition to the formal procurement ดังเช่นในประเทศสิงคโปร์ที่พัฒนาระบบนี้จนทำให้ 80% ของสัญญาจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐสามารถเกิดกับภาค SME ได้

อีกทั้งประเด็นที่หน้าจับตา ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ คือตลาด  Man-made  ทั่วโลกเติบโตสูง ขณะที่ไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มต่างชาติในไทย อัตราการเติบโตของตลาดแหล่งท่องเที่ยวและอีเว้นท์   แต่ละประเภทมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR)อยู่ในช่วง 8.2% –16.4% โดยเฉพาะตลาด Sport Tourism & Event ที่เติบโตสูงถึง 16.4% ขณะที่ คาดการณ์ได้ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยจะแตะ 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 33% YOY คิดเป็น 0.9% ของGDP ในปี2568  และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะแตะ 3.1 ล้านคน

“โดย MICE ก็ถือว่าเป็นกลุ่มหลักที่เข้ามามาไทย ซึ่งมองว่า ไทยมีโอกาส Capture ตลาดกลุ่ม Sport Tlourism & Event ที่ปัจจุบันยังมีบทบาทน้อยแต่เทรนโลกยังคงมาแรง  แต่ในขณะเดีบวกันมองว่าประเทศไทยเองมีความได้เปรียบจากงานประเพณีของแต่ละท้องที่ที่สามารถหมุนเวียนไปตลอดทั้งปี เช่น เทศกาลสงกรานต์ ประเพณีโคมยี่เป็ง  โดยจากการสำรวนความเข้าใจของนักท่องเที่ยว Man-made  แต่ละกลุ่มถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ จากการสำรวจของ Mckinsey ในปี 2567 พบว่า 70% ของกลุ่ม Z และ Y สนใจเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และต้องการท่องเที่ยวในต่างแดนมากกว่า 2 ครั้ง /คน/ปี เหนือกว่าวัยอื่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงต่อภาคการท่องเที่ยวไทย จึงเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญระยะสั้นในการยกระดับงานเทศกาลหรืออีเวนท์เดิมสู่เมกะอีเวนท์ระดับเวิลด์คลาส

Krungthai COMPASS  มองว่า ปี 2568 นี้  เป็นปีแห่งจุดพลิกผันสำคัญ (Inflection Point) ของเศรษฐกิจไทย โดยมีความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนในหลากหลายมิติ ดังนี้

  1. สงครามการค้ารอบใหม่ ทำให้สินค้าส่งออกของไทยที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูง เสี่ยงได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุตสาหกรรม ที่อาจถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 40%-60%
  2. เศรษฐกิจนอกระบบขนาดใหญ่ ถึง 48% ของจีดีพี ทำให้จำเป็นต้องเร่งผันเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ในระบบมากขึ้น เพื่อพลิกศักยภาพเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น
  3. อุตสาหกรรมยานยนต์ภายใต้ Perfect Storm ที่รถยนต์สันดาปยากจะกลับไปสู่ยุครุ่งเรือง โดยคาดว่ายอดผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2568-69 อยู่ที่ 1.47-1.53 ล้านคัน/ปี ลดลงจากค่าเฉลี่ยในอดีตกว่า 15% จากปัจจัยด้านกำลังซื้อครัวเรือนไทย กระแส EV และการแข่งขันด้านราคารุนแรง
  4. พลิกโฉมการท่องเที่ยวด้วย Man-made Destination เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่และเพิ่มเม็ดเงินท่องเที่ยวให้สะพัดมากขึ้น ซึ่งคาดว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่ม Man-made ในไทย ปี 2568 จะอยู่ที่ราว 58,300 บาท/คน/ทริป ซึ่งสูงกว่าในกรณีนักท่องเที่ยวทั่วไปกว่า 19%  
  5. ปลดพันธนาการที่เหนื่ยวรั้งเศรษฐกิจไทย ทั้งความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในระดับสูง หนี้ครัวเรือนที่เมื่อรวมกับหนี้นอกระบบสูงถึง 104% ของ GDP ซึ่งต้องยกระดับรายได้ และ Safety Netของครัวเรือนอย่างเป็นระบบ สอดรับกับมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ได้อย่างยั่งยืน รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ก้าวทันกระแสโลกและลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ อาทิ Regulatory Guillotineเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

“Krungthai COMPASS มองว่าปี 2568 เป็นจุดพลิกผัน หรือ Inflection Point ของเศรษฐกิจไทย ที่เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสซึ่งต้องอาศัยการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการตั้งคำถามและหาแนวทางในการยกระดับรายได้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ต่อยอดจากนโยบายระยะสั้นที่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยไปแล้วในปี 2567 ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน” ดร.พชรพจน์ กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save