IT CITY เปิดตัวแผนธุรกิจประจำปี 2568 ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งด้านสินค้า บริการ และสิทธิประโยชน์ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง AIS ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารของประเทศไทย การจับมือครั้งนี้จะช่วยขยายศักยภาพของ IT CITY ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างครอบคลุมและครบวงจร โดยเฉพาะการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อ ผ่านแผนกลยุทธ์ ‘O2O’ (Online-to-Offline) ซึ่งผสานการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์และหน้าร้านเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย ไร้รอยต่อ และเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
โสภณ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมลงทุนในการขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า พร้อมวางแผนทบทวนปรับเปลี่ยนสาขาในบางทำเล เพื่อรักษาผลดำเนินการและกำไรในภาพรวม และวางแผนปรับปรุงสื่อหน้าร้านและรูปแบบการวางสินค้าหน้าร้านทั้งหมดให้ทันสมัยและดึงดูดลูกค้ามากขึ้น ในปี 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์เรือธงในการทำตลาดของ IT CITY ที่มีสัดส่วนยอดขายมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.สินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet) 58%, 2.สินค้าอุปกรณ์ไอที (IT Devices) 27% และ 3.สินค้าอุปกรณ์เสริมไอที (IT Accessory) 7%
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนกำไรมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet) 48%, สินค้าอุปกรณ์ไอที (IT Devices) 20% และสินค้าอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet Accessory) 16% ปัจจุบัน IT CITY แบ่งกลุ่มสินค้า ออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.สินค้าอุปกรณ์ไอที (IT Devices), 2.สินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet), 3.สินค้าอุปกรณ์เสริมไอที (IT Accessory) 4.สินค้าอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet Accessory) และ 5.ซิมการ์ด และการเปิดเบอร์
ส่วนตลาดสินค้าและอุปกรณ์ไอทีในประเทศไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนสำคัญจากการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ถูกนำมาใช้ในรูปแบบฟีเจอร์ต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ชิดผู้บริโภค ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี AI ยังมีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดของแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำ ช่วยผลักดันให้ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
“อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ตลาดสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มชะลอตัว โดยคาดว่าอัตราการเติบโตเชิงมูลค่าจะหดตัวติดลบ 7.7% และเชิงปริมาณลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 (มกราคม-พฤศจิกายน) ขณะที่ในปี 2566 ตลาดสมาร์ทโฟนมีอัตราเติบโตเชิงมูลค่าอยู่ที่ 3.1% และเชิงปริมาณเติบโต 5.6% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดกำลังเผชิญกับภาวะการเติบโตติดลบในระดับสองหลัก (Double Digit)” โสภณ กล่าว
ขณะที่ตลาดคอมพิวเตอร์ในไทยคาดว่าจะมีความต้องการขยายตัวสูงขึ้น หลังจากผู้ผลิตชิปชั้นนำได้เปิดตัวเทคโนโลยี AI อาทิ Intel Core Ultra, Ryzen Ai และ Nvidia RTX 5000 Series เพื่อส่งเสริมประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์ในภารกิจต่างๆ ได้ชาญฉลาดและรวดเร็วขึ้น ซึ่งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ชั้นนำต่างนำเทคโนโลยีจากผู้ผลิตชิปเหล่านี้มาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค
โสภณ กล่าวอีกว่า ในปี 2568 บริษัทฯ วางแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวร่วมกัน ล่าสุดบริษัทฯ ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส (AIS) ในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับกลุ่มลูกค้าไอที ซิตี้ และ AIS ในด้านต่างๆ โดยลูกค้า IT CITY สามารถเปิดเบอร์ AIS ใหม่พร้อมรับสิทธิ์ส่วนลดพิเศษค่าเครื่องได้ที่หน้าร้าน IT CITY ทุกสาขาทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ลูกค้าเก่ารายเดือนของ AIS ก็สามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดพิเศษค่าเครื่องผ่านหน้าร้าน IT CITY ได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งลูกค้า IT CITY ที่ใช้บริการ AIS ยังจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น ส่วนลดในการซื้อสินค้าอื่น ๆ ภายในร้าน การเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่จะมอบให้ในอนาคต
“ความร่วมมือระหว่างไอที ซิตี้ และ AIS เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นร่วมกันเพื่อยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจของลูกค้า โดย AIS ถือเป็นเครือข่ายมือถืออันดับหนึ่ง ที่มีความครอบคลุมและเสถียรภาพสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งไอที ซิตี้ มองเห็นศักยภาพของการเป็นพันธมิตรกับ AIS ในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟ พาร์ทเนอร์ ในครั้งนี้ จะเป็นการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสององค์กร เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจบริษัทในปีนี้ ยังมองหาโอกาส และความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายอื่น ๆ ที่ร่วมสนับสนุนทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคให้ได้รับประสบการณ์ด้านความพึงพอใจอย่างสูงสุดให้กับกลุ่มลูกค้าตลอดทั้งปี” โสภณ กล่าวทิ้งท้าย
ประพัฒน์ เสียงจันทร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจค้าปลีก AIS กล่าวว่า เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงครั้งนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ IT CITY ในฐานะผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอทีแบบครบวงจรของประเทศมาเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่จะช่วยขับเคลื่อนการทำงานเพื่อสามารถส่งมอบสินค้าและบริการดิจิทัลที่เข้าใจทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์พร้อมสิทธิพิเศษให้ดียิ่งขึ้น ด้วยจุดแข็งของ IT CITY ที่มีสาขาครอบคลุมกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ ทำให้การทำงานร่วมกันครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นที่ 1 ตัวจริง ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการลูกค้า ที่นอกเหนือจากการดูแลทั้งการใช้งานมือถือ และเน็ตบ้านเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่มแล้ว
นอกจากนี้ เราได้ร่วมมือกับ IT CITY ในการตั้งจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-Waste) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟนเก่า แบตเตอรี่ อุปกรณ์เสริม และสินค้าไอทีที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว มาฝากทิ้งอย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยโครงการนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการและวางแผนให้ครอบคลุมทุกสาขาของ IT CITY ทั่วประเทศ โดยความร่วมมือนี้ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์จากการเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ สู่การเป็นพันธมิตรที่มุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนในระยะยาว เรามุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาขยะที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ และเพิ่มโอกาสในการรีไซเคิลทรัพยากรเพื่อกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โครงการนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์กร ในการสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
เกษม ศรีเลิศชัยพานิช รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์หลักที่จะใช้สำหรับส่งเสริมการขายในปี 2025 เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การเปิดตัวประกันสมาร์ทโฟน Max Protection by IT CITY ซึ่งเป็นประกันความคุ้มครองสมาร์ทโฟนที่ครอบคลุมทุกมิติและดีที่สุดในตลาด ลูกค้าสามารถเคลมประกันได้ที่หน้าร้านในเครือ IT CITY ทุกสาขาทั่วประเทศ
ประกันนี้ครอบคลุม 5 มิติ ได้แก่ 1.การเปลี่ยนเครื่องทันทีใน 30 วัน 2.ประกันหน้าจอแตกหรือจอเบิร์น 2 ครั้งภายใน 2 ปี 3.ประกันการซ่อมเครื่องไม่จำกัดจำนวนครั้งใน 2 ปี ประกันแบตเตอรี่ 1 ครั้งใน 2 ปี และ 4.การดูแลซอฟต์แวร์ตลอดอายุการใช้งาน ส่วนที่สองคือการนำระบบสะสมคะแนนลูกค้า IT CITY Reward มาใช้ โดยลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมจากทุกยอดใช้จ่าย 100 บาท เท่ากับ 1 คะแนน คะแนนดังกล่าวสามารถนำมาแลกรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งถัดไป หรือแลกของรางวัลพิเศษ ซึ่งจะมีแคมเปญส่งเสริมการขายออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้าในทุกการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าไอที สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ภายในร้านเครือ IT CITY ทุกสาขาทั่วประเทศ
“เป้าหมายของเราสำหรับปีนี้คือการเติบโต 15% ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากเรามีเครือข่ายสาขาจำนวนมากที่พร้อมให้บริการ และภายในปีหน้า เราคาดหวังที่จะให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้า Accessory มากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายให้มีสัดส่วนสูงถึง 20% ในปีนี้ เพราะสินค้าในกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นแฟชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในอนาคต” เกษม กล่าว